เมื่อเริ่มทำงานหลายคนก็ฝันคิดจะมีบ้าน มีรถ หรือมีคอนโดสักห้องที่ตัวเองเป็นเจ้าของ โดยไม่ต้องเช่า แต่จ่ายเป็นค่าผ่อนแต่ละเดือนแทน หรือบางท่านที่มีกำลังทรัพย์หน่อยก็อาจจะซื้อสดซึ่งมาดูกันสิว่าแบบไหนดีกว่ากัน พร้อมเคล็ดลับการสร้างวินัยสำหรับมือใหม่ที่ต้องการเริ่มต้นผ่อนคอนโดและเทคนิคที่จะช่วยให้คุณ ผ่อนคอนโด ให้หมดไว จ่ายเบี้ยได้ถูกลงและทิ้งท้ายที่พลาดไม่ได้กับแหล่งกู้สินเชื่อจากธนาคารไหนดี

ผ่อนคอนโด VS ซื้อสดอันไหนดีกว่ากัน

https://img.moneyduck.com/article_attachment/1657614497-happy-cheerful-asian-family-dad-mom-daughter-having-fun-playing.jpg

เริ่มกันที่คำถามที่หลายคนคงอยากรู้ว่าเลือกผ่อนคอนโด หรือซื้อคอนโดดีกว่ากันด้วย 7 ข้อที่อยากให้คุณพิจารณา ดังนี้

  1. ภาวะจิตใจ เพราะแน่นอนว่าการซื้อบ้านเงินสดนั้นต้องทำการบ้านหนักกว่าบ้านเงินผ่อนแน่ ๆ เนื่องจากต้องใช้เงินก้อนใหญ่มากในการลงทุน แต่ก็อาจจะเครียดแค่ก่อนลงทุนซื้อบ้าน แต่สำหรับคนผ่อนคอนโดอาจจะเครียดช่วงระหว่างยื่นกู้ธนาคารว่าเครดิตจะผ่านหรือไม่ จากนั้นก็เครียดเรื่องการจ่ายค่างวด
  2. ความเสี่ยง เนื่องจากมีหลายโครงการที่เปิดขายก่อนสร้างเสร็จซึ่งหากซื้อช่วงนี้จะได้ราคาขายที่ต่ำกว่า หรือเรียกว่าราคา “Pre-sale” ซึ่งมีความเสี่ยงไม่ว่าจะซื้อสด หรือผ่อนเพราะต้องจ่ายค่าจอง หรือค่าทำสัญญาล่วงหน้าซึ่งหากโครงการล่มก่อนเสร็จ หรือแบบก่อสร้างได้ไม่ตรงตามที่กำหนดผู้ซื้ออาจจะต้องเสียเวลาในการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อโครงการ
  3. การลงทุน แน่นอนว่าการซื้อบ้านด้วยเงินสดก้อนใหญ่จะไม่สามารถนำเงินส่วนนั้นไปใช้ในการลงทุนต่อยอดได้ในอนาคต แต่การผ่อนคอนโด จะสามารถนำเงินส่วนหนึ่งไปต่อยอดเพื่อสร้างกำไรและนำเงินส่วนนั้นมาช่วยแบ่งเบาภาระจากการผ่อนคอนโดในแต่ละงวดได้
  4. การลดหย่อนภาษี ในปัจจุบันบ้านที่ซื้อสดยังไม่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ แต่ในขณะเดียวกันบ้านที่ผ่อนสามารถนำดอกเบี้ยบ้านไปช่วยลดหย่อนค่าภาษีในแต่ละปีได้ตามการจริง ไม่เกิน 100,000 บาท
  5. ภาระหนี้ หากท่านจะซื้อบ้านสักหลังโดยใช้เงินสด แน่นอนที่สุดคือท่านจะไม่มีหนี้สินและภาระผูกพันในอนาคต แต่ถ้าหากผ่อนก็จะมีชำระค่างวดบ้านในแต่ละเดือนซึ่งต้องรู้จักการบริหารให้ดีมีสำรอง
  6. ขั้นตอนการซื้อ การซื้อคอนโดเงินสดย่อมมีขั้นตอนน้อยกว่าการผ่อนคอนโดซึ่งช่วยให้สะดวกและรวดเร็วกว่า
  7. ดอกเบี้ย แน่นอนว่าการซื้อเงินสดดีกว่าการผ่อนคอนโดเนื่องจากไม่ต้องเสียดอกเบี้ยแต่ละงวด หรือค่าธรรมเนียมอื่น ๆ

การซื้อบ้านด้วยเงินสดถึงจะดีในเรื่องของค่าใช้จ่ายที่ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมเหมือนการผ่อนคอนโด แต่ผู้ซื้อต้องยอมรับในการสูญเสียเงินจำนวนมากไปกับการซื้อบ้านมากกว่าการนำเงินส่วนหนึ่งไปต่อยอดเพื่อลงทุนและส่วนหนึ่งก็เอามาผ่อนคอนโดเพื่อรอรับผลกำไรในการนำมาจ่ายชำระค่างวดซึ่งช่วยแบ่งเบาภาระฝนแต่ละเดือน

