แน่นอนว่าการมีธุรกิจส่วนตัวเป็นความฝันอันสูงสุดของใครหลายๆคน โดยเฉพาะกับพนักงานเงินเดือนที่ทำงานให้กับบริษัทมาแสนนาน หรืออาจจะเป็นความฝันของเด็กรุ่นใหม่ในยุค 2019 นี้ เพราะเนื่องจากสภาพการของโลกได้เปลี่ยนไปตามกาลเวลา ดังนั้นใครหลายๆคนจึงหันมาให้ความสนใจกับการเป็นนายตัวเอง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องทำงานมากเกินกว่าที่ตัวเองจะรับไหว แต่การที่เราจะเปิดธุรกิจส่วนตัวได้นั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากแต่ก็ได้ไม่ง่ายขนาดที่คิดวันนี้พรุ่งนี้จะทำได้ มันต้องมีขั้นก่อนมีวิธีการและที่สำคัญคือเรานั้นต้องมีความรู้ว่าความเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจส่วนตัวก่อน วันนี้เราจะมาบอกการเตรียมตัวและสิ่งที่คุณต้องรู็ก่อนที่จะลงมือทำอะไรลงไป มาตรวจสอบตัวเองไปพร้อมกันเลย
10 สิ่งที่ควรรู้ก่อนจะเปิดธุรกิจส่วนตัว
อย่างที่บอกเราจำเป็นต้องทำความเข้าใจกับสิ่งที่เรากำลังจะทำก่อน ให้เรามาดู 10 อย่างที่ควรคำนึงถึงกันก่อนที่เราจะเปิดธุรกิจส่วนตัวกันก่อนเลยว่ามีอะไรบ้างที่เราต้องคิด ถ้าเราขาดอะไรไปเราอาจจะทำพลาดในอนาคตก็ได้นะ ขอให้คิดถึงเรื่องนี้กันเยอะๆ เพราะมันมีผลต่อธุรกิจของเรา คงไม่มีใครอยากให้ธุรกิจที่เราฝันหรือเราสร้างมากับมือต้องพังลงต่อหน้าต่อตาเราหรอกจริงไหม
1. ถามตัวเองให้แน่ใจว่าเราอยากที่ทำสิ่งนี้จริงๆไหม
นี้เป็นคำถามที่มีแค่ตัวเราเองที่จะตอบได้ และเราก็ควรตอบให้ได้ว่าเรานั้นมั่นใจแล้วใช่ไหมว่าเรานั้นรักที่จะทำหรือสร้างธุรกิจนี้ สิ่งนี้คือความฝันของเราจริงๆใช่ไหม ไม่เพียงแค่นึกอยากจะทำก็ทำ หรือเห็นคนอื่นทำแล้วรวยก็อยากทำตามบ้าง คงจะไม่ใช่เหตุผลข้อสุดท้ายใช่ไหม ถ้าใช่ก็คงไม่ยากมากเพราะนั้นกำลังบ่งบอกว่าเรานั้นไม่ได้จะจริงจังกับสิ่งที่กำลังจะลงแรง ลงทุน เมื่อถึงเวลาที่ตัวเรานั้นต้องเจอกับอุปสรรค หรือปัญหาอะไรหน่อย ก็จะเป็นเหตุผลที่ทำให้เรายอมแพ้ได้ง่ายๆ ต่างจากการกระทำด้วยความรัก ความรักจะเป็นพลังให้เราทำสิ่งเหล่านี้โดยที่เราจะไม่ท้อ และแม้ว่าเราจะเหนื่อยแค่ไหน แต่เราจะมีความสุขไปพร้อมกับความเหนื่อยและยังสามารถผ่านช่วงที่ยากลำบากไปได้ ดังนั้น ถามใจตัวเองดีๆ ก่อนที่จะเริ่ม
2. เข้าใจในธุรกิจที่จะทำดีพอหรือยัง
แต่ความรักอย่างเดียวนั้นก็ยังคงไม่เพียงพอ เพราะตัวเรานั้นต้องมีความเชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆด้วยเช่นกัน เจ้าของธุรกิจที่ดี จึงควรเริ่มจากการมีทั้งความรัก และเข้าใจในสิ่งที่กำลังทำจริงๆ นั้นหมายความว่าเรานั้นต้องรู้อย่างชัดเจนว่าสินค้าของเราคืออะไร ผลิตยังไง มีจุดเด่นจุดด้อยอะไร และมีความแตกต่างจากสินค้าของคนอื่นอย่างไร หากยังตอบคำถามพวกนี้ไม่ได้ ก็กลับไปฝึกฝนและศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมก่อนจะดีกว่ามาก
