หลังจากเราได้พูดถึงเซียนหุ้นท่านอื่น ๆ อย่างคุณพอล หรือ เซียนมี่ไปบ้างแล้ว วันนี้เราจะพาทุกคนมารู้จักกับอีกหนึ่งขั้นเทพนักลงทุนกับ “เซียนฮง” หรือ “สถาพร งามเรืองพงศ์” หนุ่มตี๋วัย 35 ปี เป็นที่รู้จักกันดีในนาม “เซียนหุ้นอัจฉริยะ” ต้องบอกเลยว่าแทบจะไม่มีนักลงทุนหุ้นมืออาชีพคนไหนที่ไม่รู้จัก เพราะเขาเป็นทั้งนักบรรยาย วิทยากร นักเขียนด้านการเงินและการลงทุน เขาสั่งสมประสบการณ์การลงทุนมาเกือบ 20 ปีประสบความสำเร็จอย่างงดงาม กลายเป็นเซียนหุ้น ติดอันดับนักลง Top 3 ที่มี Wealth Net อันดับต้น ๆ ในประเทศไทย ด้วยพอร์ตลงทุน “หลายหมื่นล้านบาท”

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับหุ้นที่นี่

จุดเริ่มต้นเส้นทางเศรษฐีของเซียนฮง

https://img.moneyduck.com/article_attachment/1652849740-businessman-touching-glowing-increasing-arrow-business-profit-investment-growth-concept.jpg

จุดเริ่มต้นเด็กปี 1 มหาวิทยาลัยกรุงเทพ กับจำนวนเงินทุนเพียง 1 แสนบาท เริ่มเข้าสู่ตลาดหุ้นเมื่อช่วงปี 2547 อายุเพียง 25 ปี ตอนนั้นเซียนฮงยังเป็นเพียงเด็กหนุ่ม ที่ครอบครัวค้าขายเสื้อยืด ในตลาดย่านพระราม 2 เล่นหุ้นตั้งแต่เรียนปี 1 สำหรับคนที่จุดประกายให้เซียนฮงเข้าสู่โลกแห่งการลงทุน ไม่ได้เป็นคนอื่นคนไกล แต่คือแก๊งเพื่อนสมัยเรียนมัธยมมาด้วยกัน เซียนฮงเล่าว่าเขาเห็นเพื่อนเก็งกำไรจากหุ้นตัวหนึ่งได้มากถึง 50% ภายในระยะเวลาไม่กี่เดือน ซึ่งช่วยจุดประกายให้ตนเองเห็นว่าเป็นวิธีที่ทำให้เราสามารถร่ำรวยขึ้นได้ โดยไม่ต้องลงแรงมากมาย จึงเริ่มต้นศึกษาการลงทุนให้รู้ชัดแจ่มแจ้งมากขึ้น

เซียนหุ้นมือใหม่ เริ่มขวนขวายหาหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนมาอ่านเพิ่มเติมมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยเขามีแนวคิดว่าเขาจำเป็นต้องเพิ่มพูน ศึกษาหาความรู้ให้มากที่สุด เขาจึงเลือกที่จะอ่านหนังสือและเข้าฟังสัมมนาการเงิน การลงทุนทั้งเล็กและใหญ่ให้มากที่สุด จนในที่สุดเขาก็มีคลังความรู้เกี่ยวกับหุ้นจากความทุ่มเททั้งหมด แต่แม้จะมีความรู้ แต่ประสบการณ์ก็สำคัญไม่แพ้กัน ทำให้ 2 ปีผ่านไป เซียนฮงทำการลงทุนของเขาไม่ได้กำไรเลยเพราะ ยังดูพื้นฐานหุ้น รวมถึงงบการเงินไม่เป็น ที่สำคัญคือเขาอ่านแนวโน้มธุรกิจไม่ออก มองไม่เห็นแนวโน้มในอนาคต

เส้นทางการลงทุนหุ้นของเซียนฮง

https://img.moneyduck.com/article_attachment/1652849751-stock-market-graph-financial-data-electronic-board-laptop-screen%20%281%29.jpg

ต่อมา ปี 2556 เซียนหุ้น อัจฉริยะคนนี้ทยอยซื้อหุ้น บมจ.บัตรกรุงไทย หรือ KTC จากนั้นในปี 2562 เขาได้กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 4 ใน KTC หลังจากนั้น 1 ปีต่อมา คือปี 2563 จะเลื่อนขั้นขึ้นมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 3 ของ KTC ก่อนทยอยขาย

