รีไฟแนนซ์รถมาปิดหนี้ดีไหม รวมข้อควรพิจารณาและข้อดีที่ควรรู้

วิกฤตทางการเงินเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถประสบพบเจอได้ไม่ว่าเราจะวางแผนทางการเงินเอาไว้ดีแค่ไหนก็ตาม ใครจะรู้ว่าวันดีคืนดีอาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นกับชีวิตของเราจนทำให้เราชักหน้าไม่ถึงหลังได้ แต่สังคมทุนนิยมเหมือนกับในปัจจุบันเราไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้โดยที่ไม่มีเงินแต่อย่างใด เมื่อเผชิญหน้ากับวิกฤตทางออกของหลายๆ คนจึงเป็นการกู้หนี้ยืมสินนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นการขอสินเชื่อจากธนาคาร การใช้บัตรกดเงินสด การใช้บัตรเครดิตกดเงินสด การยืมคนรอบข้าง หรือแม้แต่การกู้นอกระบบเองก็ตาม การมีหนี้สินหลายก้อนนั้นทำให้เราจัดการวางแผนการเงินได้ยากขึ้นกว่าเดิมเพราะมันเต็มไปด้วยข้อมูลมากมายที่สลับซับซ้อน ดังนั้นหลายคนที่มีรถยนต์จึงต้องการจะหาทางออกเพื่อจัดการหนี้สินก้อนเล็กก้อนน้อยทั้งหลายที่ตนเองมีด้วยการรีไฟแนนซ์รถยนต์แล้วนำเอาเงินมาปิดหนี้ เราจึงจะพาทุกคนไปดูกันว่ารีไฟแนนซ์รถมาปิดหนี้ดีไหมและต้องทำอย่างไรเมื่อมีหนี้หลายก้อน

ตอบคำถามรีไฟแนนซ์รถมาปิดหนี้ดีไหม

การรีไฟแนนซ์รถยนต์นั้นเป็นการนำเอารถยนต์ไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อขอสินเชื่อ เราจะได้เงินสดมาก้อนหนึ่งซึ่งสามารถนำเอาไปใช้จ่ายได้ตามความต้องการหรือแม้แต่การนำเอาไปปิดหนี้ก็ตามที ดังนั้นเวลามีหนี้หลายก้อนหลายคนจึงใช้วิธีดังกล่าวเป็นทางออก แต่คำถามก็คือรีไฟแนนซ์รถมาปิดหนี้ดีไหม เพราะมันเป็นการรวมหนี้ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีการจัดการปัญหาหนี้สินที่ได้รับความนิยมไม่น้อยเลยทีเดียว สำหรับใครที่สนใจเราจะพาทุกคนไปดูกันว่าการรีไฟแนนซ์รถมาปิดหนี้นั้นจะช่วยให้คุณสามารถจัดการการเงินของตนเองได้ดีขึ้นหรือไม่

ทำความรู้จักกับการรีไฟแนนซ์รถยนต์ในแต่ละประเภท

การรีไฟแนนซ์รถยนต์นั้นเป็นการที่เรานำเอารถยนต์ของตนเองเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันในการขอสินเชื่อ ซึ่งแต่ละสถาบันการเงินนั้นก็จะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันออกไป บางธนาคารบางโปรโมชั่นก็จะรับแค่รถยนต์ที่ปลอดสภาพหนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้วหรือเป็นรถยนต์ที่เรามีกรรมสิทธิ์ครอบครองโดยตรงเป็นของตนเองทั้งหมด ซื้อมาด้วยเงินสดหรือผ่อนรถหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่บางสถาบันทางการเงินก็ให้รีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมดเช่นเดียวกัน ดังนั้นลักษณะการรีไฟแนนซ์จะสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 รูปแบบประกอบไปด้วย

การรีไฟแนนซ์แบบไม่มีเล่มทะเบียน

เป็นการรีไฟแนนซ์โดยที่รถของเรานั้นยังไม่ปลอดสภาพหนี้หรือยังอยู่ในระหว่างการผ่อนชำระเงินค่างวดอยู่นั่นเอง สามารถทำได้ 2 แบบนั่นก็คือการรีไฟแนนซ์กับธนาคารแห่งเดิมหรือการรีไฟแนนซ์กับธนาคารแห่งใหม่ วิธีการดังกล่าวนั้นเหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดภาระหนี้สินในการผ่อนรถยนต์ให้น้อยลงกว่าเดิมไม่ว่าจะเป็นค่างวดที่น้อยลงหรือดอกเบี้ยที่ลดลงก็ตาม และยังสามารถยืดอายุการผ่อนชำระเงินให้นานขึ้นได้อีกด้วย

