หลังมีกระแสของ ChatGPT ที่เข้ามาตีตลาด Search Engine โดยรับการสนับสนุนจาก Microsoft งานนี้ Google ก็อยู่เฉยไม่ได้ ! หลังประกาศ Code Red ไปเมื่อปีที่แล้ว ล่าสุด Google ก็ได้ฤกษ์เปิดตัว Bard Chatbot AI ที่ใช้ขุมพลังจาก LaMDA ออกมาเป็นที่เรียบร้อย แม้จะยังเป็นเวอร์ชัน Lightweight อยู่ แต่แค่ตัวอย่างการใช้งานบางส่วน ก็ทำเอาบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหลาย ต่างจับตาว่า เจ้า Google Bard นี้ จะมีฟีเจอร์อะไรที่น่าสนใจ จะสร้าง Impact อะไรให้กับวงการ Search Engine บ้าง และศึกประชัน AI ครั้งนี้ใครที่จะเป็นผู้ชนะ

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ChatGPT คืออะไร ที่นี่

Google Bard คืออะไร

https://img.moneyduck.com/article_attachment/1678851024-30745.jpg

Google Bard ขับเคลื่อนโดย Language Model for Dialogue Applications หรือ LaMDA ซึ่งมีความสามารถที่คล้ายกับ ChatGPT คือสามารถตอบคำถามและเป็นผู้ช่วยในสถานการณ์ต่างๆ โดย Google Bard จะดึงข้อมูลจากเว็บไซต์ Google มาใช้ในการวิเคราะห์หาคำตอบ พร้อมกรองข้อมูลให้มีความซับซ้อนน้อยลง เพื่อให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจของผู้ค้นหา โดยฟีเจอร์ชูโรงของ Google Bard คือฟีเจอร์ที่ทำหน้าที่วางแผน และสร้างแผนที่ แถมยังมีการแปลภาษาได้อย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย

นอกจากนี้ Google Bard ยังสามารถค้นหาแบบ Overview เพื่อค้นหาข้อมูลเฉพาะเจาะจงได้ด้วย เช่น ค้นหา Blog ของคนที่เล่นเปียโนและกีตาร์ หรือลงลึกในหัวข้อที่เกี่ยวข้อง เช่น ขั้นตอนในการเริ่มเล่นดนตรีของผู้เริ่มต้น เป็นต้น

หุ้นร่วงกราว หลัง Google Bard ตอบคำถามผิดพลาด

แม้ Google Bard จะมีภาษีดีจากการเป็น AI ของยักษ์ใหญ่อย่าง Google แต่การโปรโมทการใช้งานครั้งล่าสุด ก็ทำให้ทั่วโลกผิดหวัง เพราะเจ้า AI ตอบคำถามผิดเข้าเต็มๆ และนี่ก็คือคำถามที่ี่ทำให้ Google สูญเสียมูลค่าหุ้นกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เลยทีเดียว

“What new discoveries from the James Webb Space Telescope can I tell my nine-year-old about ?” หรือ “ฉันจะบอกอะไรเกี่ยวกับการค้นพบของกล้องโทรทรรศน์อวกาศ James Webb ให้กับลูกวัย 9 ขวบของฉันได้บ้าง ?”

ซึ่ง Bard ก็ได้ตอบไปว่า กล้องโทรทรรศน์อวกาศ James Webb เป็นกล้องแรกที่จับภาพดาวเคราะห์นอกระบบสุริยจักรวาลของเราได้ ทั้งที่ความจริงแล้ว กล้องที่ทำแบบนั้นได้คือ กล้องโทรทรรศน์ Very Large ของประเทศชิลี ในปี 2004

แม้จะน่าเสียดาย แต่ก็ต้องยอมรับว่า Chatbot AI เกือบทุกตัว อาจจะไม่ได้ถูกต้อง แม่นยำ 100% เสมอไป อาจจะมีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม และมีการบิดเบือนข้อมูลอยู่ด้วย ไม่ใช่แค่เพียง Bard เจ้าเดียว เพราะตัว ChatGPT เองก็เคยให้คำตอบที่ผิดพลาดและมีปัญหาด้านเชื้อชาติและเพศในบางครั้ง

ประชัน Google Bard vs ChatGPT

https://img.moneyduck.com/article_attachment/1678851014-1908.i121.070.isometric%20artificial%20intelligence%20flowchart.jpg

ทั้ง Google Bard และ ChatGPT ต่างเป็นอาวุธสำคัญในศึกของสองค่ายเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ คำถามที่หลายคนสงสัยคือ แล้วอาวุธของใครเจ๋งกว่ากันล่ะ ?

ต้องบอกว่า ChatGPT ได้เปรียบเพราะเปิดตัวมาก่อน มีข้อมูลประสบการณ์จากผู้ใช้งานจริงมากกว่า ในขณะที่ Google Bard เพิ่งเปิดตัว แต่ยังมีข้อดีที่ใช้กำลังการคำนวณทางคอมพิวเตอร์น้อยกว่า ทำให้รองรับผู้ใช้ได้มากกว่า นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของค่าบริการที่ยังไม่ชัดเจนของทั้งสองเจ้า ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจเลือกใช้งานของผู้ใช้บริการ

อย่างไรก็ตาม เราคงต้องรอติดตามทั้ง Bard และ ChatGPT ต่อไป ว่าจะมีการพัฒนาไปได้ไกลมากแค่ไหน เพราะบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งสอง ก็ได้มีความพยายามในการนำเทคโนโลยี AI มาพัฒนา Chatbot ให้รวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น ซึ่งเราคงจะได้เห็นฟีเจอร์เด็ด ๆ จากทั้งสองเจ้าอีก หลังมีการเปิดให้ใช้งานอย่างเต็มรูปแบบ.

เทคโนโลยีจากบริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านี้ถูกมองว่าจะเข้ามา Disrupt ทรัพยากรในการทำงานระดับโลก และคาดว่าในอนาคต สายอาชีพที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและ AI จะกลายเป็นที่ต้องการของตลาด และมีแนวโน้มจะเข้ามาแทนที่สายอาชีพกลุ่มที่ AI สามารถทำงานได้อย่างเทียบเท่า

หากต้องการข้อเพิ่มเติมหรือปรึกษาสามารถพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญจาก MoneyDuck ได้ฟรี ที่ลิงก์ด้านล่าง