4 วิธีรับมือกับราคาหุ้นผันผวนอย่างฉลาด

เพราะทุกจังหวะ มีขึ้นก็ต้องมีลง ความกังวลที่นักลงทุนหลายคนพบเจอ โดยเฉพาะมือใหม่ ก็คือ ความผันผวนในตลาดหุ้น ยิ่งใครติดตามข่าวเศรษฐกิจและการลงทุนอยู่เป็นประจำ อาจหวั่นๆ กับปัญหาเศรษฐกิจโลกกันอยู่แน่ๆ ไม่ว่าอย่างไร ก็คงต้องมีผลต่อตลาดหุ้นบ้านเราไม่วันใดก็วันหนึ่ง ดังนั้น จะว่าอย่างไรกับจังหวะการลงทุนของเรา ใครที่จัดอยู่ในหมวดนักลงทุนสายหุ้นรายตัว ก็คงจะกลัว หุ้นตก!  หรือใครคิดจะซื้อเพิ่ม ก็คงอยากมีแผนรับมือกันบ้าง ถ้าเราต้องการซื้อหุ้นที่หมายปอง แต่กลับเป็นว่า ช่วงนั้น ตลาดไม่ค่อยเป็นใจเลย ราคาหุ้นผันผวนหรือตกลงเอาซะแล้ว เราจะทำอย่างไรดี?!  จะหาบ้านให้หุ้นดีได้อยู่มั๊ย หรือต้องรอเวลาให้ผ่านช่วงนี้ หรือรอเวลาราคาหุ้นปรับลดตัวลงไปอีก แล้วค่อยทยอยเข้ามาลงทุนอย่างเยือกเย็นมากขึ้น หากเรายังตัดสินใจไม่ถูก สำหรับสถานการณ์ตลาดหุ้นไม่เป็นใจในบางครั้งล่ะก็ มาสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเองกันดีกว่า ด้วย 4 วิธี ที่จะช่วยเรา ก้าวยาวๆ ได้อย่างหนักแน่นและมั่นคง เตรียมแผนรับมือกับทุกภาวะ เพื่อเก็บหุ้นตัวดีได้ แม้จะเป็นยามตลาดขาลงก็เถอะ มาดูกันเลย..

1 วิเคราะห์การลงทุน

เพราะเป้าหมายในการลงทุน แต่ละคนมันก็คงจะไม่เหมือนกัน บางคนมองหาการลงทุนระยะยาวสัก 20 ปี หรือบางคนมองหาการลงทุนในระยะที่สั้นกว่า หรือใครที่คุ้นกับหุ้นแบบกองทุน ก็อาจจะลงทุนในตัว SET50 ที่มีการซื้อขายคล่องตัวตลอดเวลา มีความแข็งแรงในลำดับต้นๆ หุ้นกลุ่มนี้ไม่ล้มก่อนแน่นอน จึงไม่ต้องกังวลในราคาหุ้นผันผวนสักเท่าไหร่ แต่ก็ต้องไม่โกยไปตามกระแส หรือตัวไหนลงก็ขายทิ้งทันทีด้วย. แต่สำหรับนักลงทุนที่กลัวสถานการณ์ ‘หุ้นตก’ อย่างเรา ก็คงต้องเริ่มที่การตั้งสติ และคิดวิเคราะห์เพื่อหาหนทางแก้ไข แทนที่จะตื่นตระหนก ถ้าเราเข้าใจหุ้นแต่ละตัว ก็จะรู้ผลประกอบของหุ้นว่ามีอัตราเติบโตอย่างไร มีผลกำไรและเงินสดในระยะสั้นและระยะยาวอย่างไร เพื่อวางแผนได้แบบที่ตรงต่อทิศทางและการเปลี่ยนแปลงที่สุด

2 ติดตามการเติบโตของกำไร

และในเรื่องของกำไรและการเติบโตนั้น หากเรามั่นใจแน่ๆ ว่าในช่วงอีกสัก 1-3 ปีข้างหน้านี้ ในการดูแลหุ้นให้เติบโตนั้น common sense ของเรามันบอกว่าได้ ก็เชื่อใจไปเถอะ! ยิ่งหากเป็นหุ้นแนว สนามบิน โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อขึ้นชื่อ หรือร้านอาหารที่คนเขานิยมกัน ก็เป็นได้ถึงแนวโน้มในการเติบโตของกำไรในอนาคตแน่นอน เพราะราคาข้าวของ สินค้าและบริการมันแพงขึ้นทุกปีๆ จึงเกิดเป็นเรื่องของ ‘หุ้นวัฏจักร’ ที่ หุ้นพลังงานไปอิงกำไรกับหุ้นราคาน้ำมัน หุ้นราคาน้ำมันไปอิงกับหุ้นปิโตรเคมี หรือหุ้นอสังหาริมทรัพย์ ไปอิงกับพวกหุ้นราคาคอมโนมิเนียม เป็นต้น

