วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์คืออะไรครับ เคยได้ยินแต่วิกฤตต้มยำกุ้ง?

อ๋อ วิกฤติซับไพรม์ นั้นเองครับ และยังรู้จักกันในชื่อ วิกฤติสินเชื่อด้อยคุณภาพ (ในประเทศไทยอาจเรียกว่า วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์) เป็นปัญหาเศรษฐกิจที่ปรากฏให้เห็นชัดในช่วงปี พ.ศ. 2550 และ พ.ศ. 2551 จุดเด่นของวิกฤตินี้คือการที่ความคล่องตัวของตลาดสินเชื่อทั่วโลกและระบบธนาคารลดลง ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากความซบเซาของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริกา การกู้ยืมและการให้กู้ยืมที่มีความเสี่ยงสูง และระดับหนี้สินของบริษัทและบุคคลที่สูงเกินไป วิกฤติครั้งนี้มีผลหลายขั้น เหมือนแฮมเบอร์เกอร์มั้งครับ

ตอนนั้นที่เกิด วิกฤติซับไพรม์ทำให้เกิดความตื่นตระหนกในภาคการเงินและทำให้นักลงทุนพากันถอนเงินออกจากพันธบัตรที่เกี่ยวข้องกับสินเชื่อที่มีความเสี่ยงและหุ้นที่มีราคาไม่แน่นอน และนำไปเก็บสะสมในรูปของสินค้าโภคภัณฑ์แทน ทำให้เกิดปัญหาวิกฤติราคาอาหารโลกและภาวะน้ำมันขึ้นราคา มีการไปลงทุนในอาหารและวัตถุดิบต่าง ๆ ผมคิดว่ามันเกี่ยวกับแฮมเบอร์เกอร์ก็ตรงนี้แหละครับเกี่ยวกับอาหาร

วิกฤตปี 2008 มันยิ่งใหญ่ระดับที่ว่า ธนาคารอาจจะล้มพร้อมกันทั่วโลก คนอาจจะเกลียดและกลัวการใช้เงิน และหันกลับมาปลูกข้าวแลกหมู แทนระบบการเงินกัน โชคดีที่โลกนี้ผ่านมาได้ ส่วนสาเหตุการเกิดวิกฤติการณ์แฮมเบอร์เกอร์ 1.การใช้จ่ายที่ล้นเกินทั้งภาครัฐบาลและประาชนที่เป็นหนี้มหาศาล 2. การลงทุนที่ล้นเกินโดยเฉพาะในภาคอสังหาริมทรัพย์และตลาดการเงิน 3. การเก็งกำไรที่ล้นเกินในภาคอสังหาริมทรัพย์และตลาดการเงิน 4. ราคาสินค้าและทรัพย์สินที่ล้นเกินกว่ามูลค่าแท้จริงของมัน

วิกฤตต้มยํากุ้งเป็นวิกฤตที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศจึงมีชื่อเสียงที่โด่งดังมากกว่า แต่วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์เป็นวิกฤตที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินอย่างเช่นสินเชื่อ ทำให้มีช่วงหนึ่ง สินเชื่อในประเทศไทยนั้นเกิดการด้อยค่าหรือด้อยคุณภาพลงไป ซึ่งมีผลต่อสถาบันทางการเงินหลายๆสถาบัน และมีผลโดยตรงต่อนักลงทุน ต่างๆ

ที่มาของวิกฤติการณ์แฮมเบอร์เกอร์ก็คือ วิกฤติทางเศรษฐกิจปี 2008 เกิดขึ้นที่อเมริกา และส่งผลไปทั่วโลก เนื่องจากเกิดปัญหาบริหารจัดการสินเชื่อ อสังหาริมทรัพย์ผิดพลาด และการบริหารในธนาคารไม่รัดกุมจึงทำให้เกิดปัญหาการขาดสภาพคล่องและคุกคามความมั่นคงของสถาบันทางการเงิน ทำให้บริษัทใหญ่ในอเมริกาหลายบริษัทต้องปิดกิจการ และวิกฤติเศรษฐกิจนี้ได้ลุกลามไปทั่วโลก

วิกฤตการณ์แฮมเบอร์เกอร์ เกิดจากความผิดพลาดของสหรัฐอเมริกาในการจัดการสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ ที่ให้ลูกหนี้เงินกู้ ซื้อบ้านและอสังหาริมทรัพย์ ที่มีเครดิตต่ำกว่าระดับมาตรฐานที่สถาบันการเงินกำหนดไว้ที่จะปล่อยให้กู้ได้อย่างไม่รัดกุมจนเกิดปัญหาขาดสภาพคล่องและคุกคามความมั่นคงของสถาบันทางการเงิน ส่วนวิกฤตการณ์ต้มยำกุ้ง เกิดจากความผิดพลาดในการดำเนินนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนของไทยจนมีทุนสำรองระหว่างประเทศไม่เพียงพอค่ะ

ขอถามต่อเลยละกันนะคะ เพราะสงสัยมานานแล้วว่าใครเป็นคนตั้งชื่อเหรอคะว่าในช่วงเศรษบกิจแบนั้นแบบนี้ต้องเรียกว่าอย่างนั้นอย่างนี้ อาจจะเป็นคำถามที่ไร้สาระแต่อยากรู้จริงๆค่ะ อย่างแบบวิกฤติต้มยำกุ้ง วิกฤติแอมเบอร์เกอร์อะไรแบบเนี่ย ทำไมต้องเป็นชื่อนี้ด้วยคะ? อยากรู้จริงๆค่ะ ไม่ได้จะเข้ามากวนนะคะ ถามจากใจจริงเลยค่ะ