สร้างวินัยด้วย 3 เคล็ดลับเมื่อต้องเริ่มต้นผ่อนคอนโด

ต่อมาเป็นเคล็ดลับสำหรับคนที่วางแผนซื้อคอนโดแต่ไม่รู้จะเก็บเงินอย่างไรกับ 6 เคล็ดลับในการสร้างวินัย

  1. ทำบัญชีรายรับ - รายจ่าย ซึ่งเป็นวิธีที่จะช่วยให้คุณรู้ว่าแต่ละเดือนมีเงินเข้าเงินออกเท่าไรและสามารถนำไปวางแผนว่าหากจะผ่อนงวดบ้าน หรือคอนโดแต่ละเดือนพอรู้หรือไม่ หรือต้องเดือนชนเดือน โดยควรหาให้เจอว่าแต่ละเดือนสัดส่วนในการใช้ไปกับอะไรกี่เปอร์เซ็นต์จากนั้นนำมาแบ่งส่วนสำหรับค่าผ่อนคอนโดว่าใช้ไปกี่เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือนและควรลดส่วนใดลงเพื่อให้มีเงินเหลือเก็บมากขึ้น
  2. แยกบัญชีให้ชัดเจน เมื่อเรามีบัญชีธนาคารส่วนใหญ่จะเก็บและจ่ายในบัญชีเดียวกัน แต่ความเป็นจริงคือควรแยกบัญชีเงินออมและบัญชีเงินสำหรับใช้จ่ายให้ชัดเจนเพื่อไม่นำเงินมาใช้ปะปนกันเพราะบางครั้งเราใช้เพลินจนลืมไปว่ายังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่กำลังรอเรียกเก็บจากเรา
  3. เก็บไว้โป๊ะเพิ่มเมื่อได้เงินพิเศษ เช่น ได้โบนัส หรือแหล่งรายได้ช่องทางอื่น ๆ แนะนำให้นำเงินส่วนนั้นที่ได้โปะเพิ่มสัก 10 - 20% ของเงินที่ได้รับ หรืออาจจะโป๊ะเพิ่ม 50% ของเงินก้อนนั้นหากได้โบนัสก้อนใหญ่

โดยทั้ง 3 เคล็ดลับจะทำให้คุณมีเงินก้อนเพียงพอในการดาวน์ แต่ควรเริ่มต้นจากการทำรายบัญชีรายรับเพื่อทำให้ทราบถึงพฤติกรรมการใช้จ่ายของตนเอง จากนั้นเมื่อทราบแล้วว่าแต่ละส่วนใช้ไปกับอะไรและต้องลดส่วนใดเพื่อให้เพียงพอต่อการผ่อนคอนโดก็ควรเริ่มทำบัญชีแยกใช้จ่ายกับออมเงินเพื่อผ่อนคอนโดให้ชัดเจน จากนั้นเมื่อมีเงินพิเศษเข้ามาก็ควรแยกเก็บเพิ่มไว้ในบัญชีเช่น หากได้มาไม่เยอะมากนักก็เก็บสัก 10 - 20% แต่ถ้าก้อนใหญ่ก็เก็บสัก 50% ซึ่งจะช่วยให้เรามีออมเก็บไว้ในยามฉุกเฉิน หรือเพื่อนำไปโป๊ะค่างวดให้หมดได้เร็วขึ้น แต่ทั้งหมดควรตั้งอยู่บนความพอดีไม่ประหยัด หรือใช้จ่ายจนมากเกินไป

4 เคล็ดลับในการผ่อนคอนโดอย่างไรให้หมดไว

เมื่อเก็บเงินพร้อมแล้วก็มาดูเคล็ดลับในการผ่อนคอนโด ให้หมดไวด้วย 4 เทคนิคที่ทำได้จริง ได้แก่

