ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้างครับ

เป็นประกันที่ออกแบบมาให้ผู้ถือกรมธรรม์ออมเงิน พร้อมกับมีความคุ้มครองแถมมาด้วยค่ะ โดยการออมเงินจะจ่ายเงินคืนตามระยะเวลาที่กำหนดเอาไว้ในสัญญา โดยมีทั้งแบบเป็นรายงวด และแบบเป็นก้อนใหญ่ทีเดียวเมื่อครบสัญญา หรือถ้ากรณีที่ผู้ถือกรมธรรม์เสียชีวิตระหว่างสัญญา ก็จะได้รับเงินที่เรียกว่าจำนวนเงินเอาประกัน แล้วแต่แบบประกัน บางแบบอาจบวกเพิ่มให้อีกเท่าหนึ่งของทุนประกัน เมื่อเจ้าของกรมธรรม์เสียชีวิตแบบนี้ค่ะ

ข้อดี คือ เราจะเห็นจำนวนเงินที่จะได้แบบชัดเจนเลยค่ะ. เนื่องจากจะกำหนดทั้งเบี้ยที่ต้องชำระในแต่ละงวด ทุนประกันคุ้มครอง และผลประโยชน์ที่ผู้ถือกรมธรรม์จะได้ในแต่ละปีๆ เป็นตารางมาให้ดูตั้งแต่แรกอยู่แล้ว และบอกอย่างละเอียดว่าต้องชำระกี่งวด ถ้าหากยกเลิกในงวดนี้จะได้รับเงินจำนวนเท่าไร ทำให้เราสามารถวางแผนและประมาณการเงินในอนาคตได้ทันทีเมื่อดูกรมธรรม์ ตั้งแต่วันแรกที่ถือกรมธรรม์เอาไว้ในมือเลย

เมื่อเหตุการไม่คาดฝัน พ่อหรือแม่เสียชีวิต เกิดเหตุทุพพลภาพ ผู้ถือกรมธรรม์ (ลูก) ก็ยังจะได้ผลประโยชน์ตอบแทนนั้นๆ เหมือนเดิม อันนี้ถือเป็นข้อแตกต่างเลยถ้าเทียบกับการออมเงินแบบปกติที่เราจะได้เพียงแค่ตัวเงินและดอกเบี้ยปันผลเท่านั้น ถือได้ว่าถ้าเราเป็นอะไรไปจริงๆ ลูกก็ยังมีเงินก้อนช่วยในการใช้ชีวิตต่อ และเป็นเหมือนตัวแทนช่วยดูแลเขาได้ครับ

การออมเงินในประกันชีวิตนั้นผลตอบแทนที่ได้จะไม่ต้องเสียภาษี แตกต่างจากการฝากในธนาคาร ซื้อพันธบัตรรัฐบาล หรือลงทุนในหุ้นกู้ ที่ต้องเสียภาษีอีกถึง 15% ทำให้เราได้ผลตอบแทนแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย และไม่ถูกหักอะไรเลยครับ. หากอายุกรมธรรม์มากกว่า 10 ปีขึ้นไป สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุดจำนวนเงินไม่เกิน 100,000 บาท ตามจำนวนปีที่เราชำระเบี้ยประกันด้วยครับ

ข้อเสีย คือ ถ้าอยากเอาเงินออกมาใช้ก่อนที่จะครบตามสัญญาในกรมธรรม์ ผู้ถือกรมธรรม์จะต้องทำเรื่อง “เวนคืนกรมธรรม์” ก่อน และจำนวนเงินที่เวนคืนก็อาจจะถูกหักไปส่วนหนึ่ง เนื่องจากการทำประกันแบบสะสมทรัพย์เป็นการลงทุนในระยะยาว และทุนประกันไม่ค่อยสูง ถ้าเปรียบเทียบกับแบบประกันอื่นๆ ในจำนวนเงินที่จ่ายเบี้ยประกันที่เท่ากัน ผลตอบแทนก็ไม่สูงเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ ค่ะ

