ปฏิเสธไม่ได้ว่ากลุ่มคนรุ่นใหม่หันมาสนใจการลงทุนในรูปแบบต่าง ๆ กันมากขึ้น แต่เส้นทางการเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จจำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจในทุกขั้นตอนของการลงทุน โดยเฉพาะ การจัดพอร์ต การลงทุน นับว่าเป็นขั้นตอนการวางแผนที่สำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะถ้าหากจะผิดพลาดอาจจะทำให้ขาดทุนแทนได้กำไรซะงั้น และในบทความนี้เราจะพาทุกท่านมาลองทำตาม 4 Steps ออกแบบพอร์ตกองทุนรวมที่คุณสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง ให้ได้ลองนำไปปรับใช้กัน

ทำไมต้องจัดพอร์ต การลงทุน ?

https://img.freepik.com/free-photo/businesswoman-using-tablet-analysis-graph-company-finance-strategy-statistics-success-concept-planning-future-office-room_74952-1410.jpg?w=1060

หลายคนที่เพิ่งลงทุนอาจจะสงสัยว่าทำไมต้องจัดพอร์ต แล้วจัดพอร์ตการลงทุนคืออะไร ?

การจัดพอร์ตการลงทุนก็คือ การวางแผนที่จะจัดสรรเงินลงทุนไปไว้ในสินทรัพย์ต่างๆ โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยกระจายความเสี่ยงไม่ให้เราต้องรับความเสี่ยงมากเกินไปในสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่ง ซึ่งก่อนเราจะมาเริ่มจัดพอร์ตเป็นของตัวเอง เราก็จำเป็นจะต้องรู้ว่าเราสามารถรับความเสี่ยงได้แค่ไหน มีเงินทุนเท่าไร หวังผลตอบแทนกี่เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้เราสามารถจัดพอร์ตให้เหมาะสมกับความเสี่ยงที่เรารับได้นั่นเอง

4 ขั้นตอนจัดพอร์ตกองทุนรวม ด้วยตัวเอง

https://img.moneyduck.com/article_attachment/1653277750-house-investments-elements-assortment.jpg

การจะลงทุน เบื้องต้นเราควรมีความรู้ความเข้าใจในการจัดพอร์ตด้วยตัวเองเสียก่อน เพราะการจัดพอร์ตจะเป็นตัวช่วยที่ทำให้การลงทุนของเรายังคงพอไปได้ถ้าหากต้องอยู่ในสภาวะที่ตลาดไม่เป็นใจ ซึ่งมีวิธีการ ดังนี้

เริ่มล็อกเป้าหมายให้ชัดเจน

ในการจัดพอร์ตการลงทุนควรเริ่มจากการตั้งเป้าหมาย ขั้นแรกเราจำเป็นต้องจัดพอร์ตตามเงื่อนไข ระยะเวลาและลำดับความสำคัญที่แตกต่างกันไป เพราะว่าในแต่ละกองทุนก็จะมีความเสี่ยงและผลตอบแทนที่คาดหวังที่แตกต่างกันเช่นกัน ตัวอย่างเป้าหมายการลงทุน

  • เป้าหมายเพื่อเก็บเงินไว้เรียนต่อต่างประเทศ 500,000 บาทในอีก 3 ปี เป็นเป้าหมายระยะสั้น ยังไม่ควรเลือกกองทุนที่มีความเสี่ยงสูงจนเกินไปอย่าง กองทุนรวมตราสารทุน
  • เป้าหมายเพื่อมีเงินก้อนไว้ใช้ในยามเกษียณ 3 ล้านบาทในอีก 20 ปี เป็นเป้าหมายเหลือยาวก็สามารถเลือกกองทุนที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นได้

เข้าใจความเสี่ยงที่ตัวเองรับได้

เมื่อตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนได้แล้ว สิ่งต่อมาที่เราจำเป็นต้องทำก็คือทำความรู้จักตัวเองนี่แหละ ดูซิว่าเรามีเงินทุนเท่าไรและสามารถรับความเสี่ยงได้แค่ไหน

โดยปกติแล้วถ้าหากเป็นคนที่เพิ่งเริ่มทำงานรุ่นใหม่ไฟแรง ก็จะเหมาะกับการลงทุนระยะยาวที่มีความเสี่ยงปานกลาง เพื่อให้พอร์ตการลงทุนของเราค่อย ๆ เติบโตขึ้นและสั่งสมได้เป็นพอร์ตการลงทุนที่ใหญ่ในระยะยาว