3. รู้และเข้าใจลูกค้าไหม
ลูกค้าคือใคร เราจะหาลูกค้าได้จากที่ไหน และลูกค้านั้นพร้อมไหมที่จะควักเงินซื้อสินค้าของเรา สินค้าเรามีความต้องการต่อลูกค้ามากน้อยขนาดไหน เราควรที่จะศึกษา วิเคราะห์และศึกษาให้ดีๆ เพราะเรานั้นควรจะรู้ก่อนว่าสินค้าของเรานั้นดีแค่ไหน ถ้าไม่มีคนสนใจหรือไม่มีคนซื้อ สินค้าของเรานั้นไม่ตอบโจทย์ตลาด สุดท้ายธุรกิจที่เราตั้งใจลงแรงไปนั้นก็ไม่สามารถไปต่อได้ ดังนั้น ขอให้จำเอาไว้เลยว่าถ้าอยากให้ธุรกิจไปไกลนั้น ลูกค้าคือแรงขับเคลื่อนที่สำคัญที่สุด
4. ความรู้เรื่องของธุรกิจพื้นฐานมีไหม
สิ่งที่สำคัญสำหรับเจ้าของธุรกิจที่ขาดไม่ได้เลยก็คือความรู้พื้นฐานทางด้านของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทำบัญชี การตลาด ภาษี รวมไปถึงเรื่องของการจัดการบริหารจัดการบุคคล อย่าคิดนะว่าเรื่องแบบนี้ไม่สำคัญ ถึงแม้ว่าเราจะจ้างคนอื่นทำแทนได้ แต่ถ้าเราไม่เข้าใจวิธีการของธุรกิจเลย โอกาสที่ธุรกิจจะไปไม่รอดมีความเป็นไปได้ที่สูงมาก
5. เงินทุนพร้อมไหม
ถ้าเชื่อว่าทุกอย่างพร้อมแล้ว แล้วในเรื่องของเงินทุนล่ะพร้อมหรือยัง ซึ่งนี้ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำธุรกิจก็ว่าได้ ดังนั้น เราควรวางแผนให้ดีว่าจะหาเงินทุนมาจากไหน ถ้าเรายังไม่มีความพร้อม ก็อย่าเพิ่งวู่วาม ค่อยๆเก็บไปเรื่อยๆ อย่ารีบร้อนจนเกินไป การไปขอกู้ธนาคารมาลงทุนสามารถทำได้ก็จริง แต่ทางที่ดีในช่วงเริ่มต้นการพยายามเป็นหนี้ให้น้อยไว้จะเป็นวิธีการที่ดีกว่า
6. ลาออกตอนไหน
หากว่าตอนนี้เรานั้นยังมีงานประจำอยู่แล้ว ก่อนอื่นเลยคืออย่าพึ่งรีบร้อนที่จะลาออกอย่างเดียว ถ้าเรายังไม่มีความมั่นใจว่าธุรกิจของเรานั้นจะไปได้แบบมั่นคงหรือไปได้สวย ขอแนะนำว่าในช่วงเริ่มต้นควรที่ทำควบคู่ไปพร้อมๆกันก่อน ค่อยๆเรียนรู้วิธีการไปเรื่อยๆ จนเมื่อถึงวันที่ทุกอย่างพร้อมแล้ว ค่อยลาออกตอนนั้นก็ได้
7. หาคอนเน็กชั่นที่ดีไว้หรือยัง
คอนเน็กชั่น (Connection) คืออะไร ถ้าจะให้แปลตรงตัว แปลว่า “การเชื่อมโยง/การติดต่อ/ความสัมพันธ์” แต่ในความหมายของคนไทยก็คือ “ใครก็ตาม” ที่สามารถแนะนำหรือมอบอำนาจในการสร้างผลประโยชน์ต่องานหรือธุรกิจของเราให้ลุล่วงไปได้ด้วยดียิ่งรู้จักคนเยอะเท่าไหร่ (หลากหลายอาชีพ) ก็ยิ่งได้เปรียบต่อการทำธุรกิจของเรา ( อ้างอิงจาก https://www.facebook.com/KullastreeMagazine/posts/1559775294085434/) คอนเน็กชั่นนั้นสำคัญเสมอในการทำธุรกิจ คอนเน็กชั่นที่ดีจะช่วยเพิ่มทั้งโอกาสการทำรายได้หรือช่องทางขายใหม่ๆ และอาจรวมไปถึงการแตกไลน์ไปยังธุรกิจอื่นๆ ซึ่งอาจจะช่วยเพิ่มการเติบโตในอนาคตแบบที่เราคาดไม่ถึงก็ได้
8. ทำธุรกิจต้องมีแผนสอง แล้วมียังล่ะ?
