สามารถนำเบี้ยประกันไปลดหย่อนภาษีได้ไหมคะ สำหรับสัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองสุขภาพผู้ป่วยใน (HS, HSP)ของอลิอันซ์อยุธยา

ข้อยกตัวอย่างเรื่องการรักษาโรคไตนะครับ คนที่เป็นโรคนี้แล้วต้องล้างไต เขาไม่ต้อนานที่โรงพยบาลครับ เขาสามารถมารักษาตัวที่บ้านได้ครับ ประกันแบบนี้ก็จะดีตรงนี้แหละครับ เมื่อมารักการล้างไต ก็สามารถที่จะให้ประกันเป็นคนจ่ายค่ารักษาให้ได้เลยครับ เราไม่ต้องมาสำรองจ่ายหรือว่าต้องจ่ายเองด้วยครับ เข้าท่าดีนะครับแบบนี้

ถ้ากลัวเรื่องอุบัติเหตุ แบบนี้ปม ขอแนะนำให้ซื้อประกันอุบัติเหตุเหมือนที่เืพ่อนๆบอกเกมือนกันครับ เพราะว่าถ้าเรามีแบบตรงๆแบบนี้เรื่องการคุ้มครองต่างๆน่าจะง่ายกว่านะครับ อย่างที่ผมทำก็มีนะครับประกันอุบัติเหตุ แต่ปัญหาคือ ผมต้องสำรองจ่ายไปก่อนครับแล้วค่อยมายื่นเคลมทีหลัง แต่ถ้าเรามีประกันอุบัติเหตุโดยตรงผมว่าเข้าท่ากว่าครับ

มันก็เหมือนกับตอนที่เราไปสั่งอาหารตามสั้งแหละครับ ถ้าเรากินแค่กระเพาอย่างเดียวก็ไม่อร่อยใช่ไหมครับเราต้องใส่ไข่ดาวด้วยถึงจะเข้ากันใช่ไหมครับ เหมือนกับปรักันตัวนี้แหละครับ ที่เขาเพิ่มความคุ้มครองให้กับเราถ้าเราซื้อเพิ่ม ซึงอาจจะดูว่าแพงแต่ถ้สว่าคุ้มไหม เอาง่ายๆ ถ้าเรารักษาที่โรงพยาบาลสัก 10วัน แล้วเรามีเงินชดเชยให้วันละ 500-1000 บาท คิดว่าโอไหมละ

ประกันสุขภาพเพิ่มตัวนี้ถ้าไม่ต้องการซื้อก็ได้ครับ ถ้าใครมองว่าไม่มีความจำเป็น แต่ถ้าใครอยากมีไว้เวลาตอนที่เจ็บป่วยแล้วนอนรักษาตัวแล้วกังวลเรื่อเงินรายได้ก็ทำเอาไว้ได้ครับ รู้สุกว่าตัวนี้เขาจ่ายเงินชดเชยรายได้ให้เราประมาณวันละ 500 บาทนะครับ จริงๆแล้วถามว่าดีไหม คือดีนะครับ แต่ถ้าสู้ค่าเบี้ยไม่ไหวก็อย่าเสี่ยงครับ

เรื่องแผนประกันที่จะซื้อเสริมจากการคุ้มครองหลัก ผมว่าตัวที่คุณมองๆอยู่ก็น่าสนใจนะครับ เพราะได้ค่ารักษาตัวขณะที่รับการรักษาที่โรงพยบาลด้วยนะครับ ผมว่าเป็นการเลือกซื้อที่ดีนะครับ เพราะเอาง่ายๆเลยนะครับ ถ้าเรารักษาตัวที่โรงพยาบาลสักสัปดาห์หนึ่ง คนข้างหลังจะเอาที่ไหนใช้ แต่ประกันเสริมตัวนี้ เราไม่ต้องกังวลแล้วครับ

เธอเขาก็เท่าเขาสนใจสัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองผู้ป่วยในตัวนี้ ก็ปล่อยเขาสนใจไปเถอะค่ะ ความต้องการอาจจะไม่เหมือนกันก็ได้ จขกทอาจจะเน้นอยากได้ความคุ้มครองให้ลูกในกรณีนอนโรงพยาบาลมากกว่ามั้ง แต่ถ้าเป็นประกันสุขภาพเด็กแบบเหมาจ่าย วงเงินคุ้มครองด้วยนอนโรงพยาบาลอาจจะให้ไม่มาก ก็จะให้เฉลี่ยเฉลี่ยเท่าๆกันกับผู้ป่วยนอก

