คนที่มีธุรกิจทั้งหลายฟังทางนี้เลยค่ะ ถ้าคุณเป็นเจ้าของธุรกิจที่กำลังได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด 19 ระบาดอยู่ตอนนี้บทความนี้มีวิธีที่น่าสนใจมาฝากคุณทั้งหลายให้ได้อ่านกันค่ะว่าในช่วงเวลาแบบนี้จะทำอย่างไรให้ธุรกิจของคุณไปรอดได้ การทำธุรกิจคุณคงทราบดีอยู่แล้วว่าการวางแผนนั้นสำคัญเพียงไร แล้วยิ่งธุรกิจประสบปัญหาก็ยิ่งทำให้ต้องวางแผนที่รัดกุมมากยิ่งขึ้น แต่ช่วงเวลานี้ที่ไวรัสโควิด 19 ระบาดอย่างหนักอาจจะทำให้แผนการของบางธุรกิจนั้นพังลงไปง่ายๆได้เพราะเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบในระยะยาวไม่ใช่แค่ช่วงสั้นๆซะแล้วสิ ดังนั้นเรามาดูจากบทความนี้กันค่ะว่ามี 3 วิธีอะไรที่จะช่วยให้เจ้าของธุรกิจทั้งหลายได้ปรับปรุงแก้ไขแผนการของตัวเองให้ธุรกิจนั้นสามารถอยู่รอดผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ค่ะ เช่น 1. ตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น 2. จัดสรรเงินจากธุรกิจไปฝากธนาคาร 3. มองหาโอกาสการลงทุนอื่นๆ
1. ตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
ในช่วงที่ธุรกิจไปได้สวยเงินทองไหลมาเทมาบางครั้งก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายหลายอย่างที่ไม่จำเป็นที่คุณอาจจะคิดว่าจ่ายได้ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวก็ได้เงินหมุนเวียนเข้ามาอยู่เรื่อยๆ และถึงกับได้เงินเข้ามามากขึ้นทุกๆเดือนด้วยซ้ำ แต่ช่วงที่ประสบปัญหาหนักอย่างไวรัสระบาดแบบนี้จะคิดแบบนั้นต่อไปไม่ได้อีกแล้วนะคะ ต้องเปลี่ยนความคิดทันทีและเริ่มลงมือทำเมื่อรายได้ลดลงและมีแนวโน้มว่าจะลดลงเรื่อยๆสิ่งที่คุณต้องรีบทำเลยคือ การตัดค่าจ่ายที่ไม่จำเป็นก่อนเลยให้เหลือเอาไว้แต่ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นเพื่อจะดำเนินธุรกิจต่อไปได้เท่านั้น ซึ่งนอกจากค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นที่ต้องตัดทิ้งแล้วบางธุรกิจอาจจะเป็นต้องลดค่าใช้จ่ายที่จำเป็นลงไปด้วยซ้ำ เช่น ลดต้นทุนการผลิต ลดเงินเดือนพนักงาน ลดพนักงาน ลดการใช้ไฟฟ้า ลดการใช้น้ำประปา หรืออาจจะต้องลดค่าใช้จ่ายเช่าร้านเช่าตึกด้วยการปิดร้านและเข้าสู่ตลาดออนไลน์เต็มตัวเป็นต้นค่ะ เมื่อเริ่มต้นจากการตัดและลดค่าใช้จ่ายก็จะทำให้ธุรกิจสามารถฟื้นตัวได้เร็วขึ้น และเดินหน้าต่อไปได้ไม่เจอทางตันแน่นอนค่ะ ลองนำวิธีแรกนี้ไปใช้กับธุรกิจของคุณดูนะคะในช่วงนี้
2. จัดสรรเงินจากธุรกิจไปฝากธนาคาร
