Gen Life 10

@Bonuss เสียดายแทนด้วยคนค่ะ @จขกท.ที่จริงแบบแผนนี้ก็เป็นแบบที่คุ้มมากมากนะคะ ถ้าทำไปแล้ว สามารถจ่ายเบี้ยประกันต่อได้ก็ไม่ต้องยกเลิกก็ได้ แล้วถ้าคุณอยากได้ความคุ้มครองเรื่องสุขภาพก็ซื้อประกันสุขภาพเพิ่ม ไม่เห็นจะยากเลย ไหนๆก็มีประกันชีวิตอยู่แล้ว ถึงคุณยกเลิกตัวนี้ไปในอนาคตคุณก็อาจจะต้องซื้อประกันชีวิตอีกอยู่ดี ทำไปแล้วก็ทำไปเลยค่ะ

@ฝน ใช่ครับข้อมูลที่คุณให้มาถูกต้องเลย จขกทอย่าเข้าใจผิดนะครับ ไม่ว่าจะเป็นประกันรูปแบบไหน จะใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้เฉพาะช่วงเวลาที่ชำระเบี้ยประกันเท่านั้น ถ้าชำระเบี้ยจบแล้วแต่ยังได้รับความคุ้มครองต่อไปอีกช่วงเวลาที่ได้รับความคุ้มครองต่อไปช่วงนั้นคือจะใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีไม่ได้นะครับ เรื่องนี้ใช้ได้กับประกันทุกแบบแผนเลย

@Bonuss ตาม Comment ของคุณคนนี้เลยครับ ก็คือว่าเงื่อนไขเขาเป็นแบบนี้หลังจากชำระเบี้ยครบ 4 ปีถึงจะเริ่มได้รับเงินคืนนะครับ แล้วก็ที่คุณจะได้ก็คือเป็นเงินคืนนะครับไม่ใช่เงินปันผล 2 อย่างนี้ไม่เหมือนกันนะครับ แล้วตั้งแต่ปีที่ 4 ของกรมธรรม์ คุณจะได้รับเงินคืน 5% ทุกๆ 4 ปีไปจนถึงปีกรมธรรม์ที่ 21 หลังจากนั้นถึงจะได้รับเงินคืนทุกๆปีจนถึงอายุ 79 ปีครับ

ถ้าจขกทตัดสินใจแล้วว่าชอบแต่การชีวิตตัวนี้ แล้วจะซื้อประกันชีวิตตัวนี้จริงๆ ประกันสุขภาพ ก็ต้องมี รู้สึกว่าเขาก็มีสัญญาเพิ่มเติมหรือประกันสุขภาพที่เป็นของเจ้าเดียวกันให้เลือกซื้ออยู่นะครับของเจนเนอรารี่ลองหาข้อมูลดู ถ้าซื้อของเจ้าเดียวกันเบี้ยประกันอาจจะประหยัดหรือลดลงก็ได้ แต่ถ้าให้ผมแนะนำ ลองดูแบบแผนที่เป็นประกันสุขภาพเหมาจ่ายนะครับ

ประสบการณ์ของฉันก็คือ ครอบครัวของฉันซื้อประกันตัวนี้ให้ตั้งแต่ยังเด็กค่ะ ก็เลยรู้สึกว่า เป็นประกันตัวหนึ่งที่คุ้มมากๆ ตอนนี้ก็คือไม่ต้องห่วงที่จะไปหาเธอประกันชีวิตเลยเพราะว่ามีอยู่แล้วตั้งแต่เด็ก แล้วทุก 5 ปี ก็ได้เงินคืน 5% แล้วปีหน้าก็เป็นปีที่จะครบกรมธรรม์ที่ 21 หลังจากนี้ฉันก็จะได้เงินคืน 5% ทุกปีไปจนถึงอายุ 79 แล้วค่ะ ก็เหลืออีกปีเดียวตอนอายุ 80 ก็จะได้เงินก้อนใหญ่ถ้ายังไม่ตายซะก่อนนะ