เซียนฮงคนเดิม ในปัจจุบันวัย 35 ปี เข้าตลาดหุ้นด้วยเงิน 100,000 บาท ตอนอายุ 19 ปี โดยปี 2554 ให้สัมภาษณ์ในอีก 10 ปีข้างหน้า เขาอยากมีพอร์ตการลงทุนให้ถึง 300 ล้านบาท

แต่ยิ่งกว่าความสำเร็จ เพราะปัจจุบัน เซียนฮงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน 6 บริษัท ได้แก่ OR, KISS, MICRO, NOBLE, IVL และ SINGER รวมมูลค่า ณ ราคาปิดวันที่ 22 มีนาคม 2564 ที่ 11,508 ล้านบาท

เทคนิคการลงทุนให้ประสบความสำเร็จ

https://img.moneyduck.com/article_attachment/1652849759-double-exposure-businessman-using-tablet-with-cityscape-financial-graph-blurred-buildi%20%281%29.jpg

เพราะทุกการลงทุนและเลือกหุ้นของเขาไม่ได้ใช้โชคช่วย แต่ใช้หลักการคิดวิเคราะห์อย่างดี โดยเซียนฮงมีเทคนิคเลือกหุ้น ดังนี้

  • เทคนิคเข้าซื้อหุ้นเขาจะซื้อแบบ 30 : 30 : 30 : 10 ถ้าเป็นไปตามเป้าหมายก็จะซื้อเพิ่มตามสเต็ปไปเรื่อย ๆ แต่ถ้าหากเข้าเก็บหุ้นตัวนั้นแล้วราคาปรับลงกว่า 8% เขาจะขายขาดทุน (Cut Loss) ทันที
  • ปรับพอร์ตและติดตามการลงทุนทุกไตรมาส (3 เดือน) เพราะในสถานการณ์ทั่วโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การปล่อยพอร์ตทิ้งไว้จะทำให้ไม่ใช่เรื่องดี เพราะบริษัทต่าง ๆ มีการจัดงบทุกไตรมาส
  • วิเคราะห์แนวโน้มผลประกอบการล่วงหน้า เพื่อประเมินราคาหุ้นที่เหมาะสมในอนาคต และหาจุดเข้าซื้อหรือจุดขายที่เหมาะสม

วันนี้กลายเป็น “เซียนฮง” อย่างเต็มภาคภูมิ เจ้าตัวก็ยังได้บอกว่าที่จริงไม่ได้เก่งอะไรมากมาย แต่เพราะศึกษาหาความรู้ว่าเล่นหุ้นแบบไหนแล้วได้กำไร หลังจากเป็นเศรษฐีย่อมๆ ภายในเวลาไม่กี่ปี รวมถึงวันนี้อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นความสำเร็จยิ่งกว่า คือ ครอบครัวมีความสุข พ่อแม่มีทัศนคติที่ดีขึ้นกับการลงทุน และเขากล่าวทิ้งท้ายว่า “ผมจะขอยึดอาชีพนักลงทุนเลี้ยงตัวเองไปเรื่อย ๆ ไม่คิดไปทำงานอย่างอื่น แต่ถ้ามีเงินตามเป้าหมายอาจแบ่งมาลงทุนทำอพาร์ทเม้นท์ให้เช่า เท่านี้ชีวิตผมก็มีความสุขแล้ว”

นอกจากนี้ เซียนฮงมักย้ำเสมอว่า ข้อผิดพลาดของนักลงทุนจำนวนมาก มักจะซื้อหุ้นตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญหรือซื้อตามโบรกเกอร์โดยที่เราไม่มีความรู้ ความเข้าใจมากพอหรือเรียกว่าซื้อไปตามกระแสนั่นเอง ทำให้กว่า 90% ของนักลงทุนไม่ประสบความสำเร็จ ถ้าหากจะทำกำไรจากตลาดหุ้นก็จำเป็นต้องมีการศึกษาหาความรู้ รู้ทุกซอกทุกมุมของหุ้นให้กระจ่างแจ้ง ถ้าหากคุณไม่อยากเป็นหนึ่งในคนที่ล้มเหลวในการลงทุนลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนจาก MoneyDuck ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ได้ที่ลิงก์ด้านล่างเลย