  1. ช่วงนาทีทองในช่วงอัตราดอกเบี้ยต่ำ คือ ช่วงที่เหมาะกับการนำเงินมาโป๊ะเพิ่มซึ่งช่วงที่ว่าจะเป็นช่วง 2-3 ปีแรกเนื่องจากธนาคารมักมีโปรโมชั่น หรือสิทธิพิเศษด้วยดอกเบี้ยต่ำ ๆ เพื่อช่วยจูงใจให้ผู้บริโภคหันมาขอสินเชื่อมากขึ้นและสิ่งที่ควรรู้คือหลักการจ่ายดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกซึ่งธนาคารจะนำเงินที่ผ่อนค่างวดไปจ่ายดอกเบี้ยก่อนส่วนที่เหลือจะจ่ายค่าเงินต้นซึ่งสรุปง่าย ๆ คือ ยิ่งจ่ายค่าเงินบ้านให้มีเงินต้นลดลงเหลือน้อยเร็วเท่าไร่ ก็ยิ่งจ่ายค่าดอกเบี้ยลดลงตาม
  2. ผ่อนชำระแบบโป๊ะเพิ่มทุกเดือน เนื่องจากกล่าวไปข้างต้นว่าดอกเบี้ยบ้านลดลงตามเงินต้นที่จ่ายน้อย แม้หลายคนอาจจะมองว่าธนาคารได้คำนวณค่างวดแต่ละเดือนมาให้เรียบร้อยแล้วซึ่งจริง ๆ เราไม่ต้องทำตามขั้นตอนนั้นเสียทีเดียว แต่ก็ต้องไม่จ่ายต่ำกว่านั้น หากเดือนไหนรู้สึกมีเงินเก็บเพิ่มขึ้นอาจจะนำมาโป๊ะเพิ่ม 1,000 - 2,000 หรือมากกว่านั้นทุก ๆ เดือนก็จะช่วยให้ค่างวดบ้านหมดเร็วขึ้นและจ่ายค่าดอกเบี้ยได้ถูกลง ไม่เหมือนกับรถยนต์ที่จ่ายค่าดอกเบี้ยคงที่ตลอดอายุสัญญาโดยสามารถคำนวณหาค่างวดได้ที่ คำนวณสินเชื่อ
  3. โป๊ะเงินก้อน ตามโอกาส ตลอดอายุสัญญาสินเชื่อไม่ว่าจะเป็น 15 ปี 20 ปี 30 ปี หรือ 40 ปีซึ่งหากสงสัยว่าจะนำเงินก้อนมาได้จากที่ไหนต้องบอกเลยว่าไม่ไกลอย่างที่คิด นั่นก็คือ เงินโบนัสประจำปี หรือประจำไตรมาสซึ่งอาจจะแบ่งจากการนำไปช้อปปิ้งมาใช้สำหรับผ่อนบ้าน

ยกตัวอย่าง เช่น ได้รับเงินโบนัสทั้งปีอยู่ 100,000 บาท นำมาใช้โป๊ะบ้าน 50% ของเงินที่ได้รับ ก็คือ 50,000 บาทซึ่งจะช่วยลดเงินต้นและลดดอกในปีให้ถูกลงซึ่งหากทำแบบนี้เป็นประจำทุกปี ในระยะยาวจะก่อให้เกิดประโยชน์และความคุ้มค่าอย่างแน่นอน

หรืออีกวิธีคือ การรีไฟแนนซ์คอนโดซึ่งมีธนาคารหลายแห่งเปิดให้รีไฟแนนซ์ซึ่งหลักการพิจารณาของแต่ละบุคคลขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและบริการของธนาคารนั้น ๆ

เลือกธนาคารผ่อนคอนโดที่ไหนดี

https://img.moneyduck.com/article_attachment/1657614514-amazing-aerial-shot-singapore-cityscape-with-lots-skyscrapers%20%282%29.jpg

ทิ้งท้ายด้วยการอัปเดตดอกเบี้ยคอนโดล่าสุดในปี 2565 มาดูกันสิว่าเจ้าไหนให้ดอกเบี้ยน่าเลือกใช้บริการ

จะสังเกตได้ว่าธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส) มีดอกเบี้ยต่ำสุดในบรรดาทุกธนาคาร แต่จำกัดด้วยวงเงินที่ไม่สูงมากนัก แต่ในขณะเดียวกันบางธนาคารอย่างธนชาตสามารถปล่อยสินเชื่อคอนโดให้ยื่นกู้สูงสุดได้ถึง 50 ล้าน แต่ก็มีเงื่อนไขและบริการตามธนาคารกำหนดจึงควรพิจารณาทั้งอัตราเงื่อนไขและดอกเบี้ยก่อนตัดสินใจ

การผ่อนคอนโดจึงเป็นเรื่องที่ทำได้จริงเพียงแค่ต้องอาศัยองค์ความรู้ การวางแผนและบริหารเงินอย่างมีประสิทธิภาพ โดยก่อนเริ่มซื้อคอนโดควรมีการวางแผนเก็บเงินสำหรับดาวน์และใช้สำหรับฉุกเฉินแล้วค่อยมาติดต่อธนาคารเพื่อเลือกสินเชื่อสำหรับคอนโดจากแหล่งธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยและเงื่อนไขที่มีความเป็นไปได้ให้เหมาะกับผู้กู้ โดยควรศึกษาเงื่อนไขการให้บริการทุกครั้งก่อนตัดสินใจซึ่งคุณสามารถปรึกษาเรื่องการลงทุนได้ฟรี! ที่จะเข้ามาช่วยให้การเงินของคุณนั้นไม่สะดุด