เข้าใจครับว่าต้องการทราบข้อมูลก่อน ก็ดีที่มาถามคนที่รู้เอาไว้ จะได้ไปเตรียมตัวในภายหลังได้ ถึงยังไงเรื่องพวกนี้ สักวันก็ต้องเกิดขึ้นแม้ว่าไม่มีใครอยากให้มันเกิดก็ตาม แต่เมื่อถึงเวลานั้นจริงๆอาจตกใจหรือลืมไปแล้วว่าต้องเตรียมเอกสารหรือต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง ผู้รับผลประโยชน์ติดต่อกับตัวแทนประกันของผู้เอาประกันภัยเลยครับ

คำถามของเจ้ากระทู้น่าสนใจนะคะที่บอกว่า "ถ้าลูกเกิดก่อนกำหนดจะสามารถทำประกันชีวิต ประกันสุขภาพ หรือประกันอื่นๆให้ลูกได้ไหม?" ก็จริงนะที่เรามักจะเห็นบ่อยๆว่าประกันชีวิตเนี่ยเด็กแรกเกิดสามารถทำได้ แต่สำหรับเด็กที่คลอดก่อนกำหนด เราเองก็ไม่เคยนึกถึงเรื่องนี้มาก่อนเลยนะคะ เพิ่งมานึกถึงก็ตอนที่มาเจอกระทู้นี้ล่ะค่ะ

เรื่องการลงชื่อผูรับผลประโยชน์จากเงินกรมธรรม์ ไม่ใช่เรื่องเล็กๆเลยนะครับ เมื่อก่อนผมคิดว่า ใส่ชื่อคนที่บ้านน่ะแหละ คนในครอบครัวน่ะ ใครก็ได้ แต่ถ้าผู้รับผลประโยชน์เป็นลูกของผู้ถือกรมธรรม์เอง ต้องคิดเยอะกว่านั้นมากจริงๆ ยิ่งลูกอายุยังน้อย ยิ่งต้องคิดว่าจะทำยังไงให้ลูกได้ใช้เงินจากประกันชีวิตของเรา ไม่ใช่คนอื่นเอาไปใช้

ประสบอุบัติเหตุจนต้องทำศัลยกรรมหน้า คงเป็นอุบัติเหตุที่หนักมาก คุณหมอบอกว่าต้องทำศัลยกรรมเลยเหรอครับ ตอนนี้ลูกของเจ้าของกระทู้เป็นยังไงบ้าง สุขภาพโดยรวมน่ะครับ แล้วในที่สุดต้องทำศัลยกรรมหน้าจริงๆมั้ยครับลูกของคุณน่ะ ยังไงขอให้ดูแลสุขภาพให้ดีกันทั้งครอบครัวนะครับ หวังว่าจะเบิกเงินจากประกันของลูกคุณได้นะครับ

ถ้าเจ้าของกระทู้จะสนใจประกันสุขภาพแฟมิลี่ แคร์ ของเอฟดับบลิวดี ขนาดนี้ ผมว่าติดต่อไปทางบริษัทเพื่อคุยกับเจ้าหน้าที่เลยดีกว่าครับ ไม่ได้ประชดนะ แต่รายละเอียดพวกนี้ต้องเป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัทจริงๆเท่านั้นอะถึงจะรู้ เพราะว่าจะต้องมีเงื่อนไขต่างๆนานาอีกแน่นอนครับ กว่าบริษัทจะจ่ายเงินให้ต้องมีเงื่อนไขอยู่แล้ว

จะซื้อประกันทั้งที แม้ค่าเบี้ยประกันจะไม่แพงมาก แต่ก็ควรจะรู้ว่าประกันที่คุณจะซื้อนั้นให้ความคุ้มครองอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิตหรือประกันอุบัติเหตุ ควรจะรู้รายละเอียดว่าคุณจะได้รับความคุ้มครองหรือสิทธิประโยชน์อะไรบ้างครับ ที่สำคัญ ค่าเบี้ยประกันทั้งหมดที่ต้องจ่ายในครั้งนึงมั้นทั้งหมดกี่บาทกันแน่ จะได้ไม่พลาด