หน้าที่รับผิดชอบของประชาชนทุกคนในที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือ การเสียภาษี บางคนอาจจะไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเสียภาษี? เพราะเราไม่ได้มีเงินเดือนเป็นหมื่นเป็นแสน เป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาหาเช้ากินค่ำ เป็นเพียงชาวนาที่อยู่บ้านนอกเท่านั้น จะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายภาษีให้กับรัฐบาล? แต่ในความเป็นจริงแล้วเราจ่ายภาษีไปโดยที่ไม่รู้ตัว เพราะสินค้าอุปโภคบริโภคที่เราซื้อทุกวันนี้มีการคิดภาษีรวมไปแล้วหล่ะค่ะ

เพื่อให้เข้าใจชัดเจนว่าเราจำเป็นต้องเสียภาษีหรือไม่? เราต้องรู้ก่อนว่าภาษีหมายถึงอะไร? ภาษี คือ เงินที่ทางรัฐบาลเก็บจากประชาชนเพื่อนำไปพัฒนาสาธารณูปโภคของประเทศให้มีความเจริญมากขึ้น ทั้งในด้าน ถนนหนทาง น้ำประปา ไฟฟ้า และสร้างโรงเรียน ซึ่งมีทั้งภาษีทางตรงเก็บจากประชาชนที่มีรายได้จากการประกอบอาชีพ การค้า บริการและอุตสาหกรรม ส่วนทางอ้อม หรือภาษีมูค่าเพิ่มที่เก็บจากประชาชนเมื่อเราซื้อสินค้า และบริการต่างๆในชีวิตประจำวันนั่นเองค่ะ

ในบทความนี้ดิฉันอยากจะให้ข้อมูลกับเพื่อนๆ เพื่อรู้วิธีลดภาระทางด้านภาษีทางตรงได้ค่ะ ภาษีหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย แต่ก็มีวิธีที่ช่วยให้จ่ายภาษีน้อยลงได้ ด้วยการทำประกันค่ะ เมื่ออ่านแล้วเพื่อนๆจะรู้ว่า ก่อนทำประกันประเภทต่างต้องรู้เรื่องอะไรบ้าง? ประกันมีกี่ประเภท? และประกันแบบไหนที่ช่วยลดหย่อนภาษีได้บ้าง? ดิฉันหวังว่า เพื่อนๆจะได้รับประโยชน์จากข้อมูลที่ให้ไปนะคะ ขออ่านไปพร้อมๆกันเลยค่ะ

ต้องรู้อะไรก่อนทำประกันประเภทต่างๆ?

ต้องรู้อะไรก่อนทำประกันประเภทต่างๆ?

การทำประกันชีวิต คือการสร้างหลักความมั่นคงให้กับชีวิต เหมือนกับการออมเงินเพื่ออนาคต และเผื่อฉุกเฉิน ซึ่งใครจะทำหรือไม่ทำก็ได้ ซึ่งบางคนมองว่ามันภาระและเป็นค่าใช้จ่ายในระยะยาว ไม่จำเป็น และแพงด้วย แต่คนที่มีรายได้ถือว่าจำเป็น เพราะปัจจุบันทางสรรพากรให้นำค่าเบี้ยประกันมาใช้ในการลดหย่อนภาษีได้ สำหรับคนที่มีรายได้เยอะๆการทำประกันถือว่าช่วยลดค่าใช้จ่ายแต่ละปีได้เยอะเลยทีเดียว ถึงแม้จะช่วยได้จริงแต่ก็มีสิ่งที่ต้องรู้ก่อนจะทำประกันด้วยนะคะ

ต้องรู้อะไรก่อนทำประกันประเภทต่างๆ? อันดับแรกคือต้องศึกษาข้อมูลให้ชัดเจนก่อนว่าประกันที่เราจะทำเป็นแบบไหน ให้ความคุ้มครองอะไรบ้าง เงื่อนไขเป็นอย่างไร ค่าเบี้ยประกันปีละเท่าไหร? และต้องจ่ายกี่ปีและคุ้มครองกี่ปี?

อันดับต่อไปคือนำข้อมูลที่ได้มาเปรียบเทียบกันกับหลายๆบริษัทเพื่อได้ประกันที่เหมาะกับเรามากที่สุด ในเรื่องความคุ้มคุ้มครอง และราคาค่ะ และสุดท้าย คุณน่าจะประเมินสภาพทางการเงินของเราก่อนว่า มีรายได้ปีละเท่าไหร่ มีรายจ่ายประจำมั้ย เช่นผ่อนบ้าน ผ่อนรถ... เพื่อเราจะได้มีเงินจ่ายประกันได้จนครบสัญญาเพื่อจะได้รับความคุ้มครองต่อเนื่อง และไม่เป็นภาระหนักเกินไป

ตัดสินใจจะทำประกัน อย่าลืม! ตรวจสุขภาพให้ละเอียดก่อนนะคะ เพราะรายละเอียดและสิทธิต่างๆในเรื่องความคุ้มครองแตกต่างกันระหว่างคนที่มีสุขภาพดี และมีโรคประจำตัวค่ะ และเพื่อป้องกันการถูกริดรอนสิทธิค่ะ การทำประกันตอนอายุน้อยๆจะได้เปรียบเพราะค่าเบี้ยประกันถูกกว่า เมื่ออายุมากขึ้นค่าเบี้ยจะแพงขึ้นเรื่อยๆค่ะ

ประกันมีกี่ประเภท?

