ทุกวันนี้การหากินบนความทุกข์ของคนอื่นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆครับ คนเราเห็นแก่ตัวกันมากขึ้น แม้กระทั่งตอนนี้ที่เกิดวิกฤตโรคระบาด​ Corona ก็ยังมีข่าวออกมาให้เห็นอยู่บ่อยๆครับว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพที่ออกมาโกง หรือหลอกลวงบนโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อสินค้าเล็กๆน้อยๆไปจนถึงการหลอกขายทองคำหรือการลงทุนที่มีมูลค่าหลายแสนหลายล้านเลยทีเดียวครับ ทำให้เมื่อเราจะซื้อของหรือทำธุรกรรมต่างๆทางอินเทอร์เน็ต เพื่อนคงจะรู้สึกกังวลอยู่บ้างไม่มากก็น้อยใช่ไหมครับว่าอาจจะถูกหลอกได้

ในบทความนี้ผมอยากชวนเพื่อนๆมาดูถึงเรื่องของหลักการต่างๆครับที่เราจะใช้เพื่อป้องกันตัวเองจากพวกมิจฉาชีพได้ ซึ่งการใช้หลักการเป็นประโยชน์เนื่องจากทุกวันนี้มิจฉาชีพมีกลอุบายที่แนบเนียนมากขึ้นเรื่อยๆ แต่หลักการจะช่วยให้เราระวังตัวอยู่ตลอดเวลาและป้องกันตัวเองได้เมื่อถูกจู่โจมจากพวกมิจฉาชีพครับ จะมีอาการอะไรบ้างให้เราไปดูกันครับ

​ ความพอเพียง ไม่โลภ

​ ความพอเพียง ไม่โลภ

เรื่องแรกเลยที่เป็นจุดที่ทำให้มิจฉาชีพทำงานกันได้ก็คือความโลภของคนเรานี่แหละครับ เพราะจริงๆแล้วก็เป็นเรื่องธรรมดาครับที่เรามีความต้องการมีความอยากได้นู่นได้นี่ อยากรวย อยากได้ของที่เราชอบ ของสวยๆงามๆ แล้วก็เป็นเรื่องธรรมดาอีกล่ะครับที่เราจะอยากได้ของที่มีราคาถูก ได้ปริมาณเยอะแต่จ่ายน้อย แต่จุดนี้แหละครับเป็นจุดที่มิจฉาชีพใช้ทำงาน หรือที่มีการบอกกันว่าพวกมันทำงานบนความโลภของคนอื่น ดังนั้นเพื่อป้องกันการที่เราจะไม่ถูกหลอกก็คือการที่เราจะต้องพยายามบังคับตัวเองไม่ให้เป็นคนโลภครับ ถึงแม้เราจะยังมีความอยากได้นู่นได้นี่อยู่ แต่เราก็ต้องไม่ให้ความโลภมาบังตาเราจนดูไม่ออกว่าเรากำลังจะถูกหลอก และถ้าเราไม่โลภเราจะมีสติครับ แล้วสตินี้มันจะช่วยให้เราฉุกคิดถึงจุดบางจุดที่น่าสงสัยได้ แล้วมีจุดที่น่าสงสัยแล้วเราก็จะหลีกเลี่ยงและระวังตัวมากขึ้นและในที่สุดเราก็จะไม่ถูกหลอกและตกเป็นเหยื่อของพวกมันได้ครับ

ไม่เชื่อคนง่าย

ไม่เชื่อคนง่าย

จริงๆจุดนี้ก็เกี่ยวข้องกับความโลภครับ เพราะเมื่อเราโลภ เราก็แทบจะหลับหูหลับตาเชื่อในสิ่งที่พวกมิจฉาชีพเอามาหลอกเราแล้วล่ะครับ แต่ถึงแม้ว่าเราไม่โลภแต่เราก็ยังอยากได้ของอยู่ก็อาจจะทำให้เราหลงเชื่อกับคำเชิญชวนของพวกมิจฉาชีพให้เลือกซื้อสินค้าได้โดยไม่รู้ตัวก็ได้ครับ และหลายๆครั้งพวกมิจฉาชีพมักจะใช้ความไว้เนื้อเชื่อใจกันของคนเรานี่แหละครับมาเป็นตัวหลอกลวง ซึ่งหลายครั้งมิจฉาชีพก็จะมีคำพูดที่ชวนให้เราเชื่อใจ หรือใช้ความเป็นกันเองทำให้เราหลงกลครับ และในหลายๆครั้งที่คนเราถูกหลอกก็มาจากความที่เรารู้สึกว่าเราเชื่อใจเขาได้ การแต่งตัว คำพูดคำจา หรือบุคลิกภาพต่างๆของพวกมิจฉาชีพทำให้เราคิดว่าพวกเขามีภูมิฐานและไม่น่าจะมาหลอกเราได้ และอีกจุดหนึ่งที่พวกมิจฉาชีพมักจะใช้กันก็คือความเป็นคนไทยนี่แหละครับ คนไทยมักจะเชื่อใจกัน และมีความเป็นมิตรกันได้ง่าย คุยกันแป๊บเดียวก็เหมือนจะสนิทกันแล้วนะครับ ทำให้เป็นจุดที่พวกมิจฉาชีพใช้ในการเอามาสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจกันและใช้ในการหลอกลวงในที่สุดครับ