Gen life 10 ว่าไปประกันตัวนี้ก็ดีไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่เราว่าคงยังไม่เหมาะกับ จขกทนะคะ เหมาะกับคนที่มีเงินเก็บบ้างอยู่แล้วมากกว่า รับประกันตัวนี้ค่อนข้างจะมีเบี้ยที่แพง อยากแนะนำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ระยะสั้นอื่นๆมากกว่า ที่จ่ายเบี้ย 10 ปีคุ้มครอง 15 ปี หรือจ่ายเบี้ยประกันแค่ 5 ปีคุ้มครอง 10 ปี แบบนี้คุณจะได้เงินก้อนเร็วมากขึ้นนะคะ

ก็เหมือนที่คนอื่นบอกมานะคะ เดี๋ยวนี้ซื้อประกันได้หลายช่องทางโดยที่ไม่ต้องเจอกับตัวแทนประกันจริงๆก็ได้ แต่ถ้าอยากจะเจอเขาก็ยินดีมาพบคุณนะคะลองโทรไปติดต่อเขาก่อน หรือว่าจะปรึกษาตัวแทนประกันบนเว็บไซต์ก่อนก็ได้ ถ้าเราเข้าไปในเว็บไซต์ของบริษัทเจนเนอราลี่ก็จะเห็นว่ามีปุ่มให้กดปรึกษาตัวแทนประกันค่ะ อาจจะเป็นวิธีใหม่สำหรับหลายๆคนแต่ก็ไว้ใจได้นะ

@Doramon ก็ยังเหลือเวลาอีกหลายปีนะคะที่คุณยังมีโอกาสที่จะทำประกันแบบนี้ได้ แต่คุณก็อย่าลืมนะว่ายิ่งอายุมากขึ้นเบี้ยประกันก็จะแพงมากขึ้นด้วย ประกันตัวนี้ยิ่งซื้อตัวไหนอายุน้อยมากเท่าไหร่ก็ยิ่งคุ้มมากเท่านั้น คุ้มในเรื่องของเงินคืนที่จะได้รับค่ะ แล้วก็คุ้มเรื่องของเบี้ยประกันด้วย ลองดูนะคะว่าคุณพร้อมจะซื้อเมื่อไหร่ ถ้าช้าเกินไปก็อยากแนะนำให้ดูประกันแบบแผนอื่นดีกว่า

@888 ที่จริงเราคิดว่าประกันแบบนี้ก็คุ้มค่ามากๆแล้วนะ คุ้มครองทั้งชีวิตด้วย มีเงินคืนให้ด้วย ตั้งแต่ปีกรมธรรม์ที่ 21 จนถึงอายุ 79 ปีก็คือจะได้เงินคืนทุกปีเลย เหมือนเป็นการวางแผนชีวิตมีช่วงเกษียณให้ไม่ต้องลำบาก หรือจะเป็นการทำรายการเพื่อมีเงินก้อนสร้างมรดกให้ตัวเองและลูกหลานได้ด้วย ถ้าจขกทไม่ได้ห่วงเรื่องการจ่ายเบี้ยประกัน ประกันตัวนี้ก็โอเคนะ

เราขอบอกนะว่าประกันชีวิต Gen life 10 เป็นประกันที่คุ้มค่ากับการลงทุน ถ้ามีเงินมากพอนะ เพราะว่าทำตอนที่เรามีชีวิตอยู่ ไปจนถึงตอนเกษียณหรือตอนแก่แล้ว ประกันตัวนี้ก็ยัง มีเงินคืนให้เราอยู่เรื่อยๆ ระหว่างนั้นก็ได้ความคุ้มครองชีวิตไปด้วยแน่นอน ความคุ้มครองเขาคุ้มครองไปจนถึงเราอายุ 80 ปี เกือบจะตลอดชีวิตแต่ถ้าเรายังมีชีวิตอยู่ก็ยังหวังเงินก้อนสุดท้ายได้

