เงินบาทเป็นมากกว่าแค่สื่อกลางในการแลกเปลี่ยน แต่ยังเป็นเสมือนกระจกสะท้อนสภาวะเศรษฐกิจและความแข็งแกร่งทางการเงินของประเทศไทย ในโลกที่เชื่อมโยงกันอย่างไร้พรมแดน ค่าเงินบาทมีบทบาทสำคัญในการกำหนดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนของสังคม ตั้งแต่ผู้ส่งออกรายใหญ่ไปจนถึงผู้บริโภคทั่วไป ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 ที่ผ่านมา ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงถึง 7% ซึ่งนับว่ามากที่สุดในภูมิภาคเอเชีย รองจากเงินเยนของญี่ปุ่นเท่านั้น สถานการณ์นี้ทำให้หลายคนเริ่มกังวลและสงสัยว่าแนวโน้มค่าเงินบาทในครึ่งปีหลังจะเป็นอย่างไร วันนี้เราจะมาวิเคราะห์กันว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เงินบาทอ่อนค่า และคาดการณ์ทิศทางในอนาคตกัน

สาเหตุที่ทำให้เงินบาทอ่อนค่าในครึ่งปีแรก

สาเหตุที่ทำให้เงินบาทอ่อนค่าในครึ่งปีแรก

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราได้เห็นความผันผวนของค่าเงินบาทที่เพิ่มขึ้น ท่ามกลางความท้าทายจากปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสงครามการค้า การระบาดของโรคโควิด-19 หรือความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ทำให้การติดตามและทำความเข้าใจเกี่ยวกับทิศทางของค่าเงินบาทกลายเป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกคน วันนี้เราจะพามาดูสาเหตุที่ทำให้เงินบาทอ่อนค่ากัน

- นโยบายการเงินของสหรัฐอเมริกา: การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ส่งผลให้เงินทุนไหลออกจากประเทศไทย - ฤดูกาลจ่ายเงินปันผล: บริษัทต่างๆ มักจ่ายเงินปันผลในช่วงครึ่งปีแรก ทำให้มีความต้องการแลกเงินบาทเป็นเงินตราต่างประเทศเพิ่มขึ้น - ความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ: ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เมื่อ Fed ชะลอการลดดอกเบี้ย ส่งผลอย่างไรต่อค่าเงิน ที่นี่

แนวโน้มค่าเงินบาทในครึ่งปีหลัง 2567

แนวโน้มค่าเงินบาทในครึ่งปีหลัง 2567

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี (ttb analytics) ได้ประเมินว่าค่าเงินบาทในช่วงสิ้นปี 2567 จะมีความผันผวนมากขึ้น โดยคาดว่าจะอยู่ในกรอบ 35-36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานภายในประเทศยังคงเปราะบางกว่าในอดีต

ปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าเงินบาทในครึ่งปีหลัง

ปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าเงินบาทในครึ่งปีหลัง

ปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าเงินบาทมีหลากหลายและซับซ้อน ทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ ซึ่งส่งผลให้ค่าเงินบาทมีความผันผวนและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ต่อไปนี้คือปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อค่าเงินบาท

ดุลบัญชีเดินสะพัดที่ไม่แข็งแกร่งเหมือนเดิม

  • การส่งออกสินค้าของไทยเติบโตช้าลง เนื่องจากปัญหาเชิงโครงสร้างและนโยบายกีดกันทางการค้าที่เพิ่มขึ้น
  • การนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้นจากการระบายสินค้าของจีนและราคาพลังงานที่สูง
  • รายได้จากการท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่

ดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายที่ขาดดุลเพิ่มขึ้น

  • ความไม่แน่นอนทางการเมืองส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการลงทุน
  • นักลงทุนไทยสนใจลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะในตราสารหนี้

ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างไทยและต่างประเทศ

  • อัตราดอกเบี้ยในต่างประเทศที่สูงกว่าทำให้ผู้ประกอบการไทยเลือกฝากเงินในสกุลต่างชาติแทนการแลกเป็นเงินบาททันที

