บัตรเดบิตธนชาติ ฟรีเวอร์ไลท์ ผูกกับบัญชีได้สูงสุดกี่บัญชีคะ?

@ทราย เช่นเเล้วค่ะเเล้วธนาคารธนชาตเขามีระบบที่คุ้มครองลูกค้าของเขาอย่างดีด้วยไม่ค่อยเป็นห่วงเรื่องการถูกเเฮ้กข้อมุลเท่าไหร่ใช่ไหมคะ เเน่นอนคะเพราะว่าที่จริงเเล้วเขาทำมาหลายปีเเล้วคะอาจจะเป็นเจ้าเเรกๆก็ได้ที่เริ่มธุรกรรมออนไลน์นี่ทำให้หลายๆคนมั่นใจในธนาคารนี้จริงๆใช่ไหมค่ะฉันเองก็เป็นหนึ่งในคน คนนั้นเพราะใช้บริการกับธนาคารมาได้หลายปีเเล้วคะ

@เเฉล้ม ใช่เเล้วครับการใช้เงินเเละการฝากเงินทุกๆอย่างต้องอาศัยการวางเเผนที่ดีนะครับถ้าคุณเองมีการวางเเผนที่ดีอยู่เเล้วก็ดีเลยครับเพราะว่าการฝากเงินเเบบนี้จะช่วยคุณให้ได้รับทั้งดอกเบี้ยที่มากขึ้นเเละในเวลาเดียวกันสามารถถอนเงินมาใช้ได้ด้วยเเต่ถ้าเทียบกับการลงทุนอย่างอื่นก็ยังไม่ถึงกับว่าดีมากใช่ไหมครับเพราะอะไร เพราะว่าการฝากเเบบนี้มั่นคงเเต่ก็ดอกเบี้ยไม่สูงมาก

บัตรเดบิต ไม่เหมาะที่จะเอาไปใช้ที่ต่างประเทศ นะคะ มีค่าธรรมเนียมในการใช้งานเยอะมาก แถม ค่าเงินก็แพงกว่าเงินในบัญชีของเราด้วย บัตรเดบิตใช้แค่ในบ้านเราก็พอแล้วคะ ที่จริงอยากกดเงินสดที่ต่างประเทศ ทำบัตร เครดิตไปเลยคะ ค่าธรรมเนียมถูกกว่า แล้วอีกอย่าง ไม่กระทบจากเงินเก็บของเราคะ กลับมาแล้วค่อยหาคืนก็ได้คะ

@มานี่สิ..money เราก็คิดเหมือนคุณ บัตรเดบิตธนชาติ ฟรีเวอร์ไลท์ สามารถผูกบัญชีธนาคารได้มากถึง 6 บัญชี จะมีใครเปิดบัญชีธนาคารเดียวกันถึง 6 บัญชีมั้ยเนี่ย ถ้ามีคงจะเป็นคนที่มีเงินเยอะ มีธุรกิจมากมายนะคะ ต้องถามเจ้าของกระทู้นะว่าตอนนี้เขาเปิดไปกี่บัญชีแล้ว จะได้พ่วงกับบัตรเดบิตธนชาติ ฟรีเวอร์ไลท์ ที่คุณใช้อยู่แบบคุ้มเลย

@Pamela จากคุณสมบัติของบัญชีเงินฝากธนชาตฟีเวอร์ Life ที่คุณเล่ามาว่าคุณก็ใช้บัญชีนี้ ผมก็ไม่รู้มันจะพิเศษตรงไหน เพราะบัญชีออมทรัพย์ทั่วไป ที่ผมใช้อยู่ของ SCB ก็ทำแบบนั้นได้หมด แล้วมันพิเศษตรงไหนเนี่ย ที่จริงบัญชีออมทรัพย์มันก็มีหลายชื่อให้เรียกนะของแต่ละธนาคาร เอาจริงๆคุณสมบัติมันก็คือเหมือนกันหมดนั่นแหละ

