ในภาวะปัจจุบันสังคมไทยได้เผชิญกับสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ เนื่องจากการบริหารภายในประเทศ วิกฤตการณ์เศรษฐกิจโลกตกต่ำ รวมถึงผลสืบเนื่องมาจากวิกฤตโควิด 19 จึงทำให้สภาพการดำเนินชีวิตของประชาชนโดยทั่วไป เกิดสภาวะลำบาก การจ้างงานในภาคเอกชนน้อยลงและไม่มั่นคง ค่าจ้างเงินเดือนไม่สูงแต่ค่าครองชีพเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เกิดช่วงว่างให้มิจฉาชีพเข้าไปหลอกลวงเงินประชาชนได้มากขึ้น
9 กลโกงมิจฉาชีพ ที่ควรระวัง
มาดูกันว่ากลโกงที่เหล่ามิจฉาชีพนิยมใช้กันมีอะไรบ้างและเราสามารถป้องกันตัวเองได้อย่างไร ไม่ให้ต้องสูญเงินไปกับคนเหล่านี้ ไปดูกันเลย
1. เชิญชวนให้ติดตั้งมัลแวร์ในคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ
มีมิจฉาชีพที่แฝงตัวในหลากหลายอาชีพ ทั้งตำรวจ พนักงานธนาคาร เป็นต้น โดยหลอกและเชิญชวนให้เหยื่อคลิกลิงค์ เพื่อดาวน์โหลดโปรแกรมที่แฝงไปด้วยมัลแวร์ที่ถูกติดตั้งลงในคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ โดยเมื่อเหยื่อทำการใส่ Username และ Password ข้อมูลการใช้งานธนาคารออนไลน์ของเหยื่อจะถูกบันทึก โดยจะถูกนำไปปลอมแปลงคำขอโอนเงิน โดยเสมือนเป็นการทำธุรกรรมของเหยื่อ หลังจากนั้นธนาคารก็จะส่ง Password ชั่วคราวผ่านระบบ SMS โดยโปรแกรมของมิจฉาชีพจะขึ้น pop-up เพื่อหลอกให้เหยื่อใส่รหัสผ่านชั่วคราว จึงทำให้เหยื่อสูญเสียเงินในบัญชีโดยไม่รู้เท่าไม่ถึงการณ์
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วิธีตั้ง Pasword ให้ปลอดภัย ที่นี่
ข้อควรระวัง
ไม่ควรคลิกลิงค์ที่ดูไม่น่าเชื่อถือ ถ้าไม่น่าใจ ควรจะโทรสอบถามแหล่งที่มาของลิงค์ เช่น ธนาคาร สถานีตำรวจ เป็นต้น
2. สร้างอีเมลหรือเว็บไซต์ปลอม เพื่อหลอกขอข้อมูล
มิจฉาชีพมักแอบอ้างปลอมอีเมล เพื่อแอบอ้างว่าเป็นอีเมลของธนาคาร แล้วหลอกให้เหยื่อยืนยันการใช้งานในบัญชีธนาคารออนไลน์ หรือหลอกให้คลิกลิงค์เป็นยังเว็บไซต์ธนาคารปลอม เพื่อหลอกให้เหยื่อกรอก Username และ Password เพื่อมิจฉาชีพจะนำข้อมูลไปแอบอ้างเป็นเจ้าของบัญชีและทำการโอนเงินแทนเหยื่อ
ข้อควรระวัง
ในการกรอกข้อมูลผ่านอีเมลควรสังเกตดังนี้
- มักใช้อีเมล์แอบอ้างลงท้ายด้วยชื่อองค์กร แต่ไม่ใช่อีเมลที่ลงท้ายด้วยตัวย่อของสถาบันการเงินนั้น ๆ จริง จึงควรตรวจสอบอีเมลที่ลงท้ายขององค์กรนั้น ๆ ว่าถูกต้องไหม
ในการกรอกข้อมูลผ่านเว็บไซต์ควรสังเกตดังนี้
- เว็บไซต์สถาบันการเงินที่ปลอดภัยมักจะขึ้นต้นด้วย https://
3. หลอกขายสินค้าในออนไลน์โดยให้ลูกค้าโอนเงินก่อน
มิจฉาชีพทำการโฆษณาขายสินค้า โดยหลอกขายสินค้าตามโซเชียลมีเดียและเว็บไซต์ โดยให้ลูกค้าโอนเงินก่อน แต่ไม่ได้รับสินค้า หรือได้รับสินค้าแต่ไม่ตรงตามลงโฆษณาจริง