จุดประสงค์หลักของประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ก็คือคุ้มครองความเสี่ยงเรื่องความไม่แน่นอนของการที่จะไม่มีเงิน หรือมีเงินก้อนสำหรับเป้าหมายในอนาคตไม่เพียงพอ ประกันแบบสะสมทรัพย์มีมากมายหลายแบบมาก ทั้งแบบเน้นออม 100%, แบบออมและคุ้มครองเท่าๆกัน, แบบสัญญาระยะสั้น – กลาง – ยาว, แบบจ่ายเบี้ยสั้น – กลาง – ยาว แต่ถ้าอยากสะสมโดยไม่การการอะไรตอบแทนมากก็สามารถเลือกแบบประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ระยะสั้นก็ได้

เอาตรงๆเลยนะครับ อยากออมจริงๆ ฝากประจำปลอดภาษีดีกว่า เกิดฉุกเฉิน ขาดสภาพคล่องยังถอนออกมาได้เงินต้นครบแต่ถ้าเป็นประกันสะสมทรัพย์ ยกเลิกก่อนครบกำหนดได้เงินต้นไม่ครบนะแต่ถ้าจะเก็บเงินจริงๆให้ลงทุนในกองทุนรวม ถ้าหากไม่เคยมีประกันชีวิตฉบับแรก ให้ทำแบบคุ้มครองรายได้ทุนสูง เพื่อที่คนข้างหลังสามารถอยู่ได้ซักปีหรือสองปีตามกำลังจ่ายเบี้ยของเรา

ชื่อประกันก็บอกอยู่แล้วว่าสะสมทรัพย์เป็นประกันที่ให้ลูกค้าได้รับเงินก้อนเอาไว้เป็นทุนให้ลูกหรือเก็บเอาไว้เป็นเงินเกษียนตัวเองเมื่ออายุมากขึ้นเมื่อครบสัญญาแต่ในระหว่างที่ยังไม่ครบสัญญากรณีที่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับผู้ขอทำประกันกรมธรรม์นั้นจะสินสุดและบริษัทจะจ่ายเงินให้กับผู้รับผลประโยชน์ตามสัญญากรมธรรม์นั้นๆครับ

ข้อดีของประกันแบบสะสมทรัพย์คือ คุณสามารถเอามาลดหย่อนภาษีได้ นอกจากนั้นคุณจะได้รับความคุ้มครองด้วย ในกรณีคุณเกิดเสียชีวิตเงินตรงนี้ก็จะตกไปถึงคนที่คุณรักโดยไม่ได้สูญเปล่า ให้ดอกเบี้ยสูงกว่าการเอาเงินไปฝากประจำ และได้ผลตอบแทนที่แน่นอนเพราะมีการระบุไว้ในสัญญา ข้อเสียคือถ้าจ่ายไม่ครบกำหนดจะเสียทั้งเงินต้นและเวลา ความคุ้มครองต่ำถ้าเทียบกับเบี้ยที่ต้องจ่าย

เดี๋ยวนี้ผู้คนเริ่มตื่นตัวที่จะทำประกันชีวิตกันมากขึ้น การประกันก็มีหลายประเภทที่ให้เลือก ประเภทหนึ่งก็คือการประกันแบบสะสมทรัพย์ เป็นประกันที่ให้ผู้เอาประกัน ได้รับความคุ้มครองชีวิต ถ้าเกิดการสูญเสียชีวิตในช่วงที่อยู่ในระยะเอาประกัน ผู้รับผลประโยชน์จะได้รับเงินทุนประกันที่ผู้เอาประกันทำไว้ แต่เมื่อผู้เอาประกันยังมีชีวิตจนถึงระยะเวลาครบกำหนดก็จะได้รับเงินเป็นก้อนหนึ่งตามจำนวนที่ได้ทำสัญญาไว้กับบริษัทประกัน

ถ้าเจ้าของกระทู้อยากได้ความคุ้มครองและอยากออมเงินด้วย แบบที่ว่าไม่จำเป็นต้องใช้เงินน่ะ สามารถเก็บไว้ได้นานๆแค่อยากออมไว้เฉยๆ การทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ก็เหมาะนะครับ ทุกอย่างมันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย จะเป็นการทำประกันชีวิตหรือเปิดบัญชีออมเงินก็เถอะ ต้องดูวัตถุประสงค์ของตัวเองเป็นสำคัญ จะได้ตัดสินใจถูกครับ

