เมื่อไม่นานมากนี้นักวิเคราะห์และนักลงทุนหลายสถาบันได้มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่าดัชนีหุ้นจีนกำลังกลับมาหลังจากผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในช่วงเวลาที่ผ่านมาซึ่งส่วนหนึ่งมาจากผลกระทบของโควิด-19 ที่เขย่าเศรษฐกิจทั่วโลก แต่ตอนนี้เหมือนได้รับสัญญาณที่ดีจากนโยบายของทางการจีนซึ่ง MoneyDuck! จะพาคุณผู้อ่านไปติดตามข้อมูลและพิจารณาไปพร้อม ๆ กันว่า ดัชนีหุ้นจีน นั้นเหมาะต่อการลงทุนแล้วหรือไม่
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ตลดหุ้นจีน ที่นี่
ดัชนีหุ้นจีน คืออะไร
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับดัชนีตลาดหุ้นจีนซึ่งประกอบด้วย 4 ตลาดใหญ่ ๆ คือ ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ (SSE) ซึ่งเป็นตลาดการซื้อขายที่ใหญ่ที่สุด ถัดมาจะเป็นตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น (SSZE) ตลาดหลักทรัพย์ปักกิ่งและยังรวมไปถึงตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HESK)
6 รูปแบบ ดัชนีหุ้นจีน ที่น่าสนใจ
ต่อมาจะพาคุณผู้อ่านไปรู้จักกับ ดัชนีหุ้นจีน ที่น่าสนใจจะแบ่งออกเป็น 6 ประเภทประกอบไปด้วย
- A-Share: จะเป็นดัชนีหุ้นที่มีฐานธุรกิจในจีนแผ่นดินใหญ่ซึ่งจะอยู่ในตลาด SSE และ SSZE โดยเป็นหุ้นกลุ่มบริษัทที่มีมูลค่าทางตลาดมากที่สุดในทุกดัชนีของตลาดหุ้นจีนที่ใช้เงินหยวนในการซื้อขายซึ่งให้นักลงทุนสัญชาติจีนและนักลงทุนต่างชาติลงทุนได้เท่านั้น
- B-share: จะมีลักษณะการลงทุนเหมือนกับ A-share แต่จะต่างเรื่องการลงทุนที่อนุญาตให้นักลงทุนชาวต่างชาติลงทุนได้และสามารถใช้เงินสกุลดอลลาร์ (USD) ในการซื้อขายได้
- H-Share: จะเป็นดัชนีหุ้นที่มีฐานธุรกิจในจีนแผ่นดินใหญ่ แต่จัดตั้งบริษัทฯ นอกประเทศจีนและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงซึ่งเป็นที่นิยมของนักลงทุนต่างชาติเนื่องจากปฏิบัติตามมาตรฐานของฮ่องกงซึ่งถือเป็นศูนย์กลางตลาดทุนของโลก
- Red-Chip: จะเป็นดัชนีหุ้นที่มีฐานธุรกิจในจีนแผ่นดินใหญ่ แต่จัดตั้งบริษัทฯ นอกประเทศจีนและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงแต่รัฐบาลจีนเป็นผู้ถือหุ้นด้วยซึ่งจะเป็นบริษัทฯ เล็ก หรือกลางก็ได้
- P-Chip: จะมีลักษณะการลงทุนเหมือนกับ Red-Chip แต่ไม่มีรัฐบาลจีนเป็นผู้ถือหุ้น
- ADRs: ย่อมาจาก American Depository Reciepts ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นที่มีฐานธุรกิจในจีนแผ่นดินใหญ่ แต่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ โดยหุ้นส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นประเภทเทคโนโลยีของจีนซึ่งกฎเกณฑ์ของสหรัฐนั้นน้อยกว่าจีนทำมีการขยายนักลงทุนได้ค่อนข้างมากกว่
โดยกลุ่มหลักที่นักลงทุนสนใจลงทุน ได้แก่ A-Share, H-Share และ China ADRs ส่วนหนึ่งมาจากลักษณะการลงทุนที่ค่อนข้างอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุน เช่น ข้อกำหนด กฎเกณฑ์และอื่น ๆ ที่มีความยืดหยุ่นมากกว่า