หนูว่าที่เรียกว่าต้มยำกุ้งเพราะว่าเป็นอาหารที่มีชื่อเสียงและนิยมของประเทศไทย ชาวต่างชาติจะรู้กันกันดี ถึงได้เรียกว่า วิกฤติต้มยำกุ้ง ส่วนวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ นั้นเพราะว่าเป็นอาหารที่คนอเมริกันชอบกิน และแฮมเบอร์เกอร์ เป็นอาหารที่คนทั่วโลกรู้จัก จึงได้เรียกว่าวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ และอาหารทั้งสองอย่างเป็นอาหารที่หนูชอบมากค่ะ

ตามที่เคยได้ยินมานะคะ แต่ไม่แน่ใจว่าถูกไหมนะ ก็เค้าใช้แฮมเบอร์เกอร์น่าจะแทนประเทศสหรัฐที่ตอนนั้นมีปัญหาเศรษฐกิจที่หนักจนถึงขั้นวิกฤติ ส่วนวิกฤติต้มยำกุ้งเกิดในเอเชียแถบๆบ้านเรา ก็คงใช้คำนี้เพื่อเป็นภาพเปรียบเทียบอ่ะค่ะ เราเข้าใจว่าอย่างงี้นะ แต่ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วจะถูกไหมนะ แค่เคยได้อ่านผ่านๆตามา ถ้าใครอยากรู้ก็ลองไปหาข้อมูลดูนะคะ

@ดีงาม เลิศเลอ ที่คุณบอกมาก็น่าคิดค่ะ เวลาจะตั้งชื่ออะไรพวกนี้การคำนึงถึงสถานที่เกิดเหตุแล้วเอามาตั้งชื่อ ทำให้คนที่ตามข่าวอยู่พอจะรู้ว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นที่ไหน หรืออาจจะแบบมีผลกระทบกับที่ไหนมากๆ ประมาณนั้นน่ะค่ะ วิกฤติที่เกิดขึ้นที่สหรัฐใช้ชื่อแฮมเบอร์เกอร์ เกิดขึ้นที่ไทยใช้ชื่อ ต้มยำกุ้ง อย่างนี้นึกภาพออกเลยนะคะ

ไม่รู้เลย!!! ไม่รู้ทางวิกฤตต้มยำกุ้ง แล้วก็ วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ด้วย แต่วิกฤตที่เราเจอตอนนี้ ก็คือว่า ทั้งต้มยำกุ้ง ทั้งแฮมเบอร์เกอร์ ก็ไม่ค่อยจะมีเงินไปซื้อมากิน แบบนี้เขาเรียกว่าวิกฤติไหมคะ? ช่วงนี้ประหยัดมาก ประหยัดจนแบบของดีๆไม่ค่อยจะได้กินแล้วอ่ะ มาม่าคืออาหารคู่ใจไปแล้ว ก็คงจะเรียกว่าวิกฤตมาม่าได้มั้ง 555+ หัวเราะทั้งน้ำตา🥲

แนวโน้มที่จะเกิด วิกฤติแบบนี้น่าจะมาให้เราได้เห็นกันอีกแน่ๆใช่ไหมคะ อย่างประเทศไทยบ้านเรา ตอนนี้ยอดเงินที่รัฐบาลกู้เข้ามาเรียกได้ว่ามันทะลุเพดานบินไปแล้ว นี่ถ้ายังไม่สามารถทำเงินเข้าประเทศได้ เราคิดว่าทุกคนในประเทศต้องเจอ วิกฤติ เรื่องเงินอีกแน่แท้ นี้ขนาดช่วงนี้ เจ้าของธุรกิจหลายๆเจ้าต่างก็ต้องปิดกิจการตัวเองลงเยอะมากแล้วนะ

ขออย่าให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในบ้านของเราอีกเลยครับ ผมอยู่ทันช่วงที่ประเทศเราเจอต้มยำกุ้งเลยครับ ตอนนั้นที่บ้านผมรับทำงานก่อสร้างใหม่ๆ กำลังมีลูกค้าที่จะให้ขึ้นโครงการหมู่บ้านหลายเจ้าเลยครับ แต่พอเกิดเหตุการณ์แบบนั้นเจ้าของพวกนี้หายหน้าไปหมดเลยครับ สรุปว่าโครงการที่ว่าจะทำตอนนี้ก็ยังเป็นที่ดินเปล่าอยู่เหมือนเดิม

ถ้าน้องยังไม่ทราบว่ามันคืออะไร น้องรออีกไม่นานหรอกครับเดียวก็จะเห็นเองละครับว่ามันคืออะไร แต่เอาจริงๆนะเรื่องแบบนี้เราไม่ค่อยอยากที่จะเจอกันสักเท่าไรหรอกครับ แต่ดูๆแล้วน่าจะโดนเรื่องนี้อีกทั้งโลกอย่างแน่นอน เพราะว่าโควิด-19 ก็โดนกันหลายประเทศ แถมตอนนี้ก็ยังมีสงครมเข้ามาอีก แย่มากจริงๆมันเลยส่งผลมาถึงระบบการเงินของแต่ละประเทศ