การทำธุรกิจนอกจากจะต้องคิดให้ละเอียดถี่ถ้วนแล้ว แผนสำรองก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เพราะอย่าลืมว่าไม่มีอะไรในโลกนี้ที่สำเร็จได้อย่างใจหวังไปทั้งหมด ดังนั้นการมีแผนสองรับมือเวลาเกิดปัญหา ก็จะช่วยให้เราผ่านอุปสรรคไปได้ง่ายขึ้น
9. อย่าล้มเลิกง่ายๆ
แน่นอนในการทำธุรกิจ เรื่องของความล้มเหลวนั้นต้องเกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว และแน่นอนว่ามันสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่ถ้าหากเราเจอความล้มเหลวแล้ว เราต้องรีบลุก อย่ามัวแต่มานั่งเสียใจ และล้มเลิกมันไปง่ายๆ เพราะคนที่ประสบความสำเร็จได้นั้นคือ คนที่นำเอาความล้มเหลวในอดีตมาเป็นบทเรียนในการก้าวต่อไปข้างหน้าเพื่อทำอนาคตให้ดีกว่าเดิม
10. พัฒนาตัวเองและสินค้าอยู่ตลอดเวลา
โลกในปัจจุบันนั้นมีเทรนด์ต่างๆที่เข้ามาและหายไปเร็วมาก ยิ่งถ้าเป็นเรื่องของการทำธุรกิจด้วยแล้ว ทิศทางตลาดถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นเสมอ และเราต้องปรับตัวตามให้ทันอยู่ตลอดเวลา โดยการพัฒนาสินค้าให้มีความแตกต่างจากสินค้าของคนอื่น และหมั่นหาความรู้ต่อยอดให้กับธุรกิจของเราอยู่เสมอ เพราะถ้าไม่ทำอย่างนั้นก็เตรียมโดนคู่แข่งคนอื่นๆ แซงหน้าได้เลย
7ขั้นตอนง่ายๆ เริ่มต้นธุรกิจ
1.เริ่มต้นจาการหาไอเดียในการสร้าง Product
2.ถ้าเราต้องการที่จะขายผลิตภัณฑ์(Product)สักอย่าง เราก็ต้องรู้ว่าผลิตภัณฑ์ของเราคืออะไร มีการบริการอย่างไรต่อลูกค้า อาจจะนำไอเดียจากสิ่งที่เรามีความรู้มาก่อนหรือว่าลองเป็นผลิตภัณฑ์ที่เราอยากทำมาตลอดก็ได้ หรือแม้แต่ผลิตภัณฑ์ที่อาจจะยังไม่เคยมีใครที่ทำมาก่อนก็ได้ สิ่งต่อมาที่เราควรคิดก็คือชื่อของบริษัท หรือชื่อของผลิตภัณฑ์ ซึ่งชื่ออาจจะเป็นชื่อที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เพราะยิ่งธุรกิจเติบโตมากขึ้นเท่าไหร่ ชื่อบริษัทก็สามารถเปลี่ยนให้มีความชัดเจนและสื่อถึงผลิตภัณฑ์ได้มากขึ้นได้ สิ่งที่เราควรคิดถึงเวลาตั้งชื่อบริษัท ควรเป็นชื่อที่จำง่าย และ เข้าใจง่าย ถ้ายาวเกินไปก็คงไม่มีคนอยากจะจำมันหรอก จริงไหม 3.