การรีไฟแนนซ์แบบมีเล่มทะเบียน

นั่นก็คือเราผ่อนชำระค่างวดหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้วหรือซื้อเงินสด ในเล่มทะเบียนรถยนต์นั้นเป็นชื่อของเรา สามารถทำได้ 2 รูปแบบประกอบไปด้วยการจำนำทะเบียนโดยเรานำเอาทะเบียนรถของเราไปค้ำประกันวงเงินกู้ เราจะสามารถขอสินเชื่อได้โดยที่ไม่ต้องมีการเปลี่ยนชื่อในเล่มทะเบียน และการรีไฟแนนซ์นั่นก็คือการนำเอารถของเราไปขอสินเชื่ออีกครั้ง อาจต้องมีการเปลี่ยนชื่อในเล่มทะเบียนใหม่ให้กลายเป็นชื่อของสถาบันการเงินผู้ให้สินเชื่อจึงจะสามารถกู้เงินได้

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เลือกรีไฟแนนซ์รถ แบบไหนดีสุด ที่นี่

รวมสิ่งที่คุณควรพิจารณาก่อนตัดสินใจรีไฟแนนซ์รถมาปิดหนี้

หลังจากรู้ประเภทของการรีไฟแนนซ์และพอจะเห็นความคุ้มค่าในการรีไฟแนนซ์รถมาปิดหนี้แล้ว มาดูกันสักหน่อยว่าเราควรพิจารณาอะไรก่อนคิดจะรีไฟแนนซ์จริงๆ บ้าง

เปรียบเทียบค่างวดของหนี้สินแต่ละก้อนกับค่างวดของไฟแนนซ์

หากคุณมีหนี้สินมากกว่า 2 ก้อนขึ้นไปสิ่งที่ต้องพิจารณาก็คือในแต่ละงวดเราจะต้องจ่ายหนี้สินของแต่ละก้อนเป็นจำนวนเท่าไหร่ อย่างเช่นมีหนี้บัตรเครดิตที่ต้องจ่ายงวดละ 10,000 บาท หนี้บัตรกดเงินสดงวดละ 15,000 บาท หนี้สินเชื่อส่วนบุคคลอีกเดือนละ 5,000 บาท รวมแล้วในแต่ละเดือนหนี้ 3 ก้อนนี้เราจ่ายไปทั้งหมด 30,000 บาท

หากเราตัดสินใจรีไฟแนนซ์รถมาปิดหนี้เราต้องจ่ายชำระเงินเป็นจำนวนที่น้อยกว่าเดือนละ 30,000 บาทก็นับว่าคุ้มค่าไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะมันจะช่วยให้เรานั้นสามารถนำเอาเงินส่วนต่างไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันหรือไปลงทุนให้งอกเงยขึ้นมาได้ แต่หากจำนวนเงินค่างวดในการรีไฟแนนซ์รถยนต์เป็นจำนวนที่มากกว่าเดือนละ 30,000 บาทเราอาจจะต้องพิจารณาลงลึกไปถึงเรื่องของดอกเบี้ยว่าคุ้มค่าหรือไม่

เปรียบเทียบดอกเบี้ย

หลังจากที่เราเปรียบเทียบค่างวดหนี้สินของแต่ละก้อนกับค่างวดของการรีไฟแนนซ์แล้วเราต้องมาเปรียบเทียบเรื่องดอกเบี้ยด้วย อย่างเช่นดอกเบี้ยบัตรเครดิตอยู่ที่ 16% ดอกเบี้ยของบัตรกดเงินสด 21% ดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคล 10% แต่ดอกเบี้ยการรีไฟแนนซ์รถยนต์นั้นจะเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 3% ถึง 5% เท่านั้น ดังนั้นหากเปรียบเทียบในด้านของดอกเบี้ยแล้วการรีไฟแนนซ์รถยนต์จะสามารถลดภาระค่าดอกเบี้ยของเราได้มากขึ้นกว่าเดิม