ข้อควรระวัง
ก่อนโอนเงินให้ร้านค้าออนไลน์ ผู้ซื้อควรเข้าไปตรวจสอบรายชื่อผู้ขายโกงได้ที่ https://www.blacklistseller.com
-
เลือกเมนู ตรวจสอบบัญชี/ผู้ขาย
-
กรอกข้อมูลเลขที่บัญชีธนาคาร ชื่อ นามสกุล หรือเลขที่บัตรประชาชนของผู้ขายลงไป
-
กดปุ่ม ค้นหา
4. โฆษณา เชิญชวนให้ทำงานเสริมออนไลน์
หลอกผู้สมัครงานให้ทำงานเสริมออนไลน์ โดยชักชวนทำงานออนไลน์ผ่านการกด Like กด Share บน Social Media และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ อาทิเช่น Facebook, TikTok, Youtube, Lazada, Shopee เพื่อเพิ่มยอดวิว แต่สุดท้ายก็ใช้กลลวงหลอกเอาเงินค้ำประกันจากผู้สมัครงาน เมื่อผู้สมัครหลงเชื่อ ก็จะทำให้เสียเงินเป็นจำนวนมาก โดยไม่ได้รับค่าจ้างทำงาน
ข้อควรระวัง
ไม่ควรหลงเชื่องานที่ต้องจ่ายเงินก่อนทำงานในทุกกรณี เพราะโดยปกติผู้สมัครไม่ต้องเสียเงิน ไม่ว่าจะเป็นงานประจำ งานสัญญาจ้าง หรืองานพาร์ทไทม์ นอกจากงานบางตำแหน่ง เมื่อได้รับการตอบรับเข้าทำงานแล้ว อาจจะต้องมีการเสียเงินค้ำประกัน เช่น ตำแหน่งพนักงานการเงิน เป็นต้น
5. หลอกให้รักแล้วให้โอนเงินหรือขอยืมเงิน
มีมิจฉาชีพบางคนหลอกเหยื่อให้รักแล้วให้โอนเงินหรือขอยืมเงิน โดยแอบอ้างหรือปลอม Profile เป็นคนหน้าตาดี เพื่อตีสนิทและทำความรู้จักกับเหยื่อทางโซเชียลมีเดีย โดยหลอกให้รัก และหลอกให้โอนเงินหรือขอยืมเงิน โดยอ้างว่าจะคืนให้หลายเท่าตัว
ข้อควรระวัง
ก่อนจะคบใครหรือแต่งงานกับใคร ควรจะตรวจสอบประวัติส่วนตัว ประวัติทางบ้าน อาชีพ และฐานะการเงิน หากแฟนมีปัญหาเรื่องเงินเป็นประจำ และขอยืมเงินจำนวนมาก ไม่ควรให้ยืม ให้ตั้งข้อสงสัยว่าอาจจะเป็นมิจฉาชีพได้
6. หลอกให้สมัครและทำงานคีย์ข้อมูล Work from Home
มิจฉาชีพจะโพสต์ประกาศรับสมัครงานคีย์ข้อมูล Work from Home โดยชักจูงผู้สมัครงานด้วยข้อความรายได้วันละ 500 – 800 บาทต่อวัน จึงทำให้มีผู้หลงเชื่อไปสมัครงานจำนวนมาก และให้ข้อมูลติดต่อทางไลน์ ถ้าผู้สมัครสนใจก็ให้ผู้สมัครเสียค่าลงทะเบียนหรือเสียเงินลงทุน
ข้อควรระวัง
โดยปกติผู้สมัครงานทุกประเภทไม่ต้องเสียเงิน ถ้าต้องจ่ายเงินลงทุน เพื่อให้ได้งานทำ ให้สันนิษฐานไว้ว่างานนี้แปลก ๆ อาจจะเป็นมิจฉาชีพมาหลอกลวงเงินก็ได้
7. หลอกให้ลงทุนในรูปแบบต่าง ๆ
มิจฉาชีพทำการเข้ามาผูกมิตร เพื่อทำการหลอกลวงเหยื่อให้ลงทุนในรูปแบบต่าง ๆ โดยมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน ชักชวนให้ลงทุนในธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนสูง สร้างภาพให้ดูน่าเชื่อถือ แต่ในความเป็นจริงเป็นธุรกิจที่ไม่มีอยู่จริง เช่น ลงทุนตลาดหุ้น Forex ลงทุนในธุรกิจน้ำมัน พลังงาน ทองคำ เงินดิจิทัล ตลาดหลักทรัพย์ต่างชาติ เป็นต้น
ข้อควรระวัง