@888 ที่คุณบอกว่า ได้เงินคืน 5% น่ะถูกต้องแล้วค่ะ แต่ไม่ใช่ว่าได้ทุกปีนะ เขาว่าตั้งแต่ปีกรมธรรม์ที่ 4 ก็คือจะได้ทุกๆ 5 ปีไปจนถึงปีกรมธรรม์ที่ 20 แต่จะได้ทุกปี เมื่อถึงปีกรมธรรม์ที่ 11 จนถึงอายุครบ 79 ปี แล้วก็เมื่อสิ้นสุดสัญญาตอนอายุ 80 ปีก็จะได้รับเงินก้อนสุดท้าย 105 เปอร์เซ็นต์ เป็นแบบนี้ค่ะ ก็เป็นประกันรูปแบบหนึ่งที่มั่นคงนะ

@Hi_five ไม่น่าเกลียดหรอกค่ะ จะเป็นประโยชน์ด้วยซ้ำเพราะบางครั้งคนที่กำลังหาประกันชีวิตอยู่เขาก็ไม่ได้มีเวลาที่จะหาข้อมูลเยอะแยะ การเข้าไปในเว็บไซต์ของประกันเจ้านึงก็มีแบบแผนประกันให้เลือกเยอะอยู่แล้วอาจจะไม่ได้มีเวลาไปดูของเจ้าอื่นๆ คุณแนะนำมาก็ดีแล้วค่ะโดยเฉพาะโครงการเมืองไทยวัยเก๋าที่คุณแนะนำมา ก็เหมาะกับผู้สูงอายุจริงๆ

@หมั่นโถว อ่าน Comment ของคุณครั้งแรกก็ตกใจหมด แสดงความเสียใจเหมือนมีใครเสียชีวิตเลยนะคะ คิดว่าไม่ต้องเสียใจขนาดนั้นแต่ถ้าจะเรียกว่าเสียดายก็ได้ แต่ว่าจริงๆแล้ว ประกันนี้ก็ไม่ได้เหมาะสำหรับคนที่อายุมากนะ รู้สึกว่าเหมาะกับคนอายุน้อยมากกว่าถึงจะได้รับประโยชน์เต็มๆ ถ้าซื้อตอนที่อายุมากแล้ว ประมาณสักอายุ 40-50 ก็กลัวว่าเบี้ยประกันจะแพงมากเลยนะ

เห็นคุณบอกว่าจะซื้อให้ผู้สูงอายุหรอคะ ที่จริงจัดการตัวนี้ก็ดีนะ ว่าตั้งแต่ปีกรมธรรม์ที่ 21 จนถึงอายุ 79 ปี จะได้เงินคืน 5% ทุกๆปีเหมือนเป็นเงินบำนาญเลย เงื่อนไขของเขาคือชำระเบี้ยประกันแค่ 10 ปีถ้าซื้อให้กับผู้สูงอายุตอนที่อายุมากแล้วกลัวว่าเบี้ยประกันจะแพงมากจริงๆนะคะ ก็เลยบอกเอาไว้ก่อนถ้าจ่ายไหวก็โอเค

@นาว ผมว่าไม่ได้เหมือนกับอะไรทั้งนั้นนะครับ มันก็คือประกันชีวิตนี่แหละ ถ้าเป็น Gen life 10 ผมจะเรียกว่าเป็นประกันชีวิตตลอดชีพและกัน เขาคุ้มครองชีวิตจนถึงอายุ 80 ปีเลย แต่จะจ่ายเบี้ยประกันแค่ 10 ปีซึ่งผมว่าค่อนข้างแพงอยู่พอสมควร แต่หลังจากจ่ายเสร็จแล้ว ผลประโยชน์ที่ได้ ค่อนข้างเยอะนะครับ ได้ทั้งเงินคืนทุกๆ 5 ปี ตั้งแต่ปีกรมธรรม์ที่ 4 แต่ถ้าเริ่มตั้งแต่ปีกรมธรรม์ที่ 21 จนถึงอายุ 79 ปีก็คือจะได้เงินคืนทุกปีเลย

