ถ้าคุณเป็นพนักงานออฟฟิศคนนึงที่มีสวัสดิด้านสุขภาพอยู่แล้วแบบที่ทำงานจัดหามาให้ แต่กลับคิดว่าสิ่งนี้อาจจะไม่ครอบคลุมในส่วนของค่ารักษาพยาบาลได้ทั้งหมด
โดยเฉพาะค่าห้องเมื่อต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล หากเป็นที่ดี ๆ หน่อย ตกคืนนึงก็ปาไปประมาณ 3,000-5,000 บาทแล้ว..จึงอาจทำให้มีส่วนต่างที่เราจะต้องทำการควักเนื้อจ่ายเอง..
อย่าปล่อยให้เงินเก็บที่อยากสานฝันจะต้องจบลงที่การจ่ายค่ารักษาพยาบาล หากสวัสดิการจากบริษัทอย่างเดียวไม่พอ ลองมองหาประกันสุขภาพที่ต่อยอดจากสวัสดิการเดิมได้แบบ Top up อย่าง โครงการ Extra Care Plus จากเมืองไทยประกันชีวิตสิค่ะ ที่จะมาช่วยเติมเต็มจากสวัสดิการเดิมแบบไม่ทับซ้อน แต่จะช่วยดูแลมากขึ้นแบบเหมาจ่าย ด้วยเบี้ยเริ่มต้นแค่หลักร้อยต่อเดือนเท่านั้น!
แผนประกันนี้น่าสนใจยังไง ตามมาดูกันค่ะ
ข้อมูลแบบประกัน
โครงการ เอ็กซ์ตร้าแคร์ พลัส ตัวนี้ จะเป็นการ Top Up เพิ่มเติมในสวัสดิการอื่นก่อนหน้าที่เราอาจมีอยู่ โดยมีค่าเบี้ยประกันเริ่มต้นที่ 285 บาทต่อเดือน แต่ช่วยคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในส่วนที่เกินสิทธ์ได้สูงสุดถึง 400,000 บาท ทั้งยังช่วยดูแลในเรื่องห้องพักโดยจ่ายสูงสุดที่ 8000 บาทต่อวัน คุ้มครองครบทั้งโรคระบาด โควิด-19 โรคทั่วไป และโรคร้ายแรงอื่นเพิ่มเติม
ข้อกำหนดในการสมัคร อายุของผู้เอาประกันภัยจะต้องอยู่ระหว่าง 18 – 70 ปี ส่วนระยะเวลาในการเอาประกันจะคุ้มครองจนถึงอายุ 81 ปี แต่ต้องไม่เกินระยะเวลาของสัญญาเพิ่มเติมที่แนบท้ายในกรมธรรม์ สามารถแบ่งชำระค่าเบี้ยประกันได้เป็นรายเดือน , ราย 3 เดือน , ราว 6 เดือน และรายปี รวมถึงมีสิทธิ์ลดหย่อนภาษีให้เราด้วยแบบสบายๆ จะได้ไม่เป็นการจ่ายเบี้ยไปแบบเปล่าๆ
ความคุ้มครองและสิทธิพิเศษ
เงื่อนไขของประกันภัยตัวนี้ เราจะต้องมีสัญญาหลักก่อน ถึงจะสามารถซื้อแผนประกันสุขภาพเสริมเพื่อเพิ่มค่ารักษา หรือค่าห้องที่สูงกว่าเมื่อต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเอกชนตัวนี้ได้ ด้วยค่าเบี้ยที่ไม่แพงมากจนเกินไป
เพราะสัญญาเพิ่มเติม Extra Care Plus จะเพิ่มค่าห้องให้เริ่มต้นที่ 2000 บาท และค่ารักษาพยาบาลที่ต่อจากเดิมเพิ่มขึ้น 200,000 บาท โดยมีค่าเบี้ยถูกกว่าการซื้อประกันสุขภาพแผนค่าห้องสูงตัวอื่นๆ
