สิ่งที่ต้องเช็คก่อนจะซื้อประกันรถยนต์มีอะไรบ้างครับ

ก่อนอื่นเลยอยากแนะนำคุณนะคะให้ดูตารางกรมธรรม์ความคุ้มครอง อย่างละเอียด เช่น มีวงเงินความคุ้มครองในกรณีรถยนต์เสียหาย สูญหาย หรือไฟไหม้ , วงเงินความรับผิดต่อบุคคลภายนอกในกรณีเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน , มีค่าประกันตัวผู้ขับขี่ ในกรณีที่เป็นคดีอาญาไหม

ครับผมหากประกันรถยนต์ของคุณนั้นแถมมามีวงเงินความคุ้มครองไม่เพียงพอ ก็อยากแนะนำให้ลองเลือกรับโปรโมชันเป็นของแถมหรือส่วนลดจะดีกว่า แล้วเราค่อยไปเลือกทำประกันรถยนต์ในวงเงินความคุ้มครองตามแบบที่เราต้องการ แบบนี้มันจะคุ้มสุดๆ สำหรับประกันที่แถมมากับรถใหม่ป้ายแดงของคุณครับ

มีประกันรถยนต์แบบระบุชื่อผู้ขับขี่ด้วยนะคะ เพราะจะประหยัดค่าเบี้ยประกันได้มากกว่า โดยส่วนใหญ่แล้วจะระบุได้จำนวน 1-2 คน และส่วนลดที่ได้จะคิดตามอายุของผู้ขับขี่ เช่น อายุ 18-24 ปี จะได้ส่วนลด 5% , อายุ 25-35 ปี จะได้ส่วนลด 10% , อายุ 36 – 50 ปี จะได้ส่วนลด 15% และหากผู้ขับขี่อายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป จะได้ส่วนลดสูงถึง 20% ด้วยแต่ส่วนลดเบี้ยประกันที่ได้รับจะคิดตามผู้ขับขี่ที่มีอายุน้อยที่สุดค่ะ

เราต้องเช็คค่าความเสียหายส่วนแรกภาคสมัครใจ คือ ความสมัครใจของผู้เอาประกันที่ต้องการจ่ายค่าเบี้ยถูกลง และกรณีที่เรามีประวัติการเคลมหลายครั้งแล้ว บริษัทประกันอาจจะขอให้เราร่วมจ่ายด้วย เช่น ค่าเบี้ยประกันของเราถูกลงไป 3,000 บาท แต่เมื่อเกิดอุบัติเหตุหากเราเป็นฝ่ายผิด แสดงว่าเราสมัครใจรับความเสีย​หายส่วนแรก 3,000 บาท ร่วมกับบริษัทประกัน แบบนี้ด้วยนะครับ

ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นแต่ไม่มีคู่กรณี เช่น ถูกชนแล้วหนี หรือถูกกรีดรถ เราจะต้องร่วมรับผิดชอบในค่าความเสียหายส่วนแรกที่ 1,000 บาทต่อ 1 เหตุการณ์ แต่กรณีที่เราขับรถชนรั้วหรือเสาไฟฟ้า ถ้าเราสามารถระบุที่เกิดเหตุได้ชัดเจน ในกรณีนี้เราไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าความเสียหายส่วนแรก เพราะถือว่าเรามีคู่กรณี ถึงแม้ว่าคู่กรณีจะไม่ใช่สิ่งมีชีวิตก็ตามคับ

ในการเลือกสถานที่ซ่อม ถ้าเราซ่อมที่ห้าง แบบนี้เหมาะสำหรับรถใหม่และรถที่มีอายุการใช้งานน้อยกว่า 7 ปี แต่จะมีค่าเบี้ยประกันที่สูง มีศูนย์บริการที่มีเครื่องมือที่ทันสมัยและครบวงจร อะไหล่เป็นของแท้ และมีการประกันงานซ่อม เราควรตรวจสอบสาขาของศูนย์บริการจากบริษัทประกันภัยก่อนตัดสินใจ เแบบที่สะดวกใกล้บ้านหรือที่ทำงาน ที่มีหลายสาขาให้เลือกเข้ารับบริการครับ

