สินเชื่อบุคคลซิตี้ ให้วงเงินตามฐานเงินเดือนกี่เท่าครับ?

@วา ก็มีได้นะคะไม่ใช่เรื่องเสียหายมีทั้งบัตรกดเงินสดและบัตรเครดิตด้วยก็ได้เพราะบัตร 2 ใบนี้มีคุณสมบัติต่างกันอยู่นะเพราะบัตรกดเงินสดเนี่ยกดเงินสดออกมาไม่ค่อยเสียค่าธรรมเนียมหรือเสียดอกเบี้ยอะไรเยอะแต่สำหรับบัตรเครดิตไม่ได้มีคุณสมบัติโดยเฉพาะเพื่อให้กดเงินสดแล้วถ้ากดเงินสดด้วยบัตรเครดิตจะเสียดอกเบี้ยแพงกว่า เห็นว่าคุณพูดถึงเรื่องการกดเงินสดก็เลยอธิบายเรื่องนี้ค่ะ

ถ้ายังไม่รู้ว่าจะกู้ไปทำอะไรก็ยังไม่ต้องพูดนะครับ @แทน เพราะการมีหนี้โดยไม่จำเป็นไม่ใช่เรื่องสนุกเลย ผมว่าพวกสินเชื่อส่วนบุคคลเนี่ยเหมาะกับคนที่มีปัญหาเรื่องเงินหรือคนที่มีเป้าหมายหรือวางแผนเอาไว้แล้วว่าอยากจะเอาเงินก้อนนี้ไปทำอะไรอย่างเช่นการลงทุนหรือการทำธุรกิจเป็นการใช้เงินสร้างเงินขึ้นมาลักษณะนี้มากกว่านะ แต่ถ้ากู้มาเฉยๆไม่รู้จะทำอะไรก็ไม่รู้จะพูดไปทำไมนะครับ

แต่ถ้าวางแผนอย่างดีว่าถ้าได้เงินจากสินเชื่อมาแล้วจะเอามาสร้างกำไรยังไงให้สามารถผ่อนชำระหนี้สินได้แบบนี้ก็ไม่น่าจะมีปัญหานะคะ ยังไงขอสินเชื่อมามีเงินก้อนเอาไว้หมุนธุรกิจก็ยังดีกว่า ธุรกิจขาดทุนในตอนนี้ทำอะไรไม่ได้เลยเพราะไม่มีเงินที่จะไปต่อ คนที่ทำธุรกิจเหมือนกันน่าจะเข้าใจกันดีนะคะ แต่คนที่ไม่ได้ทำธุรกิจอาจจะไม่เข้าใจก็ได้ @ว่าน

ใครจะขอสินเชื่อตอนนี้ก็น่าคิดเหมือนกันนะเหมือนที่คุณว่านั่นแหละ @ทบ แต่ถ้าใครเงินสะดุดแบบไม่มีทางออกแล้วสินเชื่อก็เป็นทางออกหนึ่งที่ช่วยได้แต่ก็ต้องคิดทบทวนให้ดีอยู่เหมือนกันนะเพราะมันอาจจะกลายเป็นภาระหนักจนแบบไม่ไหวก็ได้ ถ้าใครมีแนวทางที่จะทำให้เงินกู้มีกำไรขึ้นมาได้ ก็กูเถอะแต่ถ้าใคร จะกู้เงินมาเพื่อใช้จ่ายธรรมดาแบบนี้ก็อาจจะแย่หน่อย

ไม่กล้าฟันธงจริงๆครับว่าวงเงินที่คุณจะได้จะอยู่ที่ประมาณเท่าไร อาจจะได้ มากหรือว่าน้อยกว่าที่เขากำหนดก็ได้ครับ ยังไงก็อาจไปรองขอสินเชื่อของเขาก่อนก็ได้ครับ แต่ถ้ากลัวว่าวงเงินไม่น่าจะพอ รองๆหันไปขอสินเชื่อพร้อมๆกันสักสองเจ้าไหมละครับ สองเจ้่าถ้าสินเชื่อเราผ่านทั้งสอง วงเงินก็จะเพิ่มมาอีกเท่าตัวเลยนะ

