กรุงเทพประกันภัย
บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งโดยคุณชิน โสภณพนิช ดำเนินธุรกิจเป็นบริษัทประกันภัยอย่างเป็นทางการ โดยจดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัด เมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2490 ภายใต้ชื่อว่า "บริษัท เอเซียพาณิชย์ประกันสรรพภัย จำกัด (The Asia Insurance Co., Ltd.) ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 5 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ถนนอนุวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ (ทั้งนี้ ในยุคแรกของการดำเนินงาน บริษัทฯ เป็นเพียงแผนกประกันภัยเล็กๆ แผนกหนึ่งในบริษัท เอเซียพาณิชย์ จำกัด และได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยฉบับแรก ณ วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2490)
ต่อมาในปี 2507 บริษัทฯ จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด จากนั้นได้มีการขยายกิจการและเพิ่มทุนจดทะเบียนมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี พ.ศ. 2521 บริษัทฯ ได้เข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และต่อมาในปี พ.ศ. 2536 ได้แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน จำกัด ในชื่อ "บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน)"
ปัจจุบัน บริษัทฯ ดำเนินกิจการมาด้วยความมั่นคง มากกว่า 70 ปี มีทุนจดทะเบียน 1,064.7 ล้านบาท สามารถรับประกันภัยได้ครบทุกประเภท ภายใต้การแนวการบริหารงานที่เน้นประสิทธิภาพ มุ่งสู่ความเป็นสากล และสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้า โดยมีสาขาและสำนักงานให้บริการครอบคลุมทั่วทุกภาคของประเทศ บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับประชาชนทุกกลุ่ม ด้วยการปกป้องคุณค่าชีวิต การให้คำแนะนำด้านการวางแผนทางการเงิน และบริการที่ประทับใจผ่านตัวแทน คู่ค้า และพนักงานที่มีความจริงใจ และมีความรู้ระดับแนวหน้าของประเทศ
น้อย
มีบางจุดนะครับที่แตกต่างกันแต่ที่ผมเห็นชัดที่สุดก็คือ ราคาของเบี้ยประกันภัยที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนครับ แตกต่างกัน 100 บาท ซึ่งความแตกต่างตรงนี้ จะทำให้เงินชดเชยที่จะได้รับและการคุ้มครองแตกต่างกันมากเลยทีเดียว ถ้าเลือกได้ผมคิดว่าเพิ่มอีก 100 บาทให้การคุ้มครองที่สูงมากเลยครับ ถ้าเพิ่มเงินได้เพิ่มเงินดีกว่าครับอย่าขี้เหนียวไว้เลย
โทน
ในการให้บริการก็ไม่ได้แตกต่างกันหรอกครับแต่สิ่งที่แตกต่างกันก็คือเงินปลอบขวัญ ที่จะได้รับเมื่อมีการตรวจพบว่าเป็นโรคติดต่อที่มาจากยุงเป็นพาหะ ถ้าเป็นแบบแผนที่ 1 ก็จะได้แค่ 10,000 แต่ถ้าแบบแผนที่ 2 ก็จะได้รับเพิ่มอีก 10,000 บาท ก็ถือว่าถ้าสามารถมีเงินได้เลือกได้เลือกแบบแผนที่ 2 ไปเลยครับแค่ 250 บาทเองเบี้ยประกันก็ไม่แพง
มุโระ
ที่จริงก็ต่างกันอยู่นะคะต่างกันที่ความคุ้มครองนะจ๊ะประมาณ 10,000 บาทบวกลบก็แล้วแต่ว่าคุณใช้เงินที่รักษาในการรักษาเยอะขนาดไหน แต่ปกติแล้วถ้าเป็นโรคที่เกี่ยวกับยุงเช่นโรคไข้เลือดออกโรคมาลาเรียหรือโรคต่างๆใช้เงินเยอะมากที่รักษาอาจจะแผน 1 หรือแผน 2 พอดีไหม เลยอยากให้ลองมองถึงแทนประกันภัยแผนที่ 3 ดูนะ น่าจะครอบคลุมมากกว่า
Jelly
@โทน @น้อย ตกลงว่าค่าเบี้ยประกันของแบบแผนที่ 2 มากกว่าแค่ไม่กี่ร้อย ความคุ้มครองได้เพิ่ม มากกว่าเท่าตัว คุณสองคนเลยแนะนำว่าให้ทำแบบแผนที่ 2 เป็นเลยดีกว่า ฉันเองก็คิดว่าดีกว่าค่ะ แต่ก็ต้องดูที่จขกท. ด้วยนะ สำหรับบางคนเงินไม่กี่ร้อยบาทก็มากสำหรับเขาถ้าประหยัดได้ใครๆก็อยากจะประหยัด ถ้าจ่ายเบี้ยไม่ไหวแผนที่ 1 ก็โอเคนะ
กลิ่นจันทร์
ไหนๆจะซื้อทั้งที ไม่ดูแผนการคุ้มครองที่3ไปเลยละคะ มาดูทำไมตัวที่2 การคุ้มครองที่3 จ่ายเบี้ย ประกันปีละ 350บาท ได้เงินปลอบขวัญ3หมื่นบาท ถ้าป่วยจากยุงเป็นพาหะ แล้วก็ได้รับเงินชดเชยรายวัน อีกวันละ พันห้าร้อยบาท ตัวนี้เราว่าดีสุดในแผรการคุ้มครองแล้วคะ จ่ายค่าเบี้ยประกันคิดดูแล้วตกเดือนละ 30บาทเอง ถูกกว่ากาแฟสดซะอีกคะ