จะเปิดบัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์ Bangkokbank สำหรับคนต่างชาติที่ไม่มีใบอนุญาตการทำงานต้องทำยังไง?

ถ้าสามารถเปิดบัญชีสะสมทรัพย์ได้ ก็น่าจะดีนะครับเพราะว่าจุดเด่นของ บัญชีสะสมทรัพย์เป็นบริการทางการเงินล้ำสมัย ซึ่งจะช่วยจัดการกับชีวิตประจำวันได้ง่ายดาย สะดวกสบายยิ่งขึ้น และสามารถใช้เป็นหลักประกัน เมื่อขอสินเชื่อจากธนาคารได้ด้วยนะครับ แถมดอกเบี้ยเงินฝากของบัญชีตัวนี้ยังได้มากกว่าบัญชีออมทรัพย์ทั่วๆไปนะ

บัญชีเงินฝากประจำสำหรับคนที่อยากออมเงินครับ ฝากไว้แล้วไม่ต้องถอน เอาแบบที่ว่าฝากลืมไปเลย แต่ถ้าจะแค่ฝากเงินชั่วคราว ฝากไปใช้ไปก็เปิดบัญชีแบบออมทรัพย์ครับ เจ้าของกระทู้ไม่ต้องเครียดนะ ถ้าคุณไม่สะดวกกับการฝากเงินในบัญชีเงินฝากประจำ ก็ฝากแบบออมทรัพย์ครับ ไว้คุณสะดวกฝากประจำเมื่อไหร่ค่อยไปเปิดบัญชีใหม่ครับ

ผู้ถือบัตรเครดิต วีซ่า อินฟินิท จะได้รับบริการพิเศษในการขอวีซ่าเข้าอังกฤษ โดยใช้เพียงแค่หนังสือเดินทาง ไม่ต้องยื่นเอกสารทางการเงิน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะได้วีซ่าโดยอัติโนมัติใช่มั้ยคะ ยังไงเรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่กับทางสถานทูตว่าจะอนุมัติการขอวีซ่านั้นหรือไม่ แต่ในเรื่องของความสะดวกที่ไม่ต้องไปจองคิวล่วงหน้า อันนี้สะดวกจริงค่ะ

ถ้าไม่อยากเสียเวลาในการเดินทาง ขะแนะนำให้เปิดบัญชีแบบไม่มีสมุดคู่ฝากไหม หรือที่เรารู้จักกันบัญชีแบบออนไลนฺนะครับ อันนี้ไม่ต้องใช้เอกสารอะไรเลย กรอกข้อมูลตามบัตรประชาชนของเรา แล้วก็ทำการยืนยันตัวตนของเราเท่านี้ก็สามารถเปิดใช้งานได้แล้วแถมเราไม่ต้องมีเงินฝากก่อนก็ได้ บัญชีแบบนี้กำลังเป็นที่นิยมในบ้านของเรานะ

ที่ลูกค้าของเจ้าของกระทู้อยากเปิดบัญชีธนาคารที่ประเทศไทยเพราะเขาจะมาอยู่ที่นี่นานกว่าเดิมเหรอครับ เห็นว่าปกติเขามาเที่ยว ถ้ามาเที่ยวเฉยๆไม่ต้องเปิดบัญชีธนาคารก็ได้ แต่ถ้ามาอยู่นานกว่านั้น ต้องมีใบอนุญาตทำงานด้วยมั้ยถึงจะไปเปิดบัญชีธนาคารได้ ผมเองก็ไม่แน่ใจเรื่องนี้นะ ใช้แค่หนังสือเดินทางอย่างเดียวจะได้หรือเปล่า

เจ้าของกระทู้มีเลขาส่วนตัวอยู่แล้ว เรื่องเอกสารสำหรับการเปิดบัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์กับธนาคารกรุงเทพในนามของบริษัทโดยที่จะส่งตัวแทนไปเปิดให้เนี่ย ที่จริงให้เลขาส่วนตัวของคุณดูให้ก็ได้นะครับ ผมว่าเรื่องนี้เขาจัดการได้แน่ๆ ว่าแต่เขาจะไปดำเนินการแทนได้จริงๆเหรอ เรื่องลายเซ็นของเจ้าของบริษัทน่ะ ต้องไปเองมั้ย

