รู้ทันมิจฉาชีพยุค IT ก่อนจะสูญเสียเงินจำนวนมาก

การพัฒนาทางเทคโนโลยีและการสื่อสารที่เพิ่มมากขึ้นทุกวันนี้ ก็ทำให้ชีวิตของผู้คนจำนวนมากสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะอาศัยอยู่ในพื้นที่ไหนบนโลกส่วนมากก็มีเทคโนโลยีและการสื่อสารที่เข้าถึงซะส่วนมาก แต่ข้อดีส่วนนี้ก็เป็นช่องทางให้เหล่ามิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาอยู่ในความสะดวกสบายของผู้คนได้มากขึ้นกว่าแต่ก่อนเพราะว่ามันสะดวกสบายนี้แหละ ซึ่งช่องทางที่เหล่ามิจฉาชีพใช้เพื่อหลอกลวงผู้คนในยุค IT แบบนี้ก็แนบเนียนมากขึ้นและระวังตัวได้ยากมากเพราะมีการปรับเปลี่ยนใช้วิธีให้เข้ากับเทคโนโลยีแบบเนียนๆใสๆมากยิ่งขึ้น บทความนี้จึงจะมาให้ข้อมูลว่าปัจจุบันเหล่ามิจฉาชีพใช้กลโกงอะไรบ้างในโลกเทคโนโลยีสมัยนี้ อย่างเช่น แก๊ง Call center / โจร Messenger / ประกันภัยเถื่อน Broker มาดูว่าเหล่ามิจฉาชีพใช้ช่องทางพวกนี้อย่างไรค่ะ

แก๊ง Call center

หลายคนอาจจะคุ้นกับกลโกงแบบนี้บ้างอยู่แล้ว เพราะกลโกงแบบนี้ก็มีมานานมากแล้วและเราก็มักจะเห็นในข่าวอยู่บ่อยๆว่ามีคนจำนวนมากถูกหลอกให้เสียเงินด้วยวิธีนี้ และทุกวันนี้กลโกงแบบนี้ก็ยังคงมีอยู่เราจึงต้องระวังตัวอยู่เรื่อยๆ วิธีหลอกลวงแบบนี้พวกมิจฉาชีพจะติดต่อหาเหยื่อผ่านทางโรศัพท์และพยายามหลอกถามข้อมมูลส่วนตัว หรือสร้างสถานการณ์ในเรื่องเงินเพื่อให้เหยื่อรู้สึกกังวล อย่างเช่น หลอกลวงว่ามียอกเงินโอนเข้าบัญชีผิดโดยโอนเข้ามาในบัญชีของคุณ หลอกลวงว่าคุณมีหมายศาลฟ้องเรื่องบัญชีธนาคาร หลอกลวงว่าคุณเป็นหนี้บัตรเครดิต หลอกลวงว่าคุณมีภาษีหรือค่าธรรมเนียมที่จะต้องจ่ายให้กับสินเชื่อที่คุณไปขอกู้ยืมมา หรือ หลอกลวงว่าคุณได้รับรางวัลต่างๆนาๆ

ซึ่งวิธีล่าสุดที่ได้พบเห็นมาก็คือ หลอกลวงว่าเป็นไปรษณีย์ไทยด้วยและโทรมาให้คุณไปรับของซึ่งไม่เป็นความจริง คุณต้องทราบข้อเท็จริงก่อนว่า ไปรษณีย์ไทยจะไม่มีการโทรให้ไปรับของที่ไปรษณีย์ แต่ถ้านำของมาส่งแล้วไม่มีใครอยู่ที่บ้านก็จะเขียนใบแจ้งว่าให้ไปรับของตามเวลาที่กำหนดเท่านั้นนะคะ ถ้านอกเหนือจากนั้นต้องระวังค่ะอย่าไปหลงเชื่อง่ายๆ เพราะของที่คุณจะไปรับนั้นอาจจะเป็นของผิดกฏหมายและสุดท้ายคุณจะต้องเดือดร้อนมากๆเลยค่ะ วิธีที่คุณจะเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ คือ ตั้งสติให้ดีอย่าลนลานรีบร้อน ปรึกษาคนอื่นๆรอบตัวด้วยอย่าคิดเองตัดสินใจเองคนเดียวเพราะถ้าเกิดอะไรผิดพลาดจะได้มีพยานหลักฐานช่วยเหลือคุณได้ค่ะ เพราะสองหัวก็ดีกว่าหัวเดียวจริงไหม? ถ้ามีการหลอกลวงเรื่องการเงินลองคิดทบทวนให้ดีว่าคุณได้ทำธุรกรรมทางการเงินอะไรไปบ้าง? คุณมีบัญชีธนาคารของธนาคารอะไรบ้าง? คิดทบทวนเรื่องของคุณให้ดีก่อนถ้าไม่เคยทำธุรกรรมอย่างที่มีคนโทรมาบอกก็แสดงว่าเรื่องนั้นไม่จริงคุณสามารถหาความจริงได้โดยการติดต่อสอบถามกับธนาคารโดยตรงในภายหลังค่ะ และที่สำคัญมากๆคือ ห้ามให้ข้อมูลส่วนตัวเด็ดขาด เช่น เลขบัตรประชาชน เลขบัญชี และเบอร์โทรศัพท์มือถือ เพราะข้อมูลเหล่านี้พวกมิจฉาชีพจะเอาไปใช้ทำอย่างอื่นโดยสวมรอยเป็นคุณได้