ขอถามเป็นความรู้หน่อยนะครับพอดีไม่ค่อยรู้จักประกันประเภทนี้ ประกันชีวิตแบบออมทรัพย์ให้ความคุ้มครองแบบประกันชีวิตทั่วไปมั้ยครับ ในกรณีที่เสียชีวิตจะได้เงินประกันประมาณเท่าไหร่ ของบริษัทไหนที่ให้เงินทุนประกันสูงที่สุดเหรอครับ อย่างนี้เวลาที่จ่ายค่าเบี้ยประกันจะอัตราปกติหรือว่าแพงกว่าประกันชีวิตประเภทอื่นมั้ย

@Kosum งั้นตามเท่าที่เราเข้าใจเนี่ย ประกันแบบสะสมทรัพย์เป็นเหมือนการลงทุนระยะยาวและเงินที่เราจะเอาไปลงกับประกันสะสมทรัพย์คนเป็นเงินเยนที่เราไม่ใช้แบบนี้ถูกไหมคะถ้าจะเก็บเงินก็เอามาลงกับประกันแบบสะสมทรัพย์ดีกว่า แต่นั่นก็หมายความว่าเราจะไม่สามารถเอาเงินออกมาใช้ได้แบบที่ไม่โดนหัก เหมือนคล้ายๆกับเงินฝากประจำของธนาคารใช่แบบนั้นหรือเปล่าคะ

@นิตยา ข้อมูลที่คุณให้มาก็น่าคิดเหมือนกันนะคะ ตอนแรกก็คิดอยากจะทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์เหมือนกัน ตอนนี้ก็อยู่ในวัยทำงาน ศึกษาข้อมูลทางการเงินมาก็เยอะ ก็รู้สึกว่าในวัยนี้เหมาะที่จะทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์มากที่สุด แต่ถ้ามองอีกมุมนึง ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์นอกจากช่วยเอาเงินแล้วเรายังได้ความคุ้มครองด้วยนะ

@นิตยา ก็ขอพูดตรงๆเหมือนกันนะคะว่า ประกันสะสมทรัพย์มีข้อดีหลายอย่างมากกว่าเปิดบัญชีเงินฝากประจำนะ เรื่อง 1 ก็คือเราได้ความคุ้มครองชีวิต แล้วก็ได้เงินออมด้วย เราก็ได้เป็นก้อนใหญ่ด้วยนะ คือถ้าเราถือกรมธรรม์จนครบกำหนดสัญญาสิ้นสุดแล้วได้เงินก้อนใหญ่สามารถทำอะไรได้เยอะแยะเลยวางแผนชีวิตได้มากมายหลายอย่างเลยล่ะ

เรื่องการทำประกันชีวิตบางทีก็เป็นความพึงพอใจส่วนบุคคลนะคะ ประกันชีวิตมีหลายแบบ ดังนั้น คนที่จะทำประกันสามารถเลือกแบบที่ตัวเองต้องการได้ ซึ่งอาจจะไม่ถูกใจบางคนเหมือนอย่างที่มีคนบอกเจ้าของกระทู้ว่า "มันไม่คุ้ม" นั่นแหละค่ะ ดีที่สุด คือ ศึกษารายละเอียดของความคุ้มครองและผลประโยชน์ต่างๆที่คุณจะได้รับก่อนตัดสินใจค่ะ

ในความคิดส่วนตัวของเรานะคะ ประกันแบบสะสมทรัพย์ข้อดีก็คือ มันมีเงินปันผลให้ทุกปีค่ะ ซึ่งบางครั้งถ้าเราเอาเงินไปฝากธนาคาร เราก็อาจจะไม่ได้เยอะเท่านี้ แต่ข้อเสียก็คือถ้าเราอยากใช้เงินเราไม่สามารถที่จะเอาเงินตรงนั้นออกมาใช้ได้เลย ซึ่งถ้าจะสมัครจริงๆต้องแน่ใจด้วยนะว่าเราสามารถที่จะจ่ายได้จนครบสัญญา ไม่อย่างนั้นมันจะขาดทุนนะคะ

ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแต่ละประเภทมีข้อดีและข้อด้อยต่างกันครับ ประกันชีวิตแบบที่เพื่อนของเจ้าของกระทู้บอกว่าไม่คุ้ม เขาหมายถึงในกรณีไหนล่ะ ที่ว่าไม่คุ้มเพราะเขาไม่อยากได้ความคุ้มครองแบบนั้นหรือเปล่า แต่ละคนมีจุดประสงค์ในการทำประกันไม่เหมือนกัน ใครอยากได้ความคุ้มครองแบบไหนก็เลือกทำประกันชีวิตในรูปแบบนั้นๆไปครับ

มีคนเข้ามาคอมเม้นท์กันเยอะเลยเรื่องประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ที่เจ้าของกระทู้ถามมา เราเองไม่ค่อยรู้รายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ พอมาอ่านคอมเม้นท์ก็ได้รู้มากขึ้นเหมือนกันค่ะเดี๋ยวนี้นะ ทำประกันชีวิตอย่างเดียวไม่พอ ต้องทำประกันสุขภาพด้วย ใครจะทำประกันต้องคำนวณค่าใช้จ่ายให้ดี เพื่อจะมีเงินพอจ่ายค่าเบี้ยประกันในแต่ละปีค่ะ

แต่ละคนก็มีความคิดเห็นต่างกันไป ยิ่งเป็นเรื่องของประกันชีวิตด้วยแล้ว ประเภทของประกัน ระยะเวลาในการจ่ายค่าเบี้ยประกันภัย สิทธิประโยชน์ที่จะได้รับ แต่ละคนอยากได้ไม่เหมือนกันหรอกค่ะ เจ้าของกระทู้อ่านคอมเม้นท์ของทุกคนแล้วมั้ย ตกลงว่าคุณเลือกซื้อประกันประเภทไหนเหรอคะ เลือกแบบสะสมทรัพท์อย่างที่ถามมาหรือเปล่า

@นิตยา ถ้าเงินยังหมุนไม่ค่อยทัน หรือขาดสภาพคล่องบ่อยๆ คือยังไม่เหมาะที่จะซื้อประกันชีวิตทุกรูปแบบเลย แม้แต่ประกันระยะสั้นแบบประกันชีวิตสะสมทรัพย์ก็น่าจะยังไม่ควรซื้อ แต่คนที่ ไม่มีปัญหาทางการเงิน จัดสรรการเงินได้อย่างดีทุกๆเดือน ผมว่าคงจะพร้อมที่จะซื้อประกันชีวิตแล้วแบบนั้น ก็เลยถ้าใครซื้อประกันชีวิตเมื่อพร้อมยังไงก็คุ้มครับ ผลตอบแทนที่ได้คุ้มมากกว่าฝากเงินในบัญชีฝากประจําแน่นอน คุณยังไม่เคยลองใช่ไหม?

ไม่ทราบว่าตอนนี้จขกทมีบริษัทประกันในดวงใจแล้วหรือยังครับ ว่าอยากจะทำประกันแบบออมทรัพย์กับที่ไหน หรือว่ายังไม่ได้คิดเลยว่าจะทำกับที่ไหน ยังไงผมแนะนำให้ปรึกษากับเว็บนี้นะครับ เพราะเขาจะแนะนำประกันได้ตรงจุดอย่างที่คุณต้องการเลย ลองเข้าหน้าปรึกษาฟรีดูนะครับ เเค่กรอกข้อมูลที่เราต้องการเค้าจะมีผู้เชี่ยวชาญมาตอบคำถามเรา

ประเภทของประกันชีวิตมีหลายอย่าง ขึ้นอยู่กับว่าผู้เอาประกันภัยชอบหรือต้องการความคุ้มครองแบบไหน ในส่วนของเงินสะสมก็เช่นกัน หากว่าอยากมีเงินเก็บเอาไว้ใช้ในอนาคตหรือยามจำเป็น การเลือกซื้อประกันแบบสะสมทรัพย์เหมาะมากค่ะ ส่วนตัวเราเอง เราชอบนะประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ เหมือนเราได้รับความคุ้มครองไปด้วยและมีเงินเก็บไปด้วยค่ะ