ก่อนลงทุน ควรศึกษาหาข้อมูลให้ดี โดยการตรวจสอบธุรกิจและคณะผู้บริหารในกิจการที่จะลงทุนเสียก่อน
8. หลอกให้เล่นแชร์ลูกโซ่
มิจฉาชีพมักจะลวงหลอกเหยื่อให้ร่วมลงทุนในธุรกิจที่ไม่มีอยู่จริง โดยให้จูงใจให้เหยื่อหาเครือข่าย เพื่อสร้างรายได้จากการเพิ่มสมาชิก
ข้อควรระวัง
ไม่ควรลงทุนกับการเล่นแชร์ลูกโซ่ เพราะมีโอกาสถูกหลอกลวงสูง
9. หลอกให้เล่นพนันออนไลน์
มิจฉาชีพทำการโฆษณาชวนเชื่อ ให้เล่นพนันออนไลน์ โดยการหว่านล้อมด้วยวิธีการต่าง ๆ และให้ค่าเสียเวลาคืนแก่ผู้เล่น โดยแจกสูตรการันตีผลตอบแทนที่ไม่มีอยู่จริง
ข้อควรระวัง
อย่าหลงเล่นการพนันออนไลน์ เพราะจะทำให้เสียเงินไม่คุ้มกับผลตอบแทนที่ได้รับ
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ รู้ทันมิจฉาชีพยุค IT ก่อนจะสูญเสียเงินจำนวนมาก ที่นี่
วิธีป้องกันกลโกงมิจฉาชีพ
หลังจากทราบ 9 วิธีที่กลโกงมิจฉาชีพใช้ในการหลอกเอาเงินจากเราแล้ว ต่อมาเราก็มาดูกันว่ามีวิธีอะไรบ้างที่เราจะสามารถป้องกันตัวเองจากการถูกเหล่ามิจฉาชีพพวกนี้ได้ ดังนี้
-
มีสติทุกครั้งเมื่อรับสายโทรศัพท์ที่ไม่คุ้นเคย หรือหากมีการอ้างเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานใด ไม่แน่ใจ ให้รีบวางสาย แล้วติดต่อไปยังหน่วยงานที่อ้างถึง อ้างถึงใครให้สอบถามคนนั้น (ควรค้นหาเบอร์โทรติดต่อกลับเอง)
-
ไม่โลภ หากมีคนบอกว่าเราได้รับรางวัล หรือได้ส่วนลดพิเศษเกินจริง ควรเอะใจไว้ก่อนว่าเป็นไปได้หรือไม่
-
ไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญ แม้ผู้ติดต่อจะอ้างว่าเป็นหน่วยงานราชการหรือสถาบันการเงิน
-
ติดตามข่าวสารกลโกงเป็นประจำ เพื่อรู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมกลโกง
-
ควรสอบถาม Call Center หรือสาขาของธนาคาร ที่เรามีบัญชีอยู่ให้ดําเนินการตรวจสอบรายละเอียด หากตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ธนาคารแล้วเป็นเงินที่โอนผิดบัญชีมาจริง ให้เรายินยอมให้ธนาคารดําเนินการโอนกลับไปยังบัญชีต้นทางต่อไป
-
ขอชื่อผู้โทรเข้ามา และสอบถามหน่วยงานที่ติดต่อมาให้ชัดเจน การมีข้อมูลไว้เพื่อแจ้งความ อาจเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่ ดังนั้น ให้คุณขอข้อมูลพวกเค้ากลับบ้าง เช่นผู้ติดต่อเข้ามา หน่วยงานที่ติดต่อ และเรื่องที่ติดต่อ
การระวังตัว มีสติก่อนทำการโอนเงิน และติดตามข่าวสารอยู่สม่ำเสมอ ก็ต้องทำให้เราปลอดภัยจากมิจฉาชีพได้มากขึ้น เราจะได้ไม่เป็นเหยื่อของกลโกงมิจฉาชีพ นอกจากนี้ หากใครมีปัญหาหรือต้องการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องราวแบบนี้ สามารถสอบถามเพิ่มเติมกับผู้เชี่ยวชาญจาก MoneyDuck ได้ฟรี ที่ลิงก์ด้านล่าง
บอกเล่าความคิดเห็นและสิ่งที่คุณรู้ที่นี่