ผู้เขียนมั่นใจว่าเจ้าของธุรกิจ 99% มีการนำเงินไปฝากธนาคารอยู่แล้วแน่นอนค่ะ แต่วิธีนี้ที่จะบอกจะแตกต่างออกไปนิดหน่อยถ้าคุณยังไม่ได้ทำก็ลองใช้วิธีนี้ดูนะคะ คือการนำรายได้จากธุรกิจแบ่งออกมาสัก 15 – 30 % เพื่อนำไปฝากธนาคารหรือบัญชีธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยสูงๆนั่นเองค่ะ นี่คือความต่างของการนำเงินไปฝากธนาคารปกติการฝากเงินในธนาคารการเปิดบัญชีคุณอาจจะไม่ได้ตรวจสอบว่าจะได้รับดอกเบี้ยเท่าไหร่อย่างไรก็แค่เป็นการฝากเงินธรรมดาๆเพื่อจัดการรายรับรายจ่ายของธุรกิจ แต่การฝากเงินในวิธีนี้คือก่อนฝากให้ตรวจสอบเสาะหาบัญชีธนาคารที่จะทำให้คุณได้ดอกเบี้ยสูงกว่าบัญชีธนาคารธรรมดาทั่วๆไปค่ะ แล้วจัดสรรเงินบางส่วนของรายได้ไม่ใช่ทั้งหมดนะคะไปฝากในบัญชีนั้นๆ เพื่อรับผลกำไรจากดอกเบี้ยค่ะและส่วนมากจะเป็นการฝากแบบไม่ถอนออกมาบ่อยๆนะคะ เช่นอาจจะเลือกเป็นบัญชีเงินฝากประจำค่ะ เพราะจะได้รับดอกเบี้ยสูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ทั่วไปนะคะ นี่เป็นอีกวิธีที่ง่ายๆน่าสนใจมากค่ะ
3. มองหาโอกาสลงทุนอื่นๆ
วิธีสุดท้ายท้ายสุดที่ผู้เขียนอยากจะมาบอกเจ้าของธุรกิจทุกคนให้ลองนำใช้อีกคือ การมองหาโอกาสที่จะลงทุนเพิ่มเติม จากสองวิธีที่ผ่านมานั้นจะเน้นเรื่องการเก็บออมเงินให้มากขึ้น แต่วิธีที่ 3 นี้จะต่างออกไปถึงแม้ช่วงนี้ไม่ควรจะลงทุนอะไรเลยก็ตามแต่การรอรับรายได้ทางเดียวอาจจะไม่เพียงพอ และการตัดหรือลดค่าใช้จ่ายและอดออมมากขึ้นก็อาจจะไม่เพียงพอด้วยที่จะทำให้ธุรกิจไปรอดได้ ดังนั้นการมองหาโอกาสที่จะลงทุนจึงสำคัญและต้องใช้วิธีนี้ด้วยเมื่อจำเป็นแต่ก็ต้องเป็นการลงทุนที่ศึกษาอย่างดีเพื่อลดความเสี่ยงให้น้อยที่สุดค่ะ การลงทุนที่คุณจะสามารถทำได้ในช่วงเวลาวิกฤติแบบนี้มีไม่มากอย่างเช่น การลงทุนในกองทุนรวม ลงทุนในหุ้น หรือสลากออมสินค่ะ ถึงแม้ว่าการลงทุนเหล่านี้จะเสี่ยงแต่ถ้าคุณลงทุนอย่างพอดีและอย่างฉลาดการลงทุนเหล่านี้จะสร้างรายได้ให้คุณเอามาหมุนเวียนในธุรกิจได้ค่ะแม้จะไม่มากแต่ดีกว่าไม่มีเลยนะคะ แต่ขอเตือนไม่ว่าคุณจะลงทุนอะไรควรศึกษาให้ดีก่อนค่ะแล้วรับรองว่าจะเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยแน่ๆ
วางแผนการเงินให้ธุรกิจไปรอดในช่วงโควิด 19