วาดแผนการตลาด: ขั้นตอนหลังจากที่เราได้ตัดสินใจเกี่ยวกับไอเดียสร้างหรือออกแบบผลิตภัณฑ์แล้ว ต่อมาก็เป็นเรื่องที่ต้องทำให้เรียบร้อยนั้นก็คือเรื่องของการเขียนแผนธุรกิจที่ชัดเจน เพราะการเขียนแผนธุรกิจจะช่วยให้เรารู้ว่าขั้นตอนต่อไปที่ต้องทำเพื่อให้ธุรกิจของเราดำเนินต่อไปได้นั้นคืออะไร การเขียนแผนธุรกิจนั้นยิ่งเขียนละเอียดมากเท่าไหร่ยิ่งเป็นผลดีต่อธุรกิจของเรามากขึ้นเท่านั้น ตั้งแต่เรื่องลักษณะของธุรกิจ, ลักษณะของบริษัท ไปจนถึงรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ รวมทั้งข้อดีและข้อจำกัด จุดด้อย จุดขายของผลิตภัณฑ์ เพื่อไว้ใช้ในเปรียบเทียบกับบริษัทที่เป็นคู่แข่ง เมื่อได้แผนและมีตัวอย่างผลิตภัณฑ์แล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อมานั้นก็คือการหา feedback เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของเรา เริ่มจากคนใกล้ตัวอย่างญาติหรือเพื่อนๆก็ได้ เพราะคนเหล่านี้จะให้ความเห็นได้เร็วที่สุดและเมื่อเราได้ feedback มาก็นำไปใช้ หรือปรับปรุงผลิตภัณฑ์ของเราให้ดีขึ้น แล้วก็ออกหา feedback วนกลับไปมาจนกว่าจะได้ผลงานที่ดีที่สุด
4.วางแผนเรื่องการเงิน: ขอให้คิดอยู่เสมอว่าเงินในการทำลงทุนก็เหมือนกระแสเลือดสายสำคัญในร่างกายของเรา ก่อนอื่นเราต้องรู้ว่างบที่เราจะใช้นั้นเท่าไหร่ หากเงินที่นำมาใช้ทำธุรกิจนั้นคือเงินที่มาจากการเก็บออม เราก็ไม่ควรนำเงินออมทั้งหมดที่มีใช้ในการลงทุน เพราะทุกการลงทุนมีความเสี่ยง หากนำเงินที่มีทั้งหมดมาลงทุนแล้วถ้าผลตอบ แทนของธุรกิจนั้นไม่ได้เป็นไปตามที่หวังไว้ล่ะ? อาจจะทำให้เสียเงินทั้งหมดไปโดยใช้เหตุได้ได้ 5.หา Partner ที่วางใจได้: เพราะการมีหุ้นส่วนนั้นช่วยแบ่งเบาภาระที่เราต้องลงทุนไม่ว่าจะเป็นด้านวัตถุดิบต่างๆหรือทรัพยากรต่างๆ นั่นทำให้การเลือกหุ้นส่วนที่ไว้ใจได้สำคัญมาก เพราะคนที่จะมาร่วมทำธุรกิจนั้นต้องเห็นภาพรวมของธุรกิจที่ทำอยู่ในมุมเดียวกับเราเห็น นั้นก็คือแผนการในการดำเนินธุรกิจ หากทั้งสองฝ่ายเห็นภาพที่ต่างกันหรือขัดแย้งกันก็เป็นไปได้ยากที่ธุรกิจประสบความสำเร็จ 6.ศึกษาเรื่องกฎหมายที่เกี่ยวกับ SMEs แบบรอบด้าน: หาที่ปรึกษาด้านกฎหมายไว้คอยช่วยในเรื่องคำปรึกษาไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการจัดตั้งบริษัทเพื่อทำธุรกิจ หรือแม้กฎหมายด้านภาษีเองก็ตาม เรื่องแบบนี้หากเราได้ผู้เชี่ยวชาญมาช่วยก็จะทำให้การดำเนินงานนั้นง่ายขึ้น และอีก 1 เรื่องที่ควรทำคือ การเปิดบัญชีสำหรับเงินที่เป็นผลประกอบการเท่านั้น เราไม่ควรนำเงินมาใส่บัญชีส่วนตัวเพราะนั่นทำให้การจัดระบบบัญชีไม่ชัดเจน และนี้ยังเป็นสาเหตุที่หลายบริษัท SMEs ต้องปิดตัวลงเพราะการไม่แบ่งบัญชีให้ชัดเจน ไม่แบ่งว่าบัญชีไหนคือผลประกอบการทำให้เราไม่รู้ว่าเงินผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุนนั้นได้มานั้นคือกำไรหรือขาดทุน 7.