สำหรับคนวัยหนุ่มสาวที่เพิ่งก้าวเข้าสู่การทำงานหมาดๆ เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนอาจไม่คิดถึงประกันในช่วงเวลานี้ เพราะเรายังแข็งแรงดี โอกาสที่จะจากโลกใบนี้ก่อนวัยอันควร สำหรับบางคนเป็นเรื่องที่แทบจะเกิดขึ้นไม่ได้ แต่เราต้องไม่ลืมเหมือนกันว่าชีวิตของเราก็ไม่ต่างอะไรจากการแขวนอยู่บนเส้นด้าย ทุกวินาทีล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยความเสี่ยง สำหรับใครที่ยังลังเลว่าควรซื้อประกันชีวิตมั้ย เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับประกันประเภทนี้ให้มากขึ้นกัน และเปิดสาเหตุว่าทำไมทุกคนจึงควรมีเอาไว้
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เรื่องที่ต้องรู้ก่อนทำประกันชีวิต ที่นี่
ทำไมควรทำประกันชีวิต จำเป็นต้องมีไหม
ควรซื้อประกันชีวิตมั้ย เป็นคำถามชวนปวดหัวสำหรับ New Jobber อย่างแท้จริง เพราะเวลาเราไปถามใคร บางคนก็จะตอบว่าต้องมีเอาไว้ เพราะมันเป็นสิ่งที่ช่วยบริหารจัดการความเสี่ยงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แถมเรายังเอาไปลดหย่อนภาษีได้ เป็นหนึ่งในวิธีการออมเงินอีกต่างหาก แต่บางคนก็บอกว่ามันไม่มีความจำเป็นต้องทำ เพราะเบี้ยประกันแพง เหมือนจ่ายเบี้ยทิ้งขว้างไปอย่างนั้น หรือบางตัวก็มีเงื่อนไขตรวจสุขภาพให้วุ่นวาย
ปัญหาหลักที่ทำให้หลายคนยังลังเลอยู่ว่าจะทำประกันดีไหม ก็คือมันยุ่งยาก โดยเฉพาะฉบับแรก ยิ่งคนไหนไม่มีเวลายิ่งไม่สนใจ เพราะในยุคนี้เรามีประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลรัฐได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ใครเป็นข้าราชการก็มีสิทธิ์เบิกตรง ทำงานเอกชนก็มีทั้งประกันสังคม และประกันกลุ่มให้
พอไม่มีเหตุให้ต้องทำประกันสุขภาพ มันก็ไม่มีความจำเป็นที่เราจะต้องเริ่มต้นทำประกันชีวิต ถึงอย่างนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าถ้าเราไม่ได้อยากได้ประกันสุขภาพ ก็ไม่ต้องทำประกันชีวิตเสียทีเดียว เพราะความจริงแล้วประกันชีวิตเองก็มีหลายประเภท แต่ละประเภทก็มีความแตกต่างกันออกไป เพื่อนๆ คนไหนที่สนใจเราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับประกันชีวิตให้มากขึ้นกัน
4 ประเภทของประกันชีวิต
ประกันชีวิตนั้นมีการพัฒนารูปแบบความคุ้มครองที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการทางการเงินที่แตกต่างกันไป แต่หากแบ่งตามหมวดหลักๆ ของรูปแบบประกันชีวิตสัญญาหลักแล้วจะมีรูปแบบดังนี้
1. ประกันชีวิตสะสมทรัพย์
