กระดาน ถาม-ตอบเรื่อง แผนโอปอล 2 2024

@จขกท. คือผมไม่แน่ใจว่าคุณอยากจะรู้ เพราะว่ายังไม่เคยได้เคลมประกันเรียกร้องค่าสินไหมเมื่อต้องเข้ารับการรักษา หรืออีกกรณีหนึ่งก็คือว่าคุณมีประสบการณ์มาแล้วว่า เตรียมเอกสารเพื่อเคลมกับประกันจากเอ็ทน่าแบบผ่านนี้มันยุ่งยาก ยังไม่ค่อยเข้าใจคำถามนะครับ แต่ผมเป็นลูกค้าของ Aetna นะครับทำประกันสุขภาพกับเขา เวลาเคลมตอนออกจากโรงพยาบาลก็ไม่เห็นจะยุ่งยากนะครับ

ความแตกต่างที่ว่าคือเรื่องการคุ้มครอง เหรอครับ ถ้าเป็นมนส่วนนี้ไม่แตกต่างครับ ยังคุ้มครองทุกอย่างเหมือนกับแผนการคุ้มครองที่1ครับ แต่ที่ต่างจากการคุ้มครองแผนที่1และ3 คือ วงเงินมากกว่าแผนที่1ครับ แต่ก็ยังสู้กับวงเงินคุ้มครองค่ารักษาของแผนการคุ้มครองที่3ไม่ได้ครับ เพราะว่าต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเลยนะครับ

ใช่แล้วคะ เป็นประกันที่คุ้มครองแค่ในบ้านเราคะ ถ้าอยากคุ้มครอบเมื่อเดินทางไปต่างประเทศด้วย ซื้อ แอตต้าแคร์เลยคะ แต่เอาจริงๆนะคะ เราเห็นคนที่เดินทางไปต่างประเทศส่วนใหญ่เขาจะซื้อประกันการเดินทางเอาไว้ด้วยนะคะ ซึ่งเราว่าการมีประกันเดินทางค่อนข้างที่จะสำคัญมากกว่านะคะ มีการคุ้มครองหลายอย่างที่น่าสนใจเลยนะคะ

เอาใจไปเลยคะ พี่ จันจิรา ปกติแล้วเวลาที่เราจะซื้อประกันก็มักจะดูว่าคุ้มครองอะไรอย่างไรบ้าง แต่ลืมเชคคะว่าที่บ้านโรงพยาบาลที่เข้ารักษา มีการคิดค่ารักษาอย่างไรบ้าง อย่างที่บ้านของหนู ถ้าค่าห้อง ก็จะอยู่ที่ 4-5พันบาทคะ ประกันตัวนี้ คุ้มครองไม่ถึง แน่นอนเลยคะ เวลาจะซื้อประกัน พวกนนี้ ต้อง เชคเยอะมากเลยนะคะ

พี่คะ หนูเคยไปคุยกับตัวแืนประกันในเรื่องนี้นะคะ ทางตัวแทนเขาบอกว่า จริงๆแล้วตามสัญญาบอกว่ามีระยะรอคอยที่ 90วันก็จริง แต่ถ้าเรา เจ็บป่วยแบบเล็กๆน้อย อย่าง ท้องเสียหรือว่าไข้หวัดอะไรแบบนี้นะคะ สามารถไปคุยกับทางโรงพยาบาลได้คะ ส่วนเรื่องค่ารักษา เป็นไปได้มากกว่าคะที่ทาวประกันจะจ่ายการคุ้มครองให้คะถิอว่าไม่ใช่เจ็บป่วยร้ายแรงคะ

ที่ไม่คุ้มครองเลยน่าจะเป็นเรื่องของค่ารักษาเกี่ยวกับอุบัติเหตุนะคะถ้าคุณต้องการการคุ้มครองในการรักษาต้องไปซื้อประกันส่วนบุคคลตัวนี้เพิ่มเอานะะเราเองก็ซื้อมานะคะ ค่าเบี้ยประกันที่เราจ่าย เราจ่ายที่ 2500บาทคะ แต่การคุ้มครองค่ารักษา เราได้มาที่5หมื่นบาทคะ ค่ารักษาที่เขาจ่ายนี้สามารถรักษาได้ทุกอุบัติเหตุเลยนะคะ

สามารถสมัครได้คะ แค่ถ้าเรื่อวการคุ้มครอง หนูว่าพี่ต้อวไปเชคกับแผนกีะนตัวอื่นๆด้วยนะคะ เพราะว่าการคุ้มครองของตัวนี้เนี๊ยะ ก็จะใกล้เคียงกับหลายเจ้าในตลาดคะ แต่ถ้าให้เราแนะนะ อยากให้กลับไปดูประกันสุขภาพของเด็ก่อนคะ เพราะว่าลูกอายุเท่านี้ มีหลายอย่างที่เป็นโรคที่เกิดจากเด็ก มันน่าสนใจมากกว่าคะ แต่ไม่ได้บังคับพี่นะคะ

เดียวนี้ระบบของประกันเขาดีกว่าเมื่อก่อนคะ ไม่ต้องกังวลหลอกคะว่าจะต้องสำรองจ่ายก่อนไหม ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลไหน เขาจะแจ้งให้เราทราบก่อนคะว่าประกันที่เราซื้อเอาไว้คุ้มครองอะไรบ้าง แต่เอาจริงๆนะคะ ถึงเราต้องสำรองจ่ายเราก็ต้องจ่ายนะคะ ป่วยมาแล้วถ้าเขาให้เราสำรองจ่ายจะขอย้ายออกมาเลยเหรอคะ มันไม่น่าใช่ นะคะ ยังไงเราก็ยอมจ่ายคะ