อ่านจากที่พี่ @Gene เขียนเอาไว้ รายละเอียดการใช้งานบัญชีของเจ้านี้มีข้อแม้เยอะเลยนะคะ ดอกเบี้ยได้เยอะจริงแต่จำกัดการใช้งานเราเยอะมาก เหมือนกับว่าเขาไม่อยากให้เราเอาเงินออกจากบัญชีเลยนะคะ แบบนี้ธนาคารต้องเอาเงินของเราไปลงทุนอะไรแน่นอนเลยคะ แถมถ้าเดือนไหนเงินในบัญชีมีน้อย ยังโดนเรียกเก็บค่าธรรมเนียมอีก ไม่เคยเจอเลยคะ

นี่กำลังคุยกันเรื่องบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิตครับเนี่ย อ่านไปอ่านมาก็งงๆนะ ตั้งแต่กระทู้มาจนถึงคอมเมนต์ เอาเป็นว่าไม่ว่าจะใช้บัตรประเภทไหนควรมีการกำหนดวงเงินครับ จะเป็นการกำหนดจากธนาคารก็ดี เป็นการกำหนดของตัวเราเองก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ ไม่อย่างนั้นได้ใช้เงินกันเพลิดเพลิน หาเงินมาจ่ายคืนไม่ทันพอดี เอาที่ไหวครับ

เรื่องการถอนเงินที่ตู้เอทีเอ็มต่างธนาคารไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือคนต่างชาติก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมมั้ยอะ มันเป็นเงื่อนไขของทางธนาคารโดยปกติอยู่แล้วเนอะ ถ้ากดเงินจากตู้เอทีเอ็มของธนาคารตามบัตรที่เราใช้อยู่ ก็ไม่มีปัญหาเรืองการเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมค่ะ แต่ค่าธรรมเนียมก็ไม่แพงมากนะสำหรับการกดเงินสดออกมาครั้งนึง

อ่านโพสต์ตอนแรกคิดว่าเจ้าของกระทู้พูดถึงประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองผู้ป่วยนอก แต่จริงๆพูดถึงบัตรเดบิตที่ให้ความคุ้มครองผู้ป่วยนอก เคยเห็นแต่บัตรเดบิตที่เอาไว้จ่ายค่าสินค้าหรือค่าบริการแทนการจ่ายเงินสด บัตรนี้ของธนาคารกรุงศรีมีมานานแล้วเหรอคะ มีใครใช้อยู่บ้าง บัตรแบบนี้ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมมั้ย

ได้ปรับวงเงินของบัตรเดบิต เอส สมาร์ท พลัสหรือยังคะ ทำด้วยวิธีไหน ทำเองหรือว่าไปที่สาขาของธนาคาร ที่อยากปรับวงเงินเพิ่มเพราะจำเป็นต้องใช้เงินเพิ่มหรือเปล่า คือ ถ้าจำเป็นต้องใช้เงินเพิ่มแบบเยอะอะ เราว่าไปขอสินเชื่อดีกว่าค่ะ แต่ถ้าต้องการเงินเพิ่มนิดๆหน่อยๆการปรับวงเงินในบัตรก็โอเคค่ะ แค่อยากแนะนำเท่านั้น

ทำไมถึงต้องเป็นบัตรเดบิตของทางธนาคารกรุงไทย Verified by Visa ด้วยล่ะครับ การชำระเงินผ่านบัตรเดบิตนี้มันดีกว่าหรือปลอดภัยกว่าการชำระเงินผ่านช่องทางอื่นยังไง อยากถามจริงๆนะครับ ผมเองก็อยากรู้เพราะไม่เคยใช้บัตรเดบิต ที่เคยใช้ก็มีแค่บัตรเอทีเอ็มเท่านั้น ซื้อของออนไลน์ก็โอนเงินจ่ายหรือไม่ก็ให้เก็บเงินปลายทาง

ประกันที่ติดมากับบัตร เดบิต เราต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อการคุ้มครองเองด้วยเหรอครับ แบบนี้เหมือนบังคับเราเลยนะครับ ไม่ทราบว่าการคุ้มครองเป็นยังไงบ้างครับ ถ้าเทียบกับประกันที่เราสามารถหาซื้อได้จากข้างานอกทั่วไป เชคดูก่อนนะ ถ้าข้างนอกถูกกว่าผมคิดว่ายกเลิกการใช้งานไปเลยก็ได้ครับ เอาจริงๆบัตรเดบิตเดียวนี้ผมเองก้ไม่ค่อยได้ใช้แล้วเหมือนกัน