หรือหากเป็นในช่วงวัยทำงานจนถึงวัยกลางคนแล้วพอร์ตการลงทุนก็ไม่ควรจะมีความเสี่ยงสูงจนเกินไปเราเลือกลงทุนในกองทุนระยะสั้นก่อนจะบอกมากกว่า หรือถ้าหากมีเงินทุนเหลือกว่าจะเลือกกันลงทุนในด้านอื่น ๆ เพิ่มความมั่งคั่งได้ อย่างการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลควบคู่ไปด้วยก็ได้

https://img.freepik.com/free-photo/lifestyle-people-emotions-casual-concept-excited-smart-creative-asian-female-coworker-have-suggestion-add-idea-raising-index-finger-say-thought-plan-standing-white-background_1258-59345.jpg?w=1060

เริ่มต้นจัดพอร์ต การลงทุน

หลังจากเราทำการกำหนดเป้าหมายการลงทุนที่ชัดเจนและเข้าใจตัวเองแล้วว่าจะมารับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน จะมาก็มาถึงขั้นตอนสำคัญคือเราสามารถจัดพอร์ตการลงทุนกันได้เลย

  • ในวัยรุ่นหรือเพิ่งเริ่มทำงาน รับความเสี่ยงสูงได้ คาดหวังผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 10% ต่อปี อาจจัดพอร์ตเชิงรุก คือเลือกลงทุนในสินทรัพย์ความเสี่ยงสูงเป็นส่วนใหญ่
  • ในวัยทำงาน รับความเสี่ยงระดับปานกลาง เพราะมีภาระมากขึ้นต้องมีการวางแผนให้ดี ไม่ควรรับความเสี่ยงสูงเกิน คาดหวังผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 8% ต่อปี อาจจัดพอร์ตเชิงปานกลาง - รับ เลือกลงทุนในสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำเป็นส่วนใหญ่

พอร์ตลงทุนระยะสั้น

พอร์ตการลงทุนในระยะสั้น จะเป็นพอร์ตเพื่อเป้าหมายในระยะเวลาอันใกล้อย่าง 2 - 4 ปีข้างหน้า อย่างการซื้อคอนโด ซื้อบ้าน แต่งงานหรือวางแผนการศึกษา ซึ่งแม้ว่าจะได้ผลตอบแทนที่น้อยกว่าการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงก็ตาม แต่เน้นความมั่นคงมากกว่าความมั่งคั่ง

พอร์ตลงทุนระยะยาว

สำหรับพอร์ตการลงทุนในระยะยาวนี้ เป็นพอร์ตที่สำคัญที่สุด แนะนำว่าควรจะมีพอร์ตนี้ติดมือกันเอาไว้ด้วย ซึ่งพอร์ตระยะยาว จะเป็นสิ่งที่ช่วยให้ชีวิตสบายขึ้นในวัยหลังเกษียณ การลงทุนสำหรับพอร์ตนี้จึงควรเลือกกองทุนที่ต้องถือกันยาว ๆ และอาจจะผสมผสานการลงทุนอสังหาฯ หรือหุ้นบางตัวมาผสมผสานไปด้วยได้ ก็จะช่วยให้มีโอกาสทำกำไรมากขึ้นไปอีก

ติดตามพอร์ตอย่างสม่ำเสมอ

หลังจากลงทุนไปแล้วเราก็ควรติดตามพอร์ตการลงทุน ว่าเป็นไปตามที่เราคาดหวังไหม มีอะไรผิดพลาดหรือไม่แล้วเราสามารถปรับพอร์ตให้ดีขึ้นได้อย่างไรบ้าง รวมทั้งควรติดตามข่าวสาร เศรษฐกิจ สถานการณ์บ้านเมืองเพิ่มเติมเพื่อให้เราสามารถนำมาปรับใช้ในการจัดพอร์ตลงทุนของเราให้แข็งแกร่งขึ้นได้.

สำหรับใครที่มีเป้าหมายและกำลังต้องการเริ่มต้นการลงทุน การจัดพอร์ตเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ดี การจัดพอร์ตนี้จะไร้ความหมายถ้าหากว่าเราไม่เริ่มต้นลงทุนสักที รู้ตัวอีกทีเป้าหมายที่มีอาจหลุดลอยไปไกลเกินเอื้อมถึง เริ่มต้นนำ 4 วิธีที่เรานำมาฝากในวันนี้ไปปรับใช้หรือเลือกปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนจาก MoneyDuck ได้ที่ลิงก์ด้านล่าง

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกระจายความเสี่ยงการลงทุน ที่นี่