เปิดตัวผลิตภัณฑ์ของคุณ: แน่นอนว่าการวางแผนเพื่อจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์นั้น ต้องมีการเริ่มต้นจากการหาพื้นที่สำหรับจัดวางขายผลิตภัณฑ์หรือบริการก่อน เราควรที่จะแบ่งส่วนพื้นที่ให้ชัดเจนว่าส่วนไหนคือสำนักงาน และส่วนไหนคือส่วนที่ใช้เก็บผลิตภัณฑ์ และส่วนไหนสำหรับการพักผ่อน อย่าลืมที่จะตรวจสอบกฎหมายให้ดีด้วยเพราะธุรกิจบางประเภทไม่อนุญาตให้ดำเนินการภายในที่อยู่อาศัยได้ และตรวจสอบการติดต่อต่างๆภายในสำนักงานว่าสามารถใช้ได้ตามปกติได้ไหม เพราะนั่นช่วยให้เราสามารถติดต่อกับลูกค้าที่สนใจในผลิตภัณฑ์ของเราโดยตรงได้
ยากตรงไหนแค่เตรียมพร้อม
จริงๆแล้วการเริ่มธุรกิจไม่ได้ยากอย่างที่ใครหลายๆคนคิดไว้ แน่นอนว่าการที่เราจะทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จนั้นมีหลายองค์ประกอบมากมาย แต่การเตรียมตัวเองให้พร้อมมากที่สุดก่อนตัดสินใจลงมือทำธุรกิจ ก็จะช่วยให้เรานั้นประสบความสำเร็จได้มากขึ้น ดังนั้นเราไม่ควรที่จะละเลยในเรื่องของการเตรียมตัวให้พร้อมก่อน เรื่องแบบนี้เราไม่จำเป็นต้องรีบมาก ทุกการใหญ่ย่อมต้องใช้เวลา นอกจากเราจะต้องเตรียมตัวเราเองให้พร้อมแล้ว เราก็ต้องจัดเตรียมเรื่องของธุรกิจเราให้พร้อมอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการคิดออกแบบตัวสินค้าหรือแพ็คเกจ ชื่อสินค้าหรือชื่อบริษัท เรื่องของงบประมาณ อันนี้สำคัญมากๆควรที่นั่งคิดอย่างจริงจัง และเขียนแผนงานให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้เปอร์เซ็นสำเร็จของธุรกิจเรานั้นสูงยิ่งขึ้น
Benz
การที่จะออกจากงานประจำมาทำธุรกิจส่วนตัวเป็นเรื่องที่ตัดสินใจมากเหมือนกันค่ะ ยิ่งบทความนี้ยิ่งทำให้เห็นว่าจะเอาจำเป็นต้องมีการเตรียมตัวเป็นอย่างดี เพราะว่าไม่ใช่ว่าจะออกจากงานประจำได้ตอนไหนก็ตาม แต่ต้องเป็นช่วงเวลาที่เราเตรียมตัวอย่างดีที่จะประกอบธุรกิจส่วนตัวของเราเอง เพื่อทำให้เกิดความต่อเนื่องระหว่างการทำงานและเงินที่จะนำมาหมุนกับธุรกิจของเราด้วยค่ะ
น้ำฝน