เป็นประกันชีวิตที่ให้ผลตอบแทนแน่นอน และสามารถสร้างวินัยในการออมได้ด้วย ใครที่เก็บเงินไว้ในบัญชีเงินฝาก แล้วชอบยืมเงินตัวเองออกมาโดยที่ไม่คืน ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในวิธีการออมเงินที่ได้ผลไม่น้อยเลยทีเดียว แต่สภาพคล่องก็จะน้อยกว่า และความคุ้มครองก็อาจจะไม่สูงเท่ากับประกันประเภทอื่น
2. ประกันบำนาญ
เป็นประกันที่เหมาะสำหรับคนที่ทำงานอาชีพอิสระ หรือเป็นพนักงานเอกชน มีผลตอบแทนแน่นอน และเป็นการช่วยเก็บเงินสำหรับวัยเกษียณด้วย เบี้ยประกันก็จะขึ้นอยู่กับอายุของเรา วงเงินคุ้มครองจะให้ตามวงเงินที่เราจ่ายไป ดังนั้น ออมเยอะเท่าไหร่ เวลาได้คืนก็จะเยอะตามไปด้วยเท่านั้น
3. ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา
เป็นประกันที่จะให้ความคุ้มครองตามเวลาที่กำหนดเอาไว้เท่านั้น ดังนั้น เบี้ยประกันจึงถูกแสนถูก อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดของมันก็คือเป็นการจ่ายเบี้ยทิ้งไปเลย เพราะหากไม่เกิดอะไรขึ้นในช่วงระยะเวลาที่กำหนด ก็จะไม่ได้รับความคุ้มครอง และยังไม่มีมูลค่าเงินสดอีกด้วย
4. ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ
เป็นประกันที่จะให้ความคุ้มครองเราไปตลอดทั้งชีวิต ต้นทุนก็คงที่ แต่ค่าเบี้ยประกันก็จะแพงมากกว่าแบบชั่วระยะเวลาเหมือนกัน เพราะให้ความคุ้มครองที่ยาวนานกว่านั่นเอง
แนะนำ 5 ประกันชีวิตที่น่าสนใจ
สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจอยากซื้อประกันชีวิต แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกทำประกันกับบริษัทไหนดี เพราะแต่ละบริษัทก็จะมีเงื่อนไข และความคุ้มครองที่แตกต่างกันออกไป เราจะพาทุกคนไปดูกันว่ามีบริษัทไหนที่น่าสนใจทำประกันด้วยบ้าง
FWD Easy E-Life
ประกันชีวิตออนไลน์จากทาง FWD ที่จะช่วยสร้างความมั่นคงให้กับคนที่เรารัก สามารถสมัครผ่านช่องทางออนไลน์บนเว็บไซต์ได้เลย หากเบี้ยประกันตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป สามารถจ่ายผ่านบัตรเครดิตด้วยดอกเบี้ย 0% ยาวนานสูงสุดถึง 10 เดือน เป็นแผนสำรองได้ ทั้งเมื่อยามที่พ่อแม่แก่เฒ่า หรือแม้แต่ใช้เป็นค่าเล่าเรียนให้กับลูก นำเอาไปลดหย่อนภาษีก็ได้ คุ้มครองการเสียชีวิตทุกกรณี ดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียงแค่ 2,200 บาทต่อปีเท่านั้น ชำระเบี้ย 10 ปีก็คุ้มครองยาวนาน 10 ปี หากไม่เคลมประกันรับเงินคืนไปเลย 10% จากเบี้ยที่ชำระ วงเงินคุ้มครองเริ่มต้นตั้งแต่ 500,000 บาทไปจนถึง 1.5 ล้านบาท
ประกันชีวิต คุ้มธนกิจ 90/7
ประกันจากไทยประกันชีวิตที่คุ้มครองยาวนานสูงสุดจนถึงอายุ 90 ปี มาพร้อมกับหลักประกันให้ทุกคนในครอบครัวอุ่นใจมากขึ้นกว่าเดิม สามารถปรับเงินเอาประกันได้ตามความต้องการ เริ่มต้นตั้งแต่ 300,000 บาท ชำระเบี้ยประกัน 7 ปี แต่รับความคุ้มครองไปเลยยาวๆ ผู้เอาประกันจะมีอายุครบ 90 ปี รับผลประโยชน์ไปเลย 100% หากอยู่ครบสัญญา นำเอาไปลดหย่อนภาษีได้ แถมยังมีส่วนลดเมื่อเงินเอาประกันสูงถึง 1 ล้านบาทขึ้นไปอีกด้วย