ทำไม ดัชนีหุ้นจีน ครึ่งปี 2022 ถึงน่าสนใจ
เดินทางมาถึงครึ่งปี 2022 กับปัจจัยเชิงบวกของเศรษฐกิจและภาพรวม ๆ อื่นของประเทศจีนว่ามีปัจจัยใดบ้างที่ส่งเสริมการลงทุน ดัชนีหุ้นจีน
- ไร้ปัญหาเงินเฟ้อ คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตอนนี้เกิดปัญหาเงินเฟ้อเกือบทั่วทุกมุมโลกไม่เว้นแม้แต่สหรัฐฯ ซึ่งหากเทียบกับหลาย ๆ ประเทศยกเว้นญี่ปุ่นจีนถือว่ามีปัญหาเรื่องเงินเฟ้อค่อนข้างต่ำจึงทำให้ธนาคารกลางของจีนสามารถทำนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายได้ผ่านการลดดอกเบี้ยและเพิ่มสภาพคล่องในระบบ
- การประเมินมูลค่า (Valuation) ของตลาดหุ้นจีนอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีตที่ผ่านมาและตลาดหุ้นอื่นๆ
- ปีแห่งการเฉลิมฉลอง ถือว่าปี 2022 เป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองของจีนที่ยิ่งใหญ่สุดในรอบ 10 ปีเนื่องจากปลายปีจะมีการประชุมครั้งที่ 20 ของพรรคคอมมิวนิสต์ระดับชาติของจีนซึ่งจะเป็นเวทีที่ สี จิ้น ผิง ผู้นำจีนซึ่งความพิเศษคือ ขยายเวลาในการเป็นผู้นำจีนแบบที่ไม่มีข้อจำกัดสำหรับวาระในการดำรงตำแหน่งผู้นำซึ่งมีสถานภาพที่ทัดเทียมกับอดีตประธาน เหมา เจ๋อ ตุง
- แข่งกันทำค่าเงินแข็ง แม้จีนจะเป็นประเทศที่มีมูลค่าดุลการค้าที่เกินดุลมากที่สุดสำหรับประเทศใหญ่ ๆ โดยเทียบกับสหรัฐที่ขาดดุลการค้ามากที่สุด แต่ ณ ปัจจุบันยังไม่ใครต้องการเอาคืนเนื่องจากทุกประเทศไม่ต้องการเงินเฟ้อจึงอยากให้สกุลเงินขิงตนเองแข็งค่าไว้ส้งผลให้จีนสามารถส่งออกได้มากกว่าการนำเข้าทำให้ GDP ของจีนขยับเข้าใกล้เป้าหมายที่วางไว้ที่ร้อยละ 5
- ลุ้นสหรัฐลดกำแพงภาษีส่งออกของจีน เนื่องจากสนธิสัญญาการค้า Trading War ในยุคของโดนัลทรัมกำลังสิ้นสุดลงและมีโอกาสสูงที่จะไม่ต่อสัญญาซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจจีนดีขึ้นจากการส่งออกที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ จีนก็ยังมีปัจจัยเชิงลบที่อาจส่งผลกระทบต่อดัชนีหุ้น อาทิ ในเรื่องของกฎเกณฑ์ที่ไว้ควบคุมบริษัทต่าง ๆ นโยบาย Zero - Covid หรือหนี้เสียของภาคอสังหาริมทรัพย์และการถูกกดดันให้ผ่อนคลายภาระหนี้สินของบรรดาประเทศเกิดใหม่ซึ่งปัจจัยเหล่านี้อาจส่งผลให้ดัชนีหุ้นจีนไม่เป็นไปตามคาด
แต่ถึงอย่างไรดัชนีหุ้นจีนก็ได้รับแรงสนับสนุนในการลงทุนทั้งจากนักวิเคราะห์และนักลงทุนที่คาดการณ์ว่ามีทิศทางการลงทุนที่ดี โดยกลุ่มดัชนีหุ้นจีนที่ได้รับความสนใจครึ่งปีหลังและเหมาะต่อการลงทุน คือ อสังหาริมทรัพย์และส่วนที่เกี่ยวข้องกับห่วงโซ่การผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งคุณสามารถติดตามข่าวสารการลงทุนได้ที่ MoneyDuck! หรือสอบถามเพื่อขอปรึกษาเกี่ยวกับการลงทุนได้ฟรีซึ่งเรามีทีมพร้อมให้บริการที่จะช่วยให้คุณกระจ่างทุกข้อสงสัยก่อนลงทุน
บอกเล่าความคิดเห็นและสิ่งที่คุณรู้ที่นี่