ดังนั้นวิธีป้องกันที่ดีที่สุดก็คืออย่าหลงเชื่อคนง่ายๆครับ เราต้องพยายามที่จะมีหลักประกันที่จะช่วยป้องกันไม่ให้ถูกหลอกให้ได้เยอะที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ถึงแม้การซื้อขายกันบนโลกออนไลน์จะไม่สามารถมีการรับประกันได้เต็ม 100% แต่อย่างน้อยเราก็ควรมีหลักประกันที่มากกว่าแค่ 50/50 เช่นต้องมีหลักฐานต่างๆของผู้ขาย ไม่ใช่แค่เบอร์โทรศัพท์เท่านั้น แต่ต้องมีหลักฐานค้ำประกันอื่นๆที่จะช่วยให้เรามั่นใจว่าเราจะไม่ถูกหลอก หรือทางที่ดีคือเราพยายามช้อปปิ้งกับเว็บไซต์ออนไลน์ที่ให้บริการซื้อขายออนไลน์โดยตรงที่มีชื่อเสียงดีกว่า แต่ถ้ามาจากแหล่งอื่นอย่างเช่นในสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ เราก็ควรจะเข้าไปตรวจสอบโปรไฟล์ หรือข้อมูลต่างๆของเจ้าของเพจให้แน่ใจว่ารับประกันความ​น่าเชื่อถือแค่ไหน และถ้าไม่แน่ใจก็ไม่ควรเข้าไปซื้อหรือทำธุรกรรมทางการเงินกับพวกเขาโดยเด็ดขาดเลยนะครับ

และอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญมากที่เราต้องจำไว้เสมอและไม่เชื่อใครง่ายๆก็คือ การให้ข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลที่ควรจะเป็นความลับ เช่น รหัส ATM หรือ Password ต่างๆของเรา เป็นข้อมูลที่ไม่ควรจะให้ใครเด็ดขาด เนื่องจากเป็นข้อมูลส่วนบุคคล โดยปกติแล้วจะไม่มีการขอ เพื่อนำไปทำธุรกรรมหรือการซื้อขายอะไหล่ต่างๆเด็ดขาด พ่อแม่แต่พนักงานธนาคารหรือเจ้าหน้าที่ที่ดูแลสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆก็จะไม่มีการขอ Password หรือรหัสต่างๆที่ควรจะเป็นความลับของทางลูกค้าเด็ดขาดครับ ดังนั้นถ้ามีการเชิญชวนทำธุรกรรมทางออนไลน์หรือมีการซื้อขายออนไลน์แล้วมีการขอรหัสผ่านหรือรหัสต่างๆที่เป็นความลับแบบนี้รวมไปถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ควรมีการเปิดเผย หรือเราอาจจะรู้สึกว่าไม่มีความจำเป็นต่อการทำธุรกรรม เราก็ควรจะต้องระวังแล้วล่ะครับว่าอาจจะเป็นการหลอกลวงได้นะครับ

จะใช้หลักการต่างๆได้ เราต้องมีสติเสมอ

จะใช้หลักการต่างๆได้ เราต้องมีสติเสมอ

ปกติก็เป็นเรื่องสำคัญครับในการที่เราจะระมัดระวังไม่ให้ถูกหลอก เนื่องจากในหลายๆครั้งเราอาจจะไม่ได้เป็นฝ่ายเข้าไปหาพวกมิจฉาชีพ แต่พวกมันนั่นแหละครับที่เป็นฝ่ายมาหาเรา พวกมันมักจะมีคำพูดที่ดึงดูดใจ เป็นคำพูดเชิงประมาณว่า ถ้าคุณไม่คว้าโอกาสนี้ไว้คุณจะพลาดและมันน่าเสียดายนะ ซึ่งก็จะทำให้เราเริ่มคิดแล้วคิดอีก แล้วมันก็จะยิงคำพูดต่างๆมาหาเราเรื่อยๆเหรอครับว่าอย่างนู้นอย่างนี้ นี่เป็นโอกาสดีบ้างแหละ เป็นโอกาสทองบ้างล่ะ หรือหลายๆครั้งที่ผมเห็นก็คือมันจะใช้คำว่าคุณเป็นผู้โชคดี ซึ่งจะช่วยซึ่งมันจะหลอกล่อให้เราเริ่มมีความอยาก เพราะมันกระตุ้นต่อมความอยากของเราได้แล้วทีนี้ถ้าเราไปตอบหรือพูดคุยกับมัน อาจจะถูกหลอกได้ในที่สุดครับ ดังนั้นการที่เราจะรับมือและนำหลักการต่างๆเหล่านี้มาใช้เพื่อป้องกันการถูกหลอกก็คือเราจะต้องมีสติ เพราะการมีสติจะช่วยให้เราระมัดระวัง และรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมกลโกงของพวกมิจฉาชีพได้ครับ และเราจะคิดถึงหลักการที่จะช่วยป้องกันเราได้ครับ