ซึ่งหากทำสัญญาแล้วผลความคุ้มครองจะเริ่มต้นหลักจาก 30 วัน และคุ้มครองอาการบาดเจ็บหลักจากต่ออายุที่ 120 วัน โดยเบี้ยประกันภัยจะปรับตามช่วยอายุของผู้เอาประกัน. ประกันภัยสุขภาพเอ็กตร้าแคร์ พลัส ยังมีบริการในเรื่องความคุ้มครองส่วนที่เกินจากความรับผิดส่วนแรก(Deductible) แต่จะต้องอยู่ในวงเงินที่กำหนดไว้ตามแผนความคุ้มครองที่เลือก และผู้เอาประกันจะต้องตรวจสุขภาพตามระเบียบของบริษัทด้วย
นอกจากนี้ ยังมีสิทธิพิเศษอื่นๆ เช่น การเลือกรักษาได้ในโรงพยาบาลทุกเครือทุกจังหวัด ไม่ต้องเตรียมเงินสำรองจ่าย แต่เคลมได้ทั้งแผนผู้ป่วยใน(IPD) ผู้ป่วยนอก(OPD) และอุบัติเหตุ. หากเราลืมจ่ายค่าเบี้ยก็มีตัวแทนหรือแอพพลิเคชั่นคอยแจ้งเตือนเพื่อจะได้รับการคุ้มครองอย่างต่อเนื่อง มีการทบทวนกรมธรรม์และความคุ้มครองให้ในทุกปีหากไม่ทราบว่ารวมค่ารักษาอะไรบ้าง. เลือกจ่ายชำระค่าเบี้ยประกันได้ง่ายในหลายช่องทาง พร้อมส่วนลดอีกมากมายจากเมืองไทยสมายคลับ ที่สมัครฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายค่ะ
สวัสดิการที่มีไม่พอจ่าย เพิมเติมค่ารักษาพยาบาลได้แบบ Top Up ด้วยประกัน Extra Care Plus
จะเห็นว่า หลายคนที่ทำงานออฟฟิศถึงที่ทำงานจะมีสวัสดิการให้ แต่หากจะต้องเคลมค่ารักษาพยาบาลจริง ๆ ก็อาจจะไม่พอ เช่น ประกันกลุ่ม HR ค่าหมอและค่ายาสำหรับผู้ป่วยนอกก็ให้แค่ครั้งละ 1 พันเท่านั้น เวลาเจ็บป่วยจริงๆ ก็จะต้องควักเงินจ่ายเองบางส่วนอยู่ดี
โดยเฉพาะเมื่อวัยทำงานเริ่มรู้สึกว่าตนมีอายุมากขึ้น โอกาสที่จะเจ็บป่วยก็มากขึ้นตาม จึงยิ่งต้องมองหาประกันสุขภาพเสริมจากสิ่งที่เรามีอยู่ ถ้าอยากได้แบบที่ค่าเบี้ยอยู่ในงบ สามารถเคลมค่ารักษาโปะเพิ่มเติมแบบ Top up ในส่วนที่สวัสดิการออฟฟิศให้ไม่ได้ แผนประกัน Extra Care Plus จึงตอบโจทย์เราได้ดีกว่า แถมประกันยังคุ้มครองโรคที่เกี่ยวข้องกับออฟฟิศซินโดรม เพื่อพร้อมจ่ายที่เหลือให้เราแบบเหมาจ่ายอีกด้วยจึงถือว่าคุ้มมากๆ
หากใครสนใจแผนประกันสุขภาพเพิ่มเติมตัวนี้ ก็ลองติดต่อตามช่องทางที่เราแนบไว้ และหวังว่าแผนประกัน Extra Care Plus จากเมืองไทยประกัน ที่ได้นำมาฝากกัน จะเสริมให้ชีวิตของเพื่อนๆลงตัวกันมากขึ้น และถูกใจชาวออฟฟิศหลายๆคนกันด้วย.
และถ้าอยากอ่านเกร็ดความรู้ สาระการเงิน และการรีวิวประกันตัวอื่นๆที่น่าสนใจ ก็อย่าลืมแวะเข้ามาอ่านที่ MoneyDuck ได้ตลอดเวลา ..ขอบคุณที่มาติดตามกันค่ะ
บอกเล่าความคิดเห็นและสิ่งที่คุณรู้ที่นี่