โจร Messenger

Messenger คือ โปรแกรมแชทยอดฮิตที่อยู่ใน Facebook นั่นเอง เป็นโปรมแกรมที่นิยมอย่างมากใช้เพื่อติดต่อสื่อสารพูดคุยกันส่วนมากก็เป็นการแชทที่เป็นส่วนตัว ซึ่งพวกมิจฉาชีพก็เห็นว่านี่ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งโดยการแฮ็กข้อมูลเข้ามาใน Facebook ของคุณได้เพื่อสวมรอยเป็นคุณ แล้วทำการทักแชทไปหลอกลวงครอบครัว หรือ เพื่อนๆของคุณค่ะ แล้วส่วนมาก็สวมรอยเป็นคุณเพื่อทักแชทไปขอยืมเงินและก็มักจะประสบผลสำเร็จมากๆด้วยนะคะ และจะเป็นการทำแบบเนียนมากโดยที่ตัวคุณที่เป็นเจ้าของบัญชี Facebook นั้นไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ โดยวิธีที่จะรู้ตัวเร็วหรือแก้ไขได้ทันต้องได้รับความร่วมมือจากเพื่อนๆด้วย โดยเมื่อเพื่อนมาขอยืมเงินทางแชทดีที่สุด คือโทรศัพท์ไปหาเพื่อนเพื่อคุยกันดีกว่าก่อนที่จะโอนเงินไปให้ การทำอย่างนี้จะช่วยไม่ให้สูญเสียเงินไปอย่างรวดเร็ว แต่รู้ตัวเร็วว่าข้อมูลถูกแฮ็ก และสามารถรีบทำการเปลี่ยน Password ให้เร็วที่สุด

สิ่งที่สามารถสังเกตได้ถึงวิธีการทักแชทของพวกมิจฉาชีพ คือ จะทักมาโดยไม่ได้ใช้ชื่อเล่นของคุณแต่ใช้ชื่อตามบัญชี Facebook ของคุณแทน หรือทักมาด้วยข้อความที่แปลกไปจากการสนทนาของเรากับเพื่อนตามปกติค่ะ การสังเกตความผิดปกติแบบนี้ก็จะช่วยๆกันได้นะคะ

ประกันภัยเถื่อน Broker

มิจฉาชีพกลุ่มนี้มักจะเป็นคนขายประกันมาก่อน แต่ใบอนุญาติหมดอายุ หรือไม่ได้ทำงานตรงนี้แล้ว และมีข้อมูลของลูกค้าเก่าๆอยู่ จึงนำข้อมูลเหล่านั้นมาหลอกขายประกันให้กับเรา โดยเฉพาะประกันรถยนต์นั่นเอง และการหลอกลวงแบบนี้แนบเนียนมากระวังตัวได้ยาก เพราะเขามีข้อมูลที่ถูกต้องของเราจนทำให้เชื่อว่าเป็นบริษัทประกันจริงๆได้ค่ะ จากเหตุการณ์แบบนี้มีเหยื่อที่โดนหลอกและสูญเสียเงินไปมากมายเป็นหลักล้านเลยนะคะ คุณจะรู้ตัวได้ก็เมื่อคุณจ่ายเบี้ยประกันไปแล้วแต่เอกสารกรมธรรม์ยังไม่ส่งมาสักทีรอนานเป็นเดือนๆนั่นแหละโดนหลอกแน่ๆค่ะ หรือบางคนไม่สนใจเอกสารและคิดว่าตัวเองนั้นทำประกันไปแล้วจนเมื่อเกิดอุบัติเหตุและไปติดต่อบริษัทประกันพบว่าไม่มีข้อมูลใดๆถึงจะพึ่งมารู้ตัว

เพื่อจะป้องกันตัวเองจากเหล่ามิจฉาชีพกลุ่มนี้ คือ ก่อนคุณจะทำการซื้อประกันกับใครไม่ว่าต่อหน้า หรือผ่านทางโทรศัพท์ ให้ขอชื่อจริง นามสกุล และเลขที่ใบอนุญาต ของผู้ขายประกันก่อนแล้วนำมาตรวจสอบได้ในเว็บไซด์ของ คปภ. www.oicservice.oic.or.th นะคะ เพื่อทราบว่าเชื่อถือได้มั้ยและรับรองว่าจะไม่โดยหลอกแน่นอนค่ะ เพื่อความปลอดภับของทรัพย์สินของเราบางทีเราก็ต้องรอบคอบและละเอียดมากหน่อยก่อนจะเสียเงินจ่ายอะไรไปนะคะ เพราะถ้าเกิดความผิดพลาดไปแล้วมันได้กลับคืนมายากมากจริงๆ

สรุป

เห็นไหมคะว่า กลโกงและการหลอกลวงของเหล่ามิจฉาชีพนั้นมีหลากหลายช่องทางมากๆ ในสมัยนี้ถ้าคุณไม่ระมัดระวังตัวให้ดีก็จะตกเป็นเหยื่อของเหล่ามิจฉาชีพได้ไม่ยากเลย เพราะถือว่านี่เป็นภัยใกล้ตัวเรามากๆและบางกลโกงก็ดูไม่ออกระวังตัวยากมาก ดังนั้น 3 กลโกงที่เหล่ามิจฉาชีพใช้นี้ที่เอามาฝากกันก็น่าจะช่วยคุณได้มากให้ระวังตัวมากขึ้นและรู้ทันและเตือนเพื่อนๆ คนในครอบครัว คนรอบข้างได้ด้วยนะคะ เพราะการถูกหลอกลวงเรื่องเงินๆทองๆนี้ เป็นภัยที่แก้ไขและหาตัวคนผิดได้ยากมากและทรัพย์สินที่สูญเสียไปก็ได้คืนมายากด้วย รู้ทันไว้ก่อนช่วยป้องกันตัวได้มากค่ะ