อยากได้ข้อมูลเรื่องนี้อยู่พอดีแล้วบทความนี้ก็ดีนะให้เราเห็นว่าการจะเปิดธุรกิจส่วนตัวนั้นมีเรื่องอะไรบ้างที่ต้องทำ โดยเฉพาะเรื่องวิธีการคิด เพราะบางทีพอนึกอยากเปิดธุรกิจขึ้นมาหลายคนมักจะใจร้อนอยากทำทันทีแต่ลืมนึกถึงเรื่องบางเรื่องจนทำให้มีปัญหาทีหลัง พอมาอ่านบทความนี้เรามีแรงที่จะเปิดธุรกิจส่วนตัวมากขึ้นมาเลยทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่มั่นใจ
น้ำตาล
การทำธุรกิจส่วนตัวก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ท้าทายความสามารถของเราเหมือนกันนะคะ เพราะว่าการที่เราเปิดธุรกิจส่วนตัวเราจำเป็นต้องมีความคิดหรือวางแผนอื่นๆอีกเยอะเลย ต้องมีความขยันแล้วก็ความรักในงานที่เราทำด้วย บทความนี้ช่วยให้เราสามารถที่จะตรวจสอบตัวเองว่าการมีธุรกิจส่วนตัวจำเป็นจริงๆไหมที่เราต้องมี หรือว่าจะเป็นลูกจ้างคนอื่นดี
Monnawat
จะลงมือทำธุรกิจสักอย่างไม่ได้มีเงินแค่อย่างเดียวก็จะทำได้นะ ต้องคิดหลายอย่างมากเลยอะ ผมทำอะไรเล็กดีกว่าครับ แต่จะเล็กหรือใหญ่มันก็คือการลงทุนเหมือนกัน ได้กำไรจริง ขาดทุนจริงด้วย ผมคงต้องคิดใหม่ วางแผนใหม่แล้วล่ะครับ ถึงจะทำธุรกิจเล็กๆแต่ควรมีการจัดการที่ดีและมีการเตรียมความพร้อมในทุกด้าน ขอบคุณที่แนะนำข้อมูลดีๆมาให้ครับ
สนั่น จ๊าา
ไอเดียที่เสนอมาในการเขียนดีมากๆครับ สำหรับคนที่คิดจะเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง ชอบครับที่บอกว่าจะเริ่มต้นอะไรต้องดูที่กำลังหรือเงินทุนที่เรามีการครับ เรื่องนี้สำคัญจริงๆ เพราะถ้าเราทำอะไรที่เกินตัวเรา มันจะแย่เอานะครับ แต่บทความนี้ ตรงที่บอกเรื่องเจ็ดขั้นตอน ผมว่ามันอ่านยากมากจริงๆนะครับ ทำไมมันติดกันแบบนั้นครับ อ่านแล้วตาลายมากๆจริงๆครับ
คนทำงาน
ผมอะคิดไว้อยู่แล้วว่าการทำธุรกิจส่วนตัวมันน่าจะยากแหละ เราต้องรับผิดชอบหลายอย่างเอง แต่ผมก็ยังอยากอ่านเรื่องนี้ให้แน่ใจว่ามันยากตรงไหน อะไร อย่างไรบ้าง ทำให้ผมมั่นใจมากขึ้นและมีแนวทางมากขึ้นที่จะทำธุรกิจส่วนตัวครับ แต่ผมยังไม่เริ่มตอนนี้นะยังเก็บเงินอยู่ ทำงานประจำไปก่อนค่อยลาออกตอนที่พร้อมกว่านี้ครับ
Office_man
ผมไม่เคยคิดที่จะอยากมีธุรกิจส่วนตัวในยุคเศรษฐกิจแบบนี้เลย บอกตรงๆว่าผมทำงานกินเงินเดือนผมสุขสบายใจมากกว่า ในแต่ละเดือนก็มีเงินเก็บด้วย เอาไปลงทุนในหุ้นในทองคำ ผมชอบชีวิตแบบนี้มากกว่า อย่างน้อยมันก็ไม่ค่อยเสี่ยงเท่าไหร่ ถ้าขาดทุนในหุ้นอย่างน้อยก็ยังมีเงินเดือนอยู่ ถ้าขาดทุนในธุรกิจจะไปหาเงินจากไหนก็ไม่ได้...ถ้าเป็นหนี้แล้วก็ยิ่งทำให้ชีวิตยิ่งเครียด ผมชอบชีวิตมนุษย์เงินเดือนที่สุดครับ
