มีวิธีที่จะช่วยให้ได้รับส่วนลดในการซื้อประกันภัยไหมครับ

แสดงว่าคุณไม่เคยทำประกันสุจภาพเลยใช่ไหมครับ การคุ้มครองแบบนี้เป็นการจ่ายเงินชดชเยให้กับเราเท่านั้นครับ แล้วอีกอย่างนะครับ เราต้องมีปีะกันสุขภาพตัวหลักของเราก่อนครับ แล้วหลังจากนั้นเราก็ซื้อประกันตัวนี้เพิ่มเข้าไปครับ เวลาที่เรารักษาก็เอาประกันหลักมาคุ้มครองครับ ส่วนตัวนี้ก็ดูแลเราระหว่างที่เรารักษาตัวครับ

ก่อนที่จะเคลมประกัน เราต้องทราบก่อนคะว่าประกันที่เราซื้อเอาไว้ เราสามารถเคลมได้ หรือว่าทางโรงพยาบาลสามารถเคลมให้เราได้เลย อย่างประกันตัวนี้เราสามารถเคลมประกันได้กลังจากที่เราออกจากโรงพยาบาลมาแล้วคะ เราสามารถขอเอกสารจากทางโรงพยาบาลได้เลยคะ แล้วค่อยส่งให้กับบริษัทประกัน หรือว่าจะให้ตัวแทนประกันทำให้ก็ได้คะ

ถ้าเราเข้าไปในเวบของเขา จะมีช่องที่เราสามารถทิ้งข้อมูลส่วนตัวของเราไว้ได้คะ แล้วทางเจ้าหน้าที่เขาจะติดต่อกลับเรามาคะ เราขอบมากคะเวลาที่เราเข้าเวบของเขา ปกติแล้วไม่ค่อยเจอคะที่เขาคำนวนเรื่องเบี้ยประกันที่เราต้องจ่ายคะ เวบนี้ดีมากช่วยให้เราทราบก่อนว่าเราจ่ายไหวไหม เราสามารถเลือกแผนการคุ้มครองได้เหมาะกับเราจริงๆคะ

เรื่องค่าเบี้ยประกันกับความคุ้มครองที่จะได้รับมันคุ้มกันมั้ย ต้องถามคนที่เคยทำประกันมาก่อน ดีนะครับที่มีหลายคนเข้ามาแนะนำและให้ความรู้เพิ่มเติมด้วย ผมเองไม่ค่อยสันทัดเรื่องการทำประกันชีวิตเท่าไหร่ ได้เข้ามาอ่านกระทู้นี้ก็ได้รู้อะไรดีๆหลายอย่าง ใครอยากสมัครประกันชีวิตหรือประกันอื่นต้องหาข้อมูลให้แน่นๆก่อนนะครับ

ไม่ค่อยเจอเลยนะเพื่อนที่ประกันจะจ่ายเงินชดเชยรายได้พร้อมเลย ส่วนใหญ่แล้วถ้าเราอยากำด้เงินชดเชยรายได้ เราต้องซื้อสัญญาเพิ่มเติมเข้าไป อันนี้ดีคะ ซื้อครั้งเดียวจบเลยไม่ต้องมาหาตัวไหนเพิ่มแล้ว แล้วที่เราชอบ คือ ประกันเติมเงินยามป่วย มีหลายแผนการคุ้มครองที่ให้เราเลือกได้เลยคะ ว่าต้องการเงินชดเชยที่วันลพเท่าไร แถมค่าเบี้ยยังไม่แพงด้วย

@77 ก็คงจะมีมั้งคะ ที่จขกทถามไม่ใช่ว่าตอนที่เข้ารับการรักษานะ คือประกันแบบแผนนี้เป็นคุ้มครองให้เงินชดเชยรายได้เมื่อนอนโรงพยาบาล ก็เลยคงจะถามเกี่ยวกับการเคลมประกันออกจากโรงพยาบาลเพื่อรับเงินชดเชยรายได้นะคะ ที่จริงคิดว่าคงไม่ยุ่งยากนะคะทางโรงพยาบาลคงเตรียมเอกสารเพื่อยื่นขอเคลมให้จขกท. อยู่แล้ว เคยนอนโรงพยาบาลแล้วยื่นขอเคลมเงินชดเชยรายได้มาก่อนค่ะ

