ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาถือได้ว่ากระแสคริปโตเคอร์เรนซี(Cryptocurrency)ค่อนข้างมาแรงเนื่องจากผู้คนหันมาให้ความสนใจในการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้นซึ่งการลงทุนส่วนใหญ่ต้องซื้อขายผ่านแพลตหอรืมต่างประเทศจนในที่สุดได้มีการก่อตั้งแพลตฟอร์มของคนไทยในชื่อ Bitkub ซึ่งตอนนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักกับมูลค่าธุรกิจที่มากกว่า 1000 ล้านซึ่งจะเหมาะกับนักเทรดอย่างไรและทำไมบิทคับถึงได้รับความนิยม

ทำไม Bitkub ถึงได้รับความสนใจ

![https://img.moneyduck.com/article_attachment/1660795533-closeup-shot-bitcoin-put-black-computer-keyboard.jpg

](https://img.moneyduck.com/article_attachment/1660795533-closeup-shot-bitcoin-put-black-computer-keyboard.jpg)

บิทคับ (Bitkub) เป็นตลาดคริปโตเคอร์เรนซีของคนไทยที่ได้รับอนุญาตจากกลต. และสามารถใช้สกุลเงินบาท (THB) ในการซื้อขายคริปโตฯ จึงทำให้ผู้เล่นคนไทยที่มีความสนใจเข้าใจได้เร็วกว่าแพลตฟอร์มจากต่างประเทศซึ่งภายในเว็บไซต์ได้มีการให้ข้อมูลด้วยการอธิบายขั้นตอนตั้งแต่เริ่มต้นการสมัครไปจนถึงการเทรดเหรียญจึงทำให้ง่ายต่อผู้ใช้งาน

จุดเด่นของแพลตฟอร์ม Bitkub

สำหรับจุดเด่นหลัก ๆ ของ Bitkub คงหนีไม่พ้นเรื่องความปลอดภัย ซึ่งถือเป็นเป้าหมายหลักในการเจาะจงให้ลูกค้าได้รับความปลอดภัยเป็นลำดับแรก โดยมีทั้งตัว Hot Storage และ Cold Storage ที่นำมาใช้ในการดูแลเหรียญทุกเหรียญที่ลูกค้าได้นำมาฝากไว้ พร้อมระบบการดำเนินการ (operation) ที่ค่อนข้างรัดกุมเพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลในทุก ๆ ทาง รวมถึงเงินทุกบาทที่ได้มีการฝากไว้ในระบบจะไม่ถูกนำไปใช้ในทางอื่นที่มิใช่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในระบบแต่อย่างใดทำให้ลูกค้ามั่นใจในการเข้ามาใช้บริการ

นอกจากนี้ยังสามารถเข้าทุกคนที่สามารถใช้เทรดเหรียญสกุลเงินอื่น ๆ ได้ทั่วโลก พร้อมใช้งานง่ายรองรับหลายแพลตฟอร์มด้วยระบบการทำงานที่รวดเร็วที่ให้บริการ 24 ชั่วโมงซึ่งหากชวนเพื่อนเทรดเหรียญจะได้รับ Cashback คืนสูงสุดถึง 20% ที่พร้อมให้คุณหมดกังวลใจด้วยระบบป้องกันการโจมตี DDoS โดยการ Encrypt ข้อมูลและเก็บเหรียญส่วนใหญ่ลง Offline Storage

10 ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อเหรียญบน Bitkub

https://img.moneyduck.com/article_attachment/1660795549-beautiful-cryptocurrency-hologram-design%20%281%29.jpg

ก่อนจะไปเปิดบัญชี เราอยากให้คุณลองพิจารณาเกี่ยวกับการซื้อขายเหรียญบน Bitkub ซึ่งมีด้วยกันทั้งหมด 10 ข้อ ดังนี้