แบม
ถ้าเราอยากจะมีธุรกิจส่วนตัวในขณะที่เราทำงานประจำอยู่ เราจำเป็นต้องกะระยะช่วงเวลาดีๆก่อนที่จะออกจากงานนะคะ เพื่อจะไม่ทำให้เงินที่เอามาหมุนในธุรกิจของเราเกิดปัญหาขึ้น ขอให้คิดถึงว่าการที่เราทำงานประจำอยู่ก็ทำให้เรามีรายได้อีกทางหนึ่ง แต่สำหรับธุรกิจของเราแล้วถ้าเราจำเป็นต้องมาทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับงานหรือธุรกิจของตัวเราเอง เราก็ต้องเลือกช่วงเวลาดีๆในการลาออกจากงานด้วยค่ะ
เขียนทอง
ตอนนี้คงไม่ใช่เวลาที่เหมาะเท่าไรที่เราจะคิดทำอะไรใหม่ตอนนี้ ถ้าอยากทำอะไรตอนนี้ขอให้แค่เป็นเพียงหาข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่เราอยากทำไปก่อนดีกว่า ศึกษาให้เข้าถึงแก่นของสิ่งที่เราอยากทำ เปรียบข้อมูลของสิ่งที่เราอยากทำอาจไปตรงกับสิ่งที่คนอื่นๆทำบ้างอาจจะเป็นได้ เรื่องหาขัอมูลช่วงนี้มีเวลากันใช้เวลาที่ว่างๆให้มากที่สุดเลยละกัน
หนิง
การทำธุรกิจการมีเส้นสายหรือการมี connection ที่ดีก็ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญนะคะ พอจะช่วยเราในการพูดคุยและการทำอะไรก็ตามในเกี่ยวกับธุรกิจของเราให้สามารถสะดวกและผ่านไปได้ด้วยดี ถ้าเรามีการพูดคุยหรือการ connection ที่ดีจะเป็นเรื่องที่เราได้เปรียบเทียบกับคู่แข่งค่ะ อะไรที่พยายามที่จะสร้างเส้นสายได้ก็ควรที่จะทำนะคะถึงแม้ดูเหมือนว่าจะต้องจ่ายไปบ้างก็ตาม
10/10
@เขียนทอง ถ้ามัวแต่ใช้เวลาหาข้อมูลอย่างเดียวไม่ทำอะไรเลย ก็คงจะอดตายกันพอดีนะครับช่วงนี้ ถ้าใช้เวลาหาข้อมูล และ ค้นหาตัวเองแล้ว ถ้ามีความมั่นใจแล้วพร้อมแล้ว ไม้ขั้นตอนสำคัญก็คือการลงมือทำครับ จริงๆแล้วจะรู้สึกตอนนี้เราสามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสได้ เธอธุรกิจของเราที่คิดไว้อย่างดีอาจจะสร้างเงินให้คุณ ในช่วงนี้ก็เป็นได้
วรชัย
ตอนนี้ อย่าเปิดดีกว่าไหมครับ กับธุรกิจส่วนตัวที่บอกกันนะครับ หันดูรอบๆข้างบ้างครับ ว่าตอนนี้เป็นยังไงบ้าง หลายคนปิดร้านกันเป็นแถวๆนะครับ ผมว่าอย่าเสี่ยงเลยครับ เก็บเงินไว้ แล้วรอให้มันดีกว่านี้ก่อนครับแล้วค่อยว่ากันใหม่ครับ ส่วนที่บอกว่าออกจากงานมาเปิดธุรกิจ ตอนนี้ ขอให้เป็นแค่ความคิดนะครับ อยู่กับงานที่ทำไปก่อนครับ ปลอดภัยกว่า
OMG!