เปลี่ยนชื่อผู้รับผลประโยชน์ในกรมธรรม์ประกันชีวิตของเราเอง ติดต่อตัวแทนแล้วเปลี่ยนได้เลยมั้ยอะคะ หรือว่าต้องทำอะไรอีก ปกติเราต้องแจ้งผู้รับผลประโยชน์คนเก่ามั้ยว่าเราเปลี่ยนผู้รับประโยชน์แล้ว จะได้ไม่มีปัญหามาทวงความเป็นผู้รับผลประโยชน์กัน มาถึงตอนนี้ เรื่องการเปลี่ยนผู้รับผลประโยชน์จากกรมธรรม์ของเจ้าของกระทู้เรียบร้อยแล้วมั้ยคะ

ที่ว่าการทำประกันสำหรับคนพิการจะแบ่งออกเป็นสามกลุ่มอย่างที่มีคอมเมนต์นึงมาบอก หมายความว่ายังไงเหรอครับ เมื่อแบ่งกลุ่มแล้วจะรู้ว่าสามารถทำประกันอะไรได้บ้าง..อย่างนั้นหรือเปล่า เพราะว่าประกันมีหลายประเภท ซึ่งกำหนดเรื่องเงื่อนไขไว้แล้วว่าบุคคลที่มีโรคประจำตัวหรือมีปัญหาทางด้านร่างกายบางอย่างอาจไม่สามารถทำประกันฉบับนั้นได้

เพิ่งอายุ 42 ปีเอง เจ้าของกระทู้มีปัญหาเรื่องสายตาและหูแล้วเหรอคะ เรื่องทำประกันชีวิตก็เรื่องนึงนะ ส่วนเรื่องการไปหาหมอเพื่อตรวจสุขภาพก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งซึ่งเราคิดว่าเจ้าของกระทู้ต้องรีบไปโดยด่วนค่ะ ตัวคุณเองเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติของร่างกายแล้ว จริงๆก็ดีนะคะ คุณจะได้ไปพบคุณหมอเฉพาะทางได้เลย รีบไปนะคะ

ค่าประกันรถยนต์ที่ติดกับรถมามันแพงกว่าประกันรถยนต์อื่นมากเลยเหรอคะ ปกติ จะมีเงื่อนไขอย่างนี้กันอยู่แล้วมั้ย เงื่อนไขที่เจ้าของกระทู้บอกว่าโดนบังคับซื้อประกันรถยนต์มาเนี่ยอะค่ะ ถ้ามันแพงมากเกินไปจริงๆ คนซื้อไม่สามารถปฏิเสธได้เลยเหรอคะ อย่างนี้ก็แย่เลย แล้วเจ้าของกระทู้เปลี่ยนประกันรถยนต์ได้แล้วหรือยังคะ

ถ้าเจ้าของกระทู้จะสนใจประกันสุขภาพแฟมิลี่ แคร์ ของเอฟดับบลิวดี ขนาดนี้ ผมว่าติดต่อไปทางบริษัทเพื่อคุยกับเจ้าหน้าที่เลยดีกว่าครับ ไม่ได้ประชดนะ แต่รายละเอียดพวกนี้ต้องเป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัทจริงๆเท่านั้นอะถึงจะรู้ เพราะว่าจะต้องมีเงื่อนไขต่างๆนานาอีกแน่นอนครับ กว่าบริษัทจะจ่ายเงินให้ต้องมีเงื่อนไขอยู่แล้ว

ถ้าประกันสุขภาพนั้นให้ความคุ้มครองเรื่องค่ากายภาพบำบัดด้วย ค่าเบี้ยประกันคงจะแพงมากเลยนะครับ เพราะการทำกายภาพบำบัดต้องใช้เวลาและทำอย่างต่อเนื่องด้วย ไม่รู้ว่าประกันสุขภาพที่เจ้าของกระทู้ถามมาให้ความคุ้มครองเรื่องค่ากายภาพบำบัดด้วยหรือเปล่านะครับ คุ้มครองก็ดี แต่ถ้าไม่ต้องใช้สิทธิ์นั้นจะดีกว่ามากนะครับ