ประกันมีกี่ประเภท?

เมื่อเรารู้ว่าการทำประกันมีประโยชน์ และสร้างความมั่นคงให้กับอนาคตเราได้ และเพื่อจะได้ความคุ้มครองที่คุ้มค่าและครอบคลุม เราต้องรู้และเข้าใจด้วยว่าประกันภัยที่มีอยู่ในบ้านเรามีกี่ประเภท ตามประมวลกฎกมายแพ่งและพาณิชย์ ได้แบ่งประกันภัยเป็น 2 ประเภทค่ะ ประกันชีวิต และประกันวินาศภัย

ตามหลักวิชาการประกันภัยยังได้แบ่งประเภทของประกันภัยออกเป็น 3 ประเภทคือ…

ประกันภัยบุคคล

ประกันนี้เป็นประกันภัยเกี่ยวกับความเสียหายที่เกิดกับบุคคลเช่น ประกันชีวิต, ประกันอุบัติเหตุ, และประกันสุขภาพค่ะ

ประกันภัยทรัพย์สิน

ประกันภัยทรัพย์สินเป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สินของผู้เอาประกัน ได้แก่ ประกันอัคคีภัย, ประกันภัยทางทะเลและขนส่ง, ประกันภัยรถยนต์ , และประกันภัยเบ็ดเตล็ดค่ะ

ประกันภัยเกี่ยวกับความรับผิดชอบตามกฎหมาย

นี่เป็นการประกันภัยที่เกิดขึ้นโดยผลของกฎหมายที่เกิดจากการประมาทเลินเล่อของผู้เอาประกัน บุคคลในครอบครัว ลูกจ้างของผู้เอาประกันที่ทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ หรือทรัพย์สินเสียหาย ซึ่งแบ่งออกเป็น ประกันภัยรับผิดชอบต่อสาธารณะ, ประกันภัยรับผิดชอบจากผลิตภัณฑ์, และประกันภัยความรับผิดชอบจากวิชาชีพค่ะ

ประกันแบบไหนที่ช่วยลดหย่อนภาษีได้

ประกันแบบไหนที่ช่วยลดหย่อนภาษีได้

ในปัจจุบันนี้ กรมสรรพากรยินยอมให้ผู้มีรายได้นำเบี้ยประกันชีวิตมาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้สูงสุดถึง 300,000 บาท ต่อปีค่ะ สำหรับเพื่อนๆที่ต้องการใช้สิทธิประโยชน์ของประกันเพื่อนำมาลดหย่อนภาษีตามที่กรมสรรพากรยินยอมต้องรู้ด้วยว่ามีกี่ประเภท? เบี้ยประกันที่ใช้ลดหย่อนภาษีได้มีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภทค่ะ

อย่างแรกคือเบี้ยประกันชีวิตและเบี้ยประกันสุขภาพที่ทำให้ตัวเองค่ะ สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท แต่ต้องเป็นไปตามเงื่อนไข เช่น เบี้ยประกันสุขภาพตามจำนวนที่จ่ายจริง ไม่เกิน 25,000 บาท และประกันชีวิตที่มีระยะเวลาคุ้มครองตั้งแต่ 10 ขึ้นไป ถ้ามีเงินคืนระหว่างสัญญา เงินคืนสะสมต้องไม่เกิน 20% ของเบี้ยประกันภัยสะสมค่ะ

อย่างที่ 2 คือ เบี้ยประกันชีวิตของประกันแบบบำนาญที่ทำให้ตัวเองลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 20,000 บาทและไม่เกิน 15 % ของเงินได้ซึ่งต้องเสียภาษี

ประกันคุ้มครองชีวิตคุณและเงินของคุณด้วย

ประกันคุ้มครองชีวิตคุณและเงินของคุณด้วย

เมื่อเราพูดถึงประกัน ทุกวันนี้ผู้คนให้ความสนใจกันมากขึ้นเนื่องจากชีวิตของเราไม่แน่นอน เพราะเศรษฐกิจกำลังตกต่ำ เราเสี่ยงกับการตกงาน ไวรัสโควิดก็ยังควบคุมไม่ได้ วัคซีนก็ยังไม่มี ชีวิตเราก็เสี่ยงต่อการเจ็บป่วย แทบทุกคนมีความกังวลโดยเฉพาะในเรื่องค่าใช้จ่าย แต่ในขณะเดียวกันก็อยากได้ความคุ้มครองด้วย เราจะเห็นได้ว่าผู้คนมากขึ้นเรื่อยๆให้ความสนใจในการทำประกันไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิต สุขภาพ อุบัติเหตุ ประกันรถยนต์ รวมไปถึงประกันทรัพย์สิน นอกจากประกันต่างๆจะช่วยปกป้องทรัพย์สิน และคุ้มครองชีวิตของเราแล้วยังช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้ โดยที่เราสามารถนำเอาเบี้ยประกันที่จ่ายไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วยสูงสุดถึงปีละ 300,000 บาทแหน่ะ! เพื่อนๆเห็นมั้ยคะว่า ประกันนั้นสำคัญและมีประโยชน์ขนาดไหน? ถ้ามีเงินก็ทำเอาไว้เถอะค่ะคุ้มค่าแน่นอน!