ถามมาว่า "สินเชื่อส่วนบุคคลซิตี้สมัครยากไหม" เอาไงดีละครับยากง่ายของแต่ละคนที่ขอสินเชื่อตัวนี้ไม่เหมือนกันครับ เพราะตอนนี้ทางสินเชื่อของเจ้านี้ตรจเยอธกว่าเมื่อก่อนมากจริงๆ ขนดคนที่เคยเป็นลูกค้าเก่าแถมเรายังมีประวัติที่ดีในการจ่ายหนี้ ก็ยังต้องโดนเชคข้อมูลส่วนบุคคลอีกครั้งหนึ่งเลยครับ คิดว่าทางสินเชื่อจะเชคหลายๆเรื่องที่ปล่อยผ่านไม่ได้

ผมพึ่งกู้ล่าสุดปี 2023 ปกติแล้วตามเกณฑ์ที่กฏหมายกำหนดเลยครับ ดอกเบี้ยประมาณ 28%ต่อปี อัตราเงินกู้ 0-15000 กู้ได้ 1.5-2 เท่า เงินเดือน 15001-30000 กู้ได้ 3 เท่า 30000++ กู้ได้ 5 เท่า อย่างผมเงินเดือนแค่ 30-45 แต่ก็กู้ได้ 4 เท่า ทัเงนี้ทัเงนั้นน่าจะขึ้นกับเครดิตบูโร กับภาระหนี้ด้วยนะครับ

มาโพสต์ถามแบบนี้เจ้าของกระทู้มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ เห็นว่าห่วงเรื่องทรัพย์สินของตัวเอง กลัวว่าจะโดนยึดทรัพย์ คุณมีหนี้สินอยู่มากมายถึงขนาดไหนถึงได้กังวลเรื่องนี้ จะโดนยึดทรัพย์เนี่ย ต้องเป็นหนี้เยอะนะครับ แต่เขาไม่มายึดทรัพย์ในทันทีหรอก มีระยะเวลาให้ลูกหนี้ได้ชำระหนี้ด้วย ถ้าหาเงินมาชำระไม่ทันก็อีกเรื่องนึง

การเพิ่มวงเงินเนี่ย ปกติ เขาต้องทำยังไงเหรอครับ ติดต่อเจ้าหน้าที่อย่างเดียวเลย หรือว่าสามารถขอเพิ่มผ่านทางแอปพลิเคชั่นได้ด้วย ไม่ค่อยคุ้นชินกับเรื่องพวกนี้ ผมเป็นคนนึงที่กลัวเรื่องของดอกเบี้ยพอสมควร กลัวว่าจะจ่ายดอกเบี้ยแพงน่ะครับ ถ้าหาเงินมาจ่ายคืนไม่ทันต้องจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นอีกเยอะแน่เลย..ใช่มั้ยครับ

ถ้าจำเป็นต้องปรับโครงสร้างหนี้ เจ้าของกระทู้ก็ทำไปเถอะค่ะ หากต้องเสียเครดิตบูโรก็ต้องยอมไปก่อน แค่ 3 ปีหรือ 5 ปี การติดเครดิตบูโรก็จบแล้ว หลังจากนั้นคุณจะสามารถทำธุรกรรมทางการเงินอะไรก็ได้ ถ้าไม่ปรับโครงสร้างหนี้ คิดว่าคุณอาจจะมีหนี้สินเพิ่มขึ้นหรือไม่ก็ต้องใช้เวลานานมากขึ้นกว่าจะชำระหนี้สินทั้งหมดนั้นได้

จัดการเรื่องที่ดินกับเรื่องบ้านไปถึงไหนแล้วคะ ถ้าทุกอย่างเป็นไปด้วยดีก็ยินดีด้วย เดี๋ยวนี้เรื่องเงินๆทองๆมันจะค่อนข้างยุ่งยากหน่อย แต่คนเราก็ยังต้องดำเนินชีวิตกันต่อไป มีช่องทางไหนหรือวิธีการใดที่จะทำให้ตัวเองและครอบครัวอยู่รอดต่อไปได้ มันก็ต้องลองทำดูอะเนอะ เจ้าของกระทู้มีช่องทางอะไรดีๆก็เข้ามาแนะนำกันได้นะคะ

เรื่องรถนี่เรื่องใหญ่เหมือนกันนะครับ ขาดส่งขึ้นมาเริ่มใจไม่ดีแล้วล่ะว่าจะถูกยึดรถหรือเปล่า หวังว่าเจ้าขอวกระทุ้จะไม่ถูกยึดรถนะ พยายามจัดการเรื่องเงินให้ดี หาทางออกเผื่อไว้ด้วย เผื่อเดือนไหนเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นมาจะได้มีเงินสำรองเอาไว้จ่ายค่างวดรถครับ อดทนกันไปสักพัก เดี๋ยวก็จ่ายเงินหมดกันแล้วล่ะครับ