แต่หากดอกเบี้ยของหนี้สินเดิมเรานั้นน้อยกว่าดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ เราต้องพิจารณาว่าเราสามารถจ่ายหนี้สินหลายก้อนที่ยังมีอยู่ต่อไปได้หรือไม่ หากคำตอบคือได้การรีไฟแนนซ์อาจจะไม่ใช่คำตอบในการจัดการปัญหาหนี้สินของคุณ แต่หากคุณขาดสภาพคล่องในการชำระหนี้สินหลายก้อน การรีไฟแนนซ์ที่ถึงแม้ว่าจะมีดอกเบี้ยสูงกว่าแต่สามารถยืดระยะการผ่อนชำระให้ยาวนานมากขึ้นกว่าเดิมจนค่างวดน้อยลงก็จะช่วยคุณมีสภาพคล่องในแต่ละเดือนที่ดีขึ้นเช่นเดียวกัน

รวมข้อดีจากการรีไฟแนนซ์รถเพื่อปิดหนี้ก้อนอื่น

หลังจากรู้ประเภทของการรีไฟแนนซ์และพอจะเห็นความคุ้มค่าในการรีไฟแนนซ์รถมาปิดหนี้แล้ว มาดูกันสักหน่อยว่าการรีไฟแนนซ์มาปิดหนี้ก้อนอื่น ๆ มีข้อดีอะไรบ้าง

• การขอสินเชื่อรถยนต์ทำได้ง่ายและมีโอกาสได้รับการอนุมัติสูงเนื่องจากเราใช้รถยนต์เป็นสินทรัพย์ในการค้ำประกัน มันจึงเป็นวิธีการหาเงินเพื่อจัดการหนี้สินที่ค่อนข้างสะดวกเลยทีเดียว
• การขอสินเชื่อรถยนต์ค่อนข้างยืดหยุ่นโดยเฉพาะหากเป็นรถยนต์ที่ปลอดสภาพหนี้แล้ว หากคุณมีหนี้ก้อนใหญ่คุณสามารถขอสินเชื่อตามมูลค่ารถยนต์สูงสุด 100% เพื่อนำเอามาชำระหนี้ได้ หากคุณมีหนี้หลายก้อนแต่ไม่ได้เป็นเงินรวมกันแล้วเยอะสักเท่าไหร่ก็สามารถขอสินเชื่อตามยอดหนี้ของเราได้ หรือจะขอตามมูลค่ารถยนต์ 100% เพื่อนำเอาเงินส่วนต่างไปใช้จ่ายเพิ่มสภาพคล่องก็ได้เช่นเดียวกัน
• ดอกเบี้ยมีความยืดหยุ่น เนื่องจากเราสามารถเลือกได้ว่าจะผ่อนชำระแบบลดต้นลดดอกสำหรับคนที่มองว่าสามารถหาเงินมาโปะหนี้ได้โดยเร็วเพราะจะคุ้มค่าและประหยัดดอกเบี้ยมากกว่า หรือสำหรับใครที่อยากจะผ่อนยาวๆ ก็สามารถเลือกใช้แบบดอกเบี้ยคงที่ก็ได้เช่นเดียวกัน
• การรีไฟแนนซ์รถยนต์นั้นเรายังคงสามารถใช้งานรถยนต์ของเราได้ตามปกติทุกประการ และเรายังสามารถเลือกได้อีกด้วยว่าจะรีไฟแนนซ์แบบจำนำหรือแบบโอนทะเบียน

อ่านเกี่ยวกับ ข้อดีของการรีไฟแนนซ์ ที่นี่

สรุปแล้วรีไฟแนนซ์รถมาปิดหนี้ดีไหมต้องพิจารณาถึงความคุ้มค่าก่อนไม่ว่าจะเป็นค่างวดที่เราจ่ายในแต่ละเดือนหรือแม้แต่ดอกเบี้ยของหนี้สินแต่ละก้อน เปรียบเทียบกับเงินค่างวดที่เราต้องจ่ายในแต่ละเดือนและดอกเบี้ยจากการรีไฟแนนซ์ หากคำนวณแล้วพบว่าการรีไฟแนนซ์คุ้มค่ากว่ามันก็นับว่าเป็นหนึ่งในวิธีการรวมหนี้ที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว หากใครอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามผู้เชี่ยวชาญจาก MoneyDuck ได้ฟรี ที่ลิงก์ด้านล่าง