ธุรกิจของคุณจะไปรอดได้ไหมในช่วงโควิด 19 นี้? ถ้าคุณลองนำ 3 วิธีที่บทความนี้ไปปรับใช้ดูกับธุรกิจของคุณผู้เขียนคิดว่าธุรกิจของทุกคนมีโอกาสไปรอดได้ค่ะ แต่จะไปรอดแบบสบายๆหรือไปรอดแบบถูๆไถๆอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับรูปแบบความคิดและแผนการของแต่ละคนนะคะ เพราะเรื่องของธุรกิจไม่มีแบบแผนตายตัวทุกคนสามารถนำแนวคิดทุกอย่างไปปรับใช้กับวิธีของตัวเองได้ค่ะ แต่ยังไงก็ขอให้ 3 วิธีในบทความนี้ได้เป็นตัวช่วยและแนวทางให้เจ้าของธุรกิจทั้งหลายได้นำไปใช้กันค่ะ สถานการณ์โรคระบาดนั้นไม่รู้ว่าจะกินเวลานานแค่ไหนถ้าใครปรับตัวได้ก่อนถือว่าเป็นต่อค่ะ ใครปรับตัวได้ช้าเพราะมัวแต่ชะล่าใจอาจจะเกิดผลเสียหายได้ ดังนั้นอย่าปล่อยเวลาผ่านเลยไปนะคะลุกขึ้นมาปรับเปลี่ยนแผนการและเตรียมพร้อมกันได้แล้วแม้ธุรกิจของคุณอาจจะยังไม่ได้รับผลกระทบ หรือกระทบนิดหน่อยก็ตาม อย่ารอให้เกิดผลกระทบมากๆก่อนแล้วค่อยแก้ไขไม่อย่างอาจจะสายเกินแก้ได้ค่ะ ถ้าทำได้เริ่มวางแผนใหม่ๆตั้งแต่ตอนนี้ดีกว่านะคะทุกคน
ลูกน้ำ
คำแนะนำทั้ง 3 อย่างที่ให้มาคือ ตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น นำเงินไปฝากธนาคาร และมองหาโอกาสการลงทุนอื่นๆ ใช้ได้กับทุกคนนะคะ ไม่ใช่แค่คนที่ทำธุรกิจเท่านั้น เพราะแทบทุกคนก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน เราก็ต้องประหยัดไว้ก่อนอะไรที่ไม่จำเป็นไม่ต้องซื้อ ถ้าพอจะหารายได้เสริมได้รีบทำเลยเพราะไม่รู้ว่าโควิด-19จะอยู่กับเราอีกนานแค่ไหน
นาวา
3 วิธีนี้ดีมากเลยครับ ช่วยให้เราเห็นถึงแนวทางที่จะช่วยให้สามารถผ่านพ้นช่วงวิกฤตในช่วงโรคระบาดโคโรน่าไปได้ คิดว่าคนที่ทำธุรกิจหรือทำการลงทุนในช่วงนี้ก็เจอกับสถานการณ์คล้ายๆกัน ถึงอย่างนั้นก็มีวิธีที่จะช่วยให้เราสามารถอดทนหรือว่า ทำให้ธุรกิจของเราไปต่อได้ ช่วยให้เราที่จะรู้ว่าเราจำเป็นต้องปรับแก้ส่วนไหน แล้วต้องตรวจสอบตัวเองอยู่ตลอดเวลาเกี่ยวกับสิ่งที่ทำด้วยครับ
กล้า
ดูเหมือนตอนนี้ก็มีเวลาว่างอยู่บ้านเยอะ เนื่องจากตกงานแล้วไม่มีงานทำ ก็มีเวลาที่จะสามารถคิดคำนวณเกี่ยวกับวิธีการลดค่าใช้จ่ายในบ้านเรือนของตัวเองครับ เพราะไม่เคยคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อนใช้เงินอย่างเดียว พอตกงานในช่วงไวรัสโคโรน่านี่แหละก็ได้นั่งคิดอะไรหลายๆอย่างเกี่ยวกับตัวเอง รวมไปถึงวิธีการใช้จ่ายเงินในอนาคตด้วยว่าจะต้องเริ่มประหยัดและเก็บเงินแล้ว
Som_som
เราลองตัดใจเลิกซื้อของไม่จำเป็นอย่างเช่นพวก รองเท้า นาฬิกา เสื้อผ้า เครื่องสำอาง ตัดใจแบบไม่ซื้อจริงๆเลยนะในเดือนนั้นรวมไปถึงการซื้อของออนไลน์ที่ไม่จำเป็นเราตัดทิ้งไปหมดเลย ปรากฏว่าสิ่งที่เราทำมันดีต่อตัวเรา เรามีเงินเก็บเอาไว้ใช้ประโยชน์ในเรื่องอื่นๆได้อีก เราจะไม่เห็นคุณค่าของเงินหากเรายังไม่ได้เสียมันไป ความรักก็เช่นกันค่ะTT อ่าว! ไม่เกี่ยว!