3 ติดตามข่าวเศรษฐกิจ

เป็นที่รู้กันในหมู่นักลงทุนอยู่แล้วว่า การที่ราคาตลาดหุ้นผันผวนนั้น ย่อมมาจากการเปลี่ยนแปลงของภาวะเศรษฐกิจในประเทศ และในตลาดโลก บางครั้ง ก็เป็นแค่นโยบายทางการเงินของประเทศแถบอเมริกา แต่กลับส่งผลมาถึงตลาดหุ้นทุกหัวระแหง และการลงทุนรูปแบบอื่นๆด้วย หรือบางครั้งแค่ดราม่าเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ หรือข้อถกเถียงในสังคม ก็ทำให้กราฟการลงทุนจดดิ่งเอาได้ ดังนั้น การติดตามข่าวเศรษฐกิจ หรือข้อมูลข่าวสารจากตลาดหลักทรัพย์เป็นประจำ ก็ทำให้เราปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนได้ดีขึ้น รวมถึงจัดการกองทุนที่เราให้บริการ เพื่อวางแผนรับมือได้ทันท่วงทีในทุกการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจด้วย การลงทุนที่มีมิติ เราจึงต้องมองหาการเชื่อมโยงในกันและกัน เพื่อเข้าใจบริบทของเหตุผลที่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดด้วย

4 ดูพื้นฐานหุ้นให้ดี

เพราะหุ้นที่ดี จะมีพื้นฐานที่ไม่เปลี่ยนแปลง ถ้าหามองหาหุ้นที่ใช้พบแล้ว ถึงราคามันลงเอามากๆ สิ่งสำคัญก็คือ เราต้องควรดู ว่ามีข่าวคราวอะไรเกิดขึ้นต่อ มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมั้ยที่เป็นนัยสำคัญ เช่น การเปลี่ยนตัวผู้บริหาร หรือข่าวเกี่ยวกับบริษัท เราอาจเสิร์ชข้อมูลดู เกี่ยวกับข่าวคราวในรอบเดือน รอบสัปดาห์ เพื่อวิเคราะห์ทิศทางของเรื่องราว ถ้าจะให้ชัวร์ ดูพวกบทวิเคราะห์ล่าสุดของโบรกเกอร์สำนักใหญ่ๆรวมตัวยิ่งดี เพราะหากพื้นฐานหุ้นไม่มีการเปลี่ยนแปลง ก็แสดงว่าเป็นหุ้นที่ดี และเพิ่มโอกาสในการลงทุนกับเราแล้วล่ะ แต่หากราคาที่ลดลงเป็นเพราะพื้นฐานเชิงลบ เราก็ต้องมาตัดสินใจกันอีกให้รอบคอบ

หรือถ้าเรามีการลงทุนประเภท กิจการเพียงกลุ่มเดียว ก็อาจต้องคิดมากขึ้นในช่วงสถาการณ์ตลาดผันผวน หากหุ้นกลุ่มนั้นล้ม เราก็จะเจอสถานการณ์ ล้มทั้งพอร์ต ล้มทั้งแผง หากยังไม่ชำนาญมากพอ ก็ต้องใส่ใจในรายละเอียดพื้นฐานหุ้นมากกว่าเดิม หรือเลือกปรึกษาเรื่องการลงทุนเพิ่มเติมได้

รับมือกับราคาหุ้นเพื่อเฟ้นหาหุ้นดีที่ตอบโจทย์!

ถ้าเราเห็นอาการผันผวนของราคาหุ้น มันไม่ใช่เวลาที่จะยอมขายทิ้งแบบขาดทุน! ถึงแม้ว่าการตัดสินใจทำอะไรในช่วงสถานการณ์แบบนี้ จะส่งผลโดยตรงต่อสภาพทางการเงินของเรา แต่ถ้าเรารีบเกินไป จะเสียใจและเสียดายโอกาสเอาก็ได้. เพราะการลงทุนกับตลาดหุ้นแบบที่ปลอดภัย เราคงรอไม่ได้เสมอไป  ยิ่งสถานการณ์ในตอนนี้ แว่วๆข่าวเรื่องเศรษฐกิจโลกเจอปัญหาอย่างนั้นอย่างนี้ ยิ่งเป็นตัวกระตุ้นในราคาหุ้นบ้านเราผันผวนยกใหญ่ แต่จริงๆแล้ว นี่กลับถือเป็นโอกาสทอง เพื่อวิเคราะห์การลงทุน , ติดตามการเติบโตของกำไร และข่าวเศรษฐกิจให้ดี สำหรับคนที่เล็งหุ้นพื้นฐานดีอยู่ก็เป็นได้ เราอาจเลือกตัดสินใจได้ง่ายขึ้นที่จะลงทุนกับหุ้นในเครือพลังงาน หรือบริษัทที่มีกราฟเติบโตคงที่ ยิ่งพวกการบริหารที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของผู้คนอยู่แล้ว ยิ่งถือว่าอนาคตจะยิ่งมีการเติบโตได้ดีในระยะยาว เพราะใครๆก็ต้องกินต้องใช้ ดังนั้น ยิ่งหุ้นแนวนั้น ตกเท่าไหร่ ก็อย่างไปหวั่นไหว แต่เลือกที่จะรับมือ เพื่อเฟ้นหุ้นที่ดี และราคาที่ตอบโจทย์กันได้มากขึ้นดีกว่า และถึงแม้ตลาดหุ้นจะไม่เป็นใจเท่าไหร่อยู่ดี  แต่ถ้าเรายอมรับสภาวะรอบข้าง ไม่กังวลจนเกินไป ก็หาทิศทางการเดินหน้าต่อได้ง่ายด้วย