แนวโน้มวัฏจักรดอกเบี้ยขาลงทั่วโลก

  • อาจช่วยให้เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง แต่ยังต้องติดตามปัจจัยอื่นๆ ประกอบ

ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์และความไม่แน่นอนทางการเมืองระหว่างประเทศ

  • การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในช่วงปลายปี
  • ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ส่งผลต่อราคาพลังงานและค่าขนส่ง

ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยและการเตรียมตัวรับมือ

ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยและการเตรียมตัวรับมือ

เงินบาทอ่อนตัวมีผลกระทบหลายด้านต่อเศรษฐกิจไทย ทั้งด้านบวกและด้านลบ ดังนี้

- ผู้นำเข้า ต้นทุนสินค้านำเข้าอาจสูงขึ้นหากเงินบาทอ่อนค่า ควรพิจารณาใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน - ผู้ส่งออก อาจได้ประโยชน์จากเงินบาทที่อ่อนค่า แต่ควรระวังความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน - นักลงทุน ควรกระจายการลงทุนและพิจารณาลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศเพื่อกระจายความเสี่ยง - ผู้มีหนี้ในสกุลเงินต่างประเทศ ควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและพิจารณาป้องกันความเสี่ยงหากมีภาระหนี้จำนวนมาก - ภาคการท่องเที่ยว แม้เงินบาทอ่อนค่าอาจดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติได้มากขึ้น แต่ต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆ ด้วย เช่น สถานการณ์เศรษฐกิจโลกและการแข่งขันในภูมิภาค

ข้อแนะนำสำหรับธุรกิจและประชาชนทั่วไป

ข้อแนะนำสำหรับธุรกิจและประชาชนทั่วไป

การเข้าใจปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการ นักลงทุน และประชาชนทั่วไปสามารถคาดการณ์แนวโน้มค่าเงินบาทและเตรียมพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้ดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ควรตระหนักว่าการเคลื่อนไหวของค่าเงินเป็นเรื่องซับซ้อนและอาจมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบได้เช่นกัน

- ติดตามข่าวสารเศรษฐกิจการเงินอย่างสม่ำเสมอ ความเข้าใจในสถานการณ์ปัจจุบันจะช่วยให้ตัดสินใจได้ดีขึ้น - ศึกษาและใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน เช่น สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Forward Contract) หรือออปชั่น (Option) - กระจายความเสี่ยงในการลงทุน ไม่ควรพึ่งพาสินทรัพย์หรือสกุลเงินใดเพียงอย่างเดียว - วางแผนการเงินระยะยาว คำนึงถึงความผันผวนของค่าเงินในการวางแผนการเงินส่วนบุคคลและธุรกิจ - พัฒนาความสามารถในการแข่งขัน สำหรับธุรกิจ การพึ่งพาแค่ความได้เปรียบด้านอัตราแลกเปลี่ยนอาจไม่เพียงพอในระยะยาว

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ค่าเงินบาทแข็งตัวมีผลกระทบต่อกับการเงินของคนไทยอย่างไร ที่นี่

แม้ว่าค่าเงินบาทในครึ่งปีหลังของปี 2567 จะมีแนวโน้มผันผวนและอาจอ่อนค่าลง แต่การเตรียมพร้อมและเข้าใจปัจจัยที่ส่งผลกระทบจะช่วยให้เราสามารถรับมือกับสถานการณ์ได้ดีขึ้น ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นภาคธุรกิจหรือประชาชนทั่วไป การติดตามข่าวสาร วางแผนการเงินอย่างรอบคอบ และใช้เครื่องมือทางการเงินที่เหมาะสมจะเป็นกุญแจสำคัญในการบริหารความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงินบาท ในท้ายที่สุด การพัฒนาศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาวจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับค่าเงินบาทและเศรษฐกิจไทยโดยรวม หากใครอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามผู้เชี่ยวชาญจาก MoneyDuck ได้ฟรี ที่ลิงก์ด้านล่าง