นันทา
ใครที่มีธุรกิจเป็นของตัวเองก็จำเป็นต้องคิดถึง เกี่ยวกับวิธีที่ช่วยให้ค่าใช้จ่ายของตัวเองไม่มากเกินไปในช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดีในช่วงโคโรน่านะคะ บทความนี้ทำให้เห็นถึงวิธีที่จะช่วยเราได้โดยเฉพาะ การตัดลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป ช่วยให้เราสามารถใช้เวลาในการคิดว่ามีรายจ่ายอะไรที่ไม่จำเป็นด้วยค่ะ และยังช่วยให้เราใช้เวลากับงานของเราได้เพิ่มมากขึ้นด้วย
ตรีธาร
เราว่า ของเราจะไปรอดแบบ มีแผลเป็นเลยละคะ เราเปิดร้านอาหาร แต่ปิดร้านแบบไม่เปิดเลยมา 4เดือนแล้วคะ ขายไม่ได้เลยเลย เพราะนักท่องเที่ยว ไม่มีเลยคะ แถม ค่าเช่า ที่ก็ต้องจ่ายทุกเดือนคะ ควักเงินทุนอย่างเดียวเลยละคะตอนนี้ ค่าเช่า เดือนหนึ่งเราจ่าน ประมาณ15,000 บาทคะ คิดดูสิคะ ตอนนี้ บาดแผลที่เราเจอมันจะมากขนาดไหนตอนนี้
พัลลพ
ผมคิดว่าในช่วงสถานการณ์ covid แบบนี้สิ่งหนึ่งที่จะทำให้ธุรกิจอยู่ได้ก็คือการหาช่องทางการลงทุนในทางอื่นครับ เราไม่จำเป็นต้องทำเป็นการลงทุนแต่เราจะสามารถทำอะไรก็ได้ที่เป็นการสร้างรายได้ เข้ากับบริษัทหรือเข้ากับครอบครัวของตัวเองครับ เราก็ลองคิดดูสิครับว่าสถานการณ์แบบนี้ถ้าเรามีรายรับเข้าก็ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างหนึ่งแล้วในการช่วยธุรกิจครับ
จิรเมธ
อย่าท้อกันนะครับเพื่อนๆทุกคน เราต้องผ่านจุดนี้ไปให้ได้ครับ ช่วงเวลา 4เดือนที่ผ่านมาก็พิสูจน์แล้วใช่ไหมครับว่าเราทุกคนก็ยังอยู่รอดได้ และยังไม่ตาย ถึงแม้ว่าบางคนเกลือบตายแล้วก็ตาม ตอนนี้เราทุกคนคงมีประสบการณ์กันแล้วใช่ไหมครับ ต่อให้มันมาอีกรอบ เรามันใจว่าเราเอาอยู่แน่นอน เราเอาสิ่งที่จำเป็นก่อนครับ เรื่องอื่นค่อยว่ากัน
นิล
@ลูกน้ำ ใช่เพราะว่าทุกคนก็ได้รับผลกระทบจากโควิดเหมือนกัน ไหนจะค่าใช้จ่ายปกติทุกวันที่ต้องจ่ายแล้วก็ในจะค่านู่นค่านี่ยิ่งตอนนี้เรารู้สึกว่าจะต้องเสียค่าอะไรเพิ่มขึ้นเพราะธุรกิจไม่กระเตื้องเลย ต้องเช่าที่สำหรับทำธุรกิจต่อไปด้วยคิดว่าถ้าเป็นอย่างนี้อีกสัก 5-6 เดือนเขาจะไม่ไหวแล้วต้องหยุดก็คิดที่ทำมาหลายสิบปีเราเองก็เครียดจริงๆไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้ น่าจะดีกว่าถ้ารู้ไว้ก่อนนะจะได้วางแผนแล้วก็เตรียมตัวที่จะรับกับสถานการณ์ที่หนักๆขนาดนี้
สัมฤทธิ์
เห็นด้วยเลยนะครับ ที่บอกว่ารูปแบบแผนธุรกิจของแต่ละคน ไม่เหมือนกันครับ ดังนั้น คนหนึ่งอาจจัดการได้ดีกว่าอีกคนแน่นอนครับ แต่เรื่องหนึ่งที่ผมเห็นว่าเป็นประโยชน์ในบทความนี้คือ เราต้องเชคครับว่ามีค่าใช้จ่ายตตรงไหนบ้างที่เราจ่ายโดยไม่ควรจ่ายครับ อย่างผม มีอินเตอร์เน็ตที่ออฟฟิตครับ ผมเลยยกเลิกเน็ตในมือถือครับ ก็ช่วยได้เยอะเลยจริงๆนะครับ
Monree
@สัมฤทธิ์ ฉันเองก็ทำคล้ายๆกันนะคะ พยายามจะตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นต่างๆทั้งของตัวเองแล้วก็ของธุรกิจ พอเริ่มตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นก็ทำให้ประหยัดไปได้เยอะเหมือนกันนะคะ เหมือนกับที่คุณบอกว่ายกเลิกค่าอินเทอร์เน็ตรายเดือนของโทรศัพท์ ส่วนดิฉันเลือกที่จะยกเลิกอินเทอร์เน็ตที่ร้านค้าค่ะเพราะว่าไม่ได้ขายหน้าร้านแล้ว