@Benz ก็ใช่ค่ะ การทำธุรกิจส่วนตัวไม่ได้ง่ายเลยนะคะ เห็นใครๆเขาประสบความสำเร็จต้องแลกมาด้วยอะไรหลายๆอย่าง ต้องเหนื่อยมาก่อนมากๆใช้เวลามากกว่าการทำงานประจำอีก อันนี้เป็นประสบการณ์จริงจากครอบครัวของดิฉันค่ะ ทำงานประจำนะแต่ครอบครัวมีธุรกิจส่วนตัว ก็พอเห็นบ้างเขาว่าพ่อกับแม่ทำงานหนักแค่ไหน จะมีพนักงานแต่คนที่เป็นเจ้านายทำงานหนักกว่าอีก
พัตรา พัต
น่าจะถูกใจใครหลายคนสำหรับบทความนี้ การเป็นมนุษย์เงินเดือนในตอนนี้มันไม่พอแล้ว ต้องมีอาชีพเสริมอย่างอื่นด้วย การมีธุรกิจเป็นของตัวเองจึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจ บทความนี้มาตอบคำถามในใจหลายอย่างให้กับคนที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองมากค่ะ รวมถึงบอกด้วยว่าควรจะออกจากงานประจำตอนไหน เพราะถ้าไม่มั่นใจจริงๆไม่ควรออกเนอะ
ขจรศักดิ์
ผมว่าสิ่งที่เราต้องคิดเลยน่าเป็นข้อที่2นะครับ ที่บอกว่าเรารู้จักธุรกิจที่เราเปิดดีขนาดไหน บางครั้งเราอาจจะเห็นคนรอบข้างเปิดแล้วได้กำไรดีก็อยากจะเปิดตามบ้างแต่พอเปิดแล้วปรากฏว่าไม่เหมือนกับของคนอื่นๆ เพราะคนที่เราอาศัยอยู่ด้วยอาจจะไม่ชอบหรือไม่ชินกับธุรกิจของเราก็ได้ อย่าใจร้อนเป็นดีที่สุดเลยครับ ยิ่งโควิดแบบนี้ด้วย ต้องเชคให้ดีๆ
ออกัส024
จริงอย่างที่บทความนี้บอกนะ การมีธุรกิจส่วนตัวเป็นความฝันของหลายๆคน ยิ่งเด็กรุ่นใหม่ๆเขาคิดถึงเรื่องนี้กันมากขึ้น เมื่อมีเรื่องราวของนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่อายุน้อยแต่ประสบความสำเร็จอย่างมากมายออกสื่อให้เห็นกันบ่อยๆ ก็ยิ่งเพิ่มไฟในตัวของคนที่ความฝันแบบนั้นอยู่แล้วให้ลุกโชนขึ้นอีกครั้ง ขอให้ทำสำเร็จกันทุกคนครับ
*NualpranG*
ชื่อเรื่องของบทความนี้ คือ "การเปิดธุรกิจส่วนตัวยากมากไหม?" ซึ่งก็มีหัวข้อใหญ่มาว่า "10 สิ่งที่ควรรู้ก่อนจะเปิดธุรกิจส่วนตัว" โอ้..พอจะรู้คำตอบละค่ะว่าการเปิดธุรกิจส่วนตัวมันยากพอสมควร มีเรื่องที่ต้องพิจารณาหลายอย่าง อย่างว่าแหละค่ะ การทำธุรกิจมันต้องใช้เงินลงทุน ลงทุนแล้วก็หวังกำไรกันทั้งนั้น ต้องคิดให้ดีจริงๆ
๖๒ปูนปั้น
ดีมากเลยค่ะ นอกจาก 10 สิ่งที่ควรรู้ก่อนจะเปิดธุรกิจส่วนตัว แล้วบทความนี้ยังแนะนำ 7 ขั้นตอนง่ายๆ เริ่มต้นธุรกิจมาให้ด้วย ในทุกวันนี้ หลายคนสนใจการทำธุรกิจเป็นของตัวเองจริงๆ ด้วยหลายๆเหตุผล ซึ่งบางเหตุผลนั้นในบทความนี้ได้บอกไปแล้ว ก่อนจะตัดสินใจทำอะไรลงไป หาข้อมูลกันให้ดี พิจารณากันให้ถี่ถ้วน เพื่อความสำเร็จในอนาคตค่ะ