@24hr. ใช่เลยครับผมก็จะแนะนำเหมือนกับคุณ เพราะว่า ถ้าเรามีเงินเก็บไม่เยอะงั้นแสดงว่าปัญหาของเราก็คือเรื่องการออมเงิน ประกันที่ดีที่เหมาะก็น่าจะเป็นประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ช่วยให้คุณมีเงินเก็บมากขึ้น แล้วถึงแม้ไม่ค่อยมีเงินเก็บก็สามารถซื้อประกันแบบนี้ได้เพราะเบี้ยก็ไม่ค่อยแพง ส่วนมากก็จะมีเงินคืนหรือไม่ก็เงินปันผลให้ในแต่ละปี สัญญาก็ไม่นาน สิ้นสุดสัญญาคุณก็ได้เงินก้อนแล้ว

ผมยังจะไม่แนะนำประกันตัวอื่นก่อนนะครับ มาพูดถึงผลประโยชน์ของประกันตัวนี้ก่อนละกัน มันก็ขึ้นอยู่กับคนซื้อทักมาชอบและพอใจแบบนี้ไหม เพราะประกันตัวนี้ถ้าพูดถึงเรื่องที่ดี ผลประโยชน์ของเขาก็ค่อนข้างจะเหมือนกับตัวเมาประกันชีวิตหลายๆรูปแบบอยู่ในกรมธรรม์เดียว ก็คือ ช่วยออมเงิน คุ้มครองตลอดชีวิตถึงอายุ 80 ปี แต่ก็ยังมีโอกาสได้เงินก้อนสุดท้ายด้วย ได้เงินคืนไปจนถึงช่วงเกษียณเหมือนมีเงินบำนาญด้วย ก็มีดีหลายอย่าง

มันก็ดูที่อายุด้วยแล้วก็ดูที่เงินเอาประกันขั้นต่ำที่คุณเลือกด้วยครับ 2 อย่างนี้จะบอกว่าคุณต้องจ่ายเบี้ยเท่าไหร่ต่อปี แล้วก็ไม่ต้องห่วงว่าค่าเบี้ยจะเพิ่มมากเกินไปนะครับเพราะว่ารู้สึกว่าแบบแผนนี้ จ่ายเบี้ยประกันแค่ 10 ปี ก็จบแล้ว คิดว่าภายใน 10 ปีนี้เบี้ยประกันคงไม่ได้เพิ่มมากหรอก แต่ถ้าจะเอาให้ชัวร์ก็คือปรึกษาตัวแทนประกันดีกว่าครับ

ผมคิดว่าประกันตัวนี้ เขาไม่ได้ระบุแน่นอนนะครับว่าเงินเอาประกันขั้นต่ำเท่าไหร่ แต่ส่วนมากผู้เอาประกันก็คงจะเลือกเงินเอาประกันหลักแสนขึ้นไป เพราะจากตัวอย่างของผมเองผมก็ทำประกันชีวิตที่รูปแบบคล้ายๆกับรายการตัวนี้ที่คุณสนใจซึ่งกำหนดเงินเอาประกันขั้นต่ำเองผมเลือกอยู่ที่ 5 แสนบาท ก็ไม่ได้มีวางแผนเรื่องการชำระเบี้ยอะไรมากมาย ก็ดูที่ว่ารายได้ต่อเดือนเราได้เท่าไหร่หักค่าใช้จ่ายแล้วเหลือเท่าไหร่แค่นั้นครับ

@แทน ความคุ้มครองสุขภาพจำเป็นจริงๆอย่างที่คุณบอกครับ ก็คือถ้าจขกท. จะทำประกันตัวนี้ให้แม่ทำเป็นประกันชีวิต ที่เน้นออมเงิน ก็คงจะต้องซื้อสัญญาเพิ่มเติมเรื่องสุขภาพเข้าไปด้วย แต่ยังไงผมก็อยากจะขอแนะนำอีกทางเลือกนึงนะครับ ดีกว่าไหมถ้าจะซื้อประกันชีวิตสำหรับผู้สูงอายุให้คุณแม่คุณไปเลยอย่างเช่นของโครงการเมืองไทยวัยเก๋าเพราะเขามีความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลด้วยนะ