แต่ละคอมเมนต์ให้ข้อมูลดีมากเลยค่ะ เราก็เพิ่งรู่วาบัญชีออมทรัพย์ UOB privilege จ่ายดอกเบี้ยให้เจ้าของบัญชีทุกเดือนเลย แต่ก็มาพร้อมกับความสม่ำเสมอในการฝากเงิน ถอนเงิน หรือโอนเงินของเจ้าของบัญชีด้วย พูดง่ายๆก็คือ ต้องมีการเคลื่อนไหวบัญชีอยู่ตลอดเวลา หยุดการเคลื่อนไหวได้บ้าง แต่ยังไงก็ต้องไม่เกิน 6 เดือนค่ะ

เรื่องการปรับสมุดบัญชีมันเป็นความเคยชินนะคะ เมื่อก่อนต้องทำเป็นประจำเพราะไม่อย่างนั้นรายการเดินบัญชีของเราจะหายไปเพราะว่ามันจะรวมยอดเป็นยอดเดียว ถ้าอยากได้รายละเอียดต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในการขอเอกสาร เดี๋ยวนี้เอาแค่พอรู้ว่ามีเงินเข้าและออกเท่าไหร่ เมื่อไหร่ก็พอละ เราเองไม่ได้ไปปรับสมุดบัญชีนานแล้วเหมือนกันค่ะ

ความขี้เกียจที่ว่า มันอาจเป็นเพราะความกลัวในการลงทุนหรือเปล่าคะ ยิ่งช่วงที่เศรษฐกิจไม่ค่อยดี จะให้เอาเงินมาลงทุนทำโน่นทำนี่มันก็เสี่ยงมิใช่น้อยนะคะ สำหรับคนที่มีหัวทางด้านธุรกิจอยู๋เป็นทุนเดิม การตัดสินใจลงทุนอาจจะง่ายหน่อย คือ ดูแล้วรู้ได้เร็วว่าควรลงทุนกับเรื่องนั้นหรือไม่ ก่อนจ่ายเงินต้องพิจารณากันให้ดีค่ะ

เห็นคำว่า "สถาบันการเงิน" เรานึกถึงที่ที่ให้กู้เงิน คิดถึงแต่แบบนั้นเลย แต่จริงๆมันคือ พวกกองทุนหรือสถาบันที่ให้คนมาลงทุนด้วยก็ได้ใช่มั้ยคะ เห็นมีคนมาเมนต์บอกไว้ ถ้าเป็นเรื่องการลงทุนก็ต้องเลือกหน่อยว่ามันเหมาะกับตัวเราและเงินในธนาคารของเราหรือเปล่า ศึกษารายละเอียดเรื่องการลงทุนนั้นๆให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจค่ะ

ดูที่เงินเดียวอย่างเดียวไม่ได้หรอกครับ ต้องดูด้วยว่าค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนเท่าไหร่ สามารถเก็บเงินได้เดือนละเท่าไหร่ด้วยนะ ถ้าเก้บเงินได้แบบที่ไม่ต้องเอามาใช้เลยก็ยังอยู่ได้ อยู่อย่างสบายๆในทุกๆเดือน อย่างนั้นผมว่ารวยแล้วล่ะครับ แต่จะทำงานอะไรถึงจะได้เงินเดือนละเป็นแสน เดี๋ยวนี้เงินเดือนสองหมื่นก็หายากแล้วนะ

ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ธนาคารอย่างเดียวเลย คนที่จะช่วยให้คุณกลับไปใช้บัญชีธนาคารที่ไม่ได้ใช้งานนานเป็นปีจนถูกเรียกเก็บค่ารักษาบัญชี หากถูกเก็บค่ารักษาบัญชีไปจนเงินหมดบัญชีจริงๆ ก็ไม่รู้ว่าบัญชีจะถูกระงับการใช้งานไปด้วยเลยหรือเปล่า ถ้าถูกระงับการใช้งาน ต้องให้เจ้าหน้าที่ธนาคารช่วยแก้ไขให้ คุณเองต้องฝากเงินเข้าบัญชีด้วยค่ะ