mDesign (Unit-Linked)
ประกันชีวิตจากเมืองไทยประกันชีวิต โดดเด่นตรงที่ผสมผสานกองทุนรวมแบบยืดหยุ่น เข้ากับการมอบความคุ้มครองเป็นจำนวนเงินสูงสุดกว่า 15 เท่าจากเบี้ยประกันหลัก การชำระเบี้ยประกันมีความยืดหยุ่นสูง จะชำระเป็นรายเดือน หรือรายปีก็ได้ นอกจากนี้สามารถขอหยุดพักชำระเบี้ยได้กรณีขาดสภาพคล่อง โดยที่เราไม่ต้องสูญเสียความคุ้มครอง หรือเงินที่ลงทุนไปอีกต่างหาก เลือกได้ว่าจะลงทุนในกองทุนไหน สามารถถอนเงินที่ใช้ในการลงทุนบางส่วนออกมาได้ หรือจะทำสัญญากรมธรรม์เพิ่มก็ยังได้เหมือนกัน
iShield
เป็นประกันชีวิตจากทางกรุงไทยแอกซ่า ที่ทุกคนเลือกระยะเวลาในการชำระเบี้ยประกันได้ตามความต้องการ อยากจ่ายกี่ปีก็เลือกได้เลย เริ่มต้นที่ 5 ปีไปจนถึง 20 ปี เป็นการจ่ายในอัตราคงที่ ไม่เพิ่มตามอายุของเราเหมือนกับประกันชีวิตทั่วไป ช่วยให้เราสามารถบริหาร และวางแผนค่าใช้จ่ายได้ง่ายมากขึ้นกว่าเดิม ให้ความคุ้มครองเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลกรณีป่วยโรคร้ายแรงถึง 70 โรค และยังมีความคุ้มครองสูงสุด 100% จากวงเงินอีกด้วย
ประกันชีวิต คุ้มครอง คุ้มค่า
ประกันจากอลิอันซ์ อยุธยาที่มาพร้อมความคุ้มค่าเหมือนชื่อ คุ้มครองกันแบบรายปี สามารถทำได้ตั้งแต่เด็กไปจนถึงอายุกว่า 70 ปีเลยทีเดียว ถ้าต้องการความคุ้มครองต่อเนื่อง จะต่ออายุประกันรายปีไปจนกว่าจะอายุ 90 ปีก็ยังได้ เบี้ยประกันเริ่มต้นราคาถูก จะทำสัญญาเพิ่มเติมกับกรมธรรม์ก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ มันจึงเหมาะสำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการวางแผนประกันเพื่อให้เกิดความคุ้มครองหลากหลายด้าน
สรุปแล้ว ทำไมควรทำประกันชีวิต หรือควรซื้อประกันชีวิตมั้ย คำตอบก็คือถ้าเพื่อนๆ อยากสร้างความมั่นคง และความสบายใจให้กับคนในครอบครัว โดยเฉพาะหากครอบครัวไม่ได้มีอาชีพที่มั่นคง เงินก้อนนี้ทุกคนจะได้ใช้เป็นมรดกหลังจากที่เราจากโลกนี้ไปแล้ว จะบอกว่ามันเป็นการออมเงินเพื่อคนในครอบครัวสำหรับการใช้จ่ายหลังจากเราเสียชีวิตก็ได้เหมือนกัน แต่เราต้องคำนวณดูให้ดีว่าความคุ้มครองเป็นยังไง เบี้ยประกันอยู่ในระดับที่สามารถจ่ายไหวไหม ไม่อย่างนั้น มันก็อาจจะกลายเป็นตัวร้ายที่ทำให้เราต้องสร้างหนี้ตามมาได้เหมือนกัน หากใครอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามผู้เชี่ยวชาญจาก MoneyDuck ได้ฟรี ที่ลิงก์ด้านล่าง
บอกเล่าความคิดเห็นและสิ่งที่คุณรู้ที่นี่