  1. 2FA เป็นเรื่องที่สำคัญมากซึ่งไม่ควรลบเพราะต้องใช้ทั้งในการยืนยันตัวตน เช่น การ Login และตอนถอนเหรียญ หรือใช้ในกรณีที่มือถือสูญหายเนื่องจากมีความจำเป็นต้องติดต่อ Support ซึ่งจะใช้เป็นชุดรหัสผ่านขั้นที่ 2 หรือที่เรารู้จักกันว่า OTP สำหรับป้อนเพื่อยืนยันโดยมีระยะเวลาของตัวเลขแต่ละชุดประมาณ 30 วินาที
  2. QR Code จะถูกสร้างขึ้นมาสำหรับใช้ฝากเงินแบบเข้าทันที แต่สามารถใช้ได้แค่ 1 QR Code ต่อการฝาก 1 ครั้งและห้ามใช้ซ้ำ
  3. ฝากเงินเข้าบัญชี ชื่อธนาคารที่ฝากเงินเข้ามาต้องตรงกับชื่อที่ยืนยันตัวตนกับบัญชี Bitkub เท่านั้น ห้ามใช้ชื่อบัญชีผู้อื่นเด็กขาด
  4. ถอนเหรียญ VS ถอนเงินบาท คล้ายกันแต่ไม่ใช่เรื่องเดียวกัน
    • ถอนเหรียญ: การถอนเหรียญคริปโตสกุลเงินต่าง ๆ ออกจากบัญชี เช่น BTC, Bitcoin, ETH, DOT, ADA ออกจากบัญชี Bitkub
    • ถอนเงินบาท: จะเป็นการถอนเงินบาทออกจากบัญชี Bitkub เพื่อโอนเข้าสู่บัญชีธนาคาร ซึ่งต้องมีการขายเหรียญเป็นตระกูลเงินบาทก่อนถึงจะถอนเป็นเงินบาท (THB)ได้
  5. ตัวย่อของชื่อเหรียญ เนื่องจากตระกูลเหรียญคริปโตมีหลายชื่อและบางชื่อค่อนข้างยาวจึงเกิดเป็นตัวย่อเพื่อให้เรียกใช้งานง่าย
  6. . Crytocurrency VS Bitcoin
    • คริปโตเคอร์เรนซี (Crytocurrency) จะเป็นสกุลเงินดิจิทัล
    • บิทคอยน์ (Bitcoin) จะเป็นหนึ่งในสกุลเหรียญดิจิทัลของคริปโตเคอร์เรนซีที่ชื่อว่า บิทคอยน์ (BTC)
  7. Address ไม่ใช่ที่อยู่อาศัย หรืออีเมล์ สำหรับคำว่า Address ในวงการคริปโตไม่ได้หมายถึงที่อยู่อาศัย หรืออีเมล์แต่หมายถึง ที่อยู่สำหรับฝากเหรียญ กระเป๋าเหรียญและที่อยู่คริปโตเคอร์เรนซี
  8. ยืนยันตัวตน KYC มาจากคำว่า Know your customer เพื่อยืนยันว่าคุณมีตัวตนจริง ๆ มีแหล่งที่มารายได้ชัดเจน ป้องกันการฟอกเงินและเป็นไปตามกฎเกณฑ์ที่กลต.กำหนดซึ่งหากผ่าน LV1. สามารถเทรดได้เลย
  9. Limit Order คือ รูปแบบการซื้อขายที่เรากำหนดราคาซื้อ - ราคาขาย - จำนวนเงินที่กำหนดได้ตนเอง
  10. Market Order คือ รูปแบบการซื้อขายด้วยราคาปัจจุบันซึ่งผู้ใช้งานจะสามารถกำหนดได้เพียงจำนวนเงิน หรือจำนวนเหรียญในการซื้อขายได้เท่านั้น

ทั้ง 10 ข้อที่กล่าวมาข้างต้นจะทำให้ผู้ใช้งานเข้าใจเกี่ยวกับระบบ bitkub สำหรับการซื้อขายเหรียญมากขึ้นก่อนตัดสินใจลงทุนซึ่งเหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ควรศึกษารายละเอียดและผลิตภัณฑ์ รวมถึงความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจจะได้รับก่อนลงทุน

วิธีการเปิดบัญชีกับ Bitkub ก่อนเริ่มเทรด

ทิ้งท้ายกันด้วยวิธีการเปิดบัญชีกับ Bitkub ก่อนเริ่มเทรดโดยสรุปขั้นตอนคร่าว ๆ ให้แก่ผู้ใช้งาน ดังนี้

  1. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นผ่าน Andriod และ IOS
  2. เลือก Setting มุมขวาล่าง
  3. เลือกเข้าสู่ระบบสมาชิก
  4. เลือก Login
  5. กรอกอีเมล์และรหัสผ่านตามที่ลงทะเบียน
  6. เลือกเข้าสู่ระบบตั้ง PIN 6 หลัก
  7. กำหนด PIN 6 หลักโดยใส่ 2 รอบเพื่อยืนยัน PIN
  8. ตั้งค่า Face ID หรือ Touch ID (ขึ้นอยู่กับสมาร์ทโฟนที่ใช้) หากไม่ต้องการสามารถกดข้ามได้เลย
  9. เลือกเมนู “ถัดไป” เพื่อเป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการเข้าสู่ระบบ
  10. จากนั้นให้เริ่มยืนยัน KYC ซึ่งสามารถดูขั้นตอนการยืนยันตัวตนเพิ่มเติมได้ที่ Bitkub เพียงแค่นี้ก็สามารถเริ่มต้นใช้งานซื้อขายได้แล้ว

คงปฏิเสธไม่ได้ว่า Bitkub เป็นแพลตฟอร์มที่มีความน่าสนใจในการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลเนื่องจากตัวระบบที่ค่อนข้างปลอดภัย ใช้งานง่าย รองรับทุกแพลตฟอรืม แถมยังได้รับการรับรองจากกลต. และที่สำคัญสามารถเทรดซื้อขายได้ทั่วโลกด้วยมูลค่าบริษัทฯ ที่สร้างผลกำไรมากกว่า 1000% ยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงความน่าเชื่อถือ

แต่สำหรับผู้เล่นมือใหม่ หรือมืออาชีพก็ควรลงทุนอยู่ภายใต้การทำความเข้าใจผลิตภัณฑ์และยอมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากตลาดค่อนข้างมีความผันผวนซึ่งอาจจะทำให้เสียเงินลงทุนจำนวนมหาศาลได้ แต่ในขณะเดียวกันก็อาจเป็นช่องทางหนึ่งที่สร้างกำไรได้เป็นกอบเป็นกำซึ่งก่อนเริ่มต้นเทรด MoneyDuck! เราพร้อมให้ปรึกษาการลงทุนฟรีแบบไม่มีค่าใช้จ่าย