แต่ถ้าคุณเลือกการซ่อมอู่ จะเหมาะสำหรับรถที่มีอายุการใช้งานมานาน ซึ่งค่าเบี้ยจะถูกกว่าซ่อมห้างประมาณ 30% ถ้าให้ดีควรเลือกอู่ประกันภัยในเครือของบริษัทประกันที่เราสะดวกในการนำรถเข้าซ่อม ซึ่งเป็นอู่ที่มีสัญญาเรียกเก็บเงินค่าซ่อมกับบริษัทประกัน เพราะถ้าเรานำรถไปซ่อมอู่นอกหรืออู่ทั่วไป ต้องระวังอีกว่าอู่จะตีราคาสูงกว่าที่บริษัทประกันกำหนดไว้ไหม เพราะเราจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในค่าใช้จ่ายส่วนต่างนั้นเองค่ะ

เสริมนิดนึงเรื่องการซ่อมนะครับ เราสามารถเรียกร้อง “ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ” ได้จากบริษัทประกันคู่กรณีด้วย ในขณะที่เรานำรถเข้าซ่อม เพื่อจะเป็นค่าใช้จ่ายการเดินทางระหว่างที่ไม่มีรถใช้ โดยสามารถเรียกร้องขั้นต่ำได้วันละ 500 – 1,000 บาท ทีเดียว ตามแต่ประเภทรถยนต์ของเราครับ

แนะนำว่าถ้าคุณต้องการลดภาระค่าใช้จ่ายในเรื่องค่าซ่อมรถ ค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ ต้องเลือกประกันรถยนต์กับตัวแทนหรือนายหน้าประกันภัยหรือบริษัทที่มีประสบการณ์และน่าเชื่อถือด้วย เนื่องจากปัจจุบันมีมิจฉาชีพจำนวนมากที่แอบอ้างโทรติดต่อลูกค้าและส่งมอบกรมธรรม์ปลอม เราจะไม่สามารถเคลมสิทธิ์ต่างๆ ได้เลยนะครับ

ในการเลือกประกันภัยรถยนต์ โดยคุณสามารถพิจารณาได้จากสิ่งต่างๆดังนี้ครับ 1 ความมั่นคงทางการเงินของบริษัทประกันภัยรถยนต์ 2 ชื่อเสียงของบริษัทประกันว่ามีชื่อเสียงในทางที่ดีหรือไม่ 3 การให้บริการของพนักงานบริษัทประกัน 4 ความยากง่ายในการร้องเรียนเรื่องราวต่างๆ 5 เครือข่ายของอู่ซ่อมรถที่จัดไว้บริการหากเกิดอุบัติเหตุ มีตัวแทน หรือนายหน้าที่น่าเชื่อถือ ไว้วางใจได้ 6 ตัวแทน หรือนายหน้ามีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวประกันภัยรถยนต์เป็นอย่างดี

ส่วนใหญ่ก็ซื้อรถมือหนึ่งจะมีประกันภัยชั้น 1 แถมมาให้ด้วยนะครับ แต่ถ้าเป็นรถมือสองไม่มีประกันภัยหนูอยากจะซื้อประกันภัยเองแนะนำว่าควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับประกันภัยก่อนครับ เกี่ยวกับจำนวนเงินที่ต้องจ่ายในแต่ละปีเกี่ยวกับการคุ้มครอง ขอให้เรื่องที่ซ่อมเขาซ่อมเราในกรณีที่ไม่ว่าจะหายผิดหรือใครถูกนะครับ จะดูรายละเอียดอื่นว่าเราพอใจแค่ไหนใช้ได้แล้วครับ

@Payut ชัดเจน ครบถ้วน ข้อมูลแน่นมากครับ เอาเป็นว่าอ่าน Comment ของคุณแล้วก็คือรู้เรื่องเลย ส่วนตัวผมแล้วก็ก่อนจะซื้อประกันรถยนต์ก็ ทำตามหลายๆข้อที่คุณบอกมานะครับ เพราะช่วงนี้นะพยายามประหยัดที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่าใช้จ่ายอะไรที่จะต้องจ่ายก็คือจะดูก่อนเลย เรื่องการบริการเอาไว้ทีหลัง เรื่องความคุ้มครองก็เอาแบบพอประมาณ

แต่ละ Comment มีคำแนะนำ อย่าเลยครับ บอกตรงๆเลยว่าตอนที่ผมซื้อประกันรถยนต์ตอนแรกไม่เคยเช็คเรื่องพวกนี้มาก่อน ผมดูแค่เบี้ยประกันนะครับ ถ้าจ่ายไหวก็ใช้ประกันที่มากับรถยนต์ต่อไป ถ้าจ่ายไม่ไหวก็อาจจะเปลี่ยน แต่ตอนนี้ผมจ่ายได้ครับกับประกันรถยนต์ที่มาพร้อมรถยนต์มือสองที่ผมซื้อมา แต่ก็ต้องมาดูที่บริการอีกทีนะ