บทความก่อนหน้าผมได้พูดถึง 3 อาชีพที่อยู่ในลำดับแรกของอาชีพใกล้ตัวที่เราไม่สามารถได้รับความคุ้มครองจากการทำประกันได้ครับ ในบทความนี้ก็จะพูดถึงอีก 3 อาชีพต่อมา ที่บริษัทประกันไม่ให้ความคุ้มครอง สาเหตุเนื่องมาจากความเสี่ยงของอาชีพเหล่านี้ที่มีสูงมากจนเกินไป ทำให้บริษัทประกันไม่สามารถที่จะเข้ามารับความเสี่ยงเหล่านั้นแทนได้ และมองว่าผู้ที่เลือกทำงานอาชีพเหล่านี้จำเป็นจะต้องรับความเสี่ยงด้วยตัวเองครับ

​ อาชีพเก็บขยะ

​ อาชีพเก็บขยะ

ถือว่าเป็นอาชีพที่ไม่ได้มีคนต้องการจะทำมากนักครับ ต้องค่อนข้างที่จะมีความเป็นจิตอาสาอยู่พอสมควรครับ เนื่องจากถือว่างานนี้เป็นงานที่ต้องอาศัยความเสียสละ ถึงแม้ว่าจะได้เป็นพนักงานของหน่วยงานรัฐ ทำงานขึ้นตรงกับเทศบาลหรือหน่วยงานท้องถิ่น ซึ่งจะทำให้ได้รับสวัสดิการบางอย่าง แต่เป็นอาชีพหนึ่งที่ไม่สามารถได้รับความคุ้มครองจากการทำประกันได้ครับ

สาเหตุน่าจะมาจากความเสี่ยงในเรื่องของสุขภาพเป็นส่วนใหญ่ครับ เนื่องจากมีความเสี่ยงในเรื่องของเชื้อโรคจากเศษขยะ รวมไปถึงสารเคมีที่อาจจะมาจากขยะที่ไปเก็บมา รวมไปถึงอาจจะมีเศษขยะที่อันตรายที่อาจจะทำให้เกิดบาดแผลได้อย่างเช่นเศษแก้ว ลวด หรือเศษโลหะที่มีคมอื่นๆ ซึ่งเมื่อได้รับบาดแผลก็มีสิทธิ์ที่จะติดเชื้อเข้าไปในบาดแผลนั้นเพิ่มมากขึ้นไปอีกด้วยครับ ทำให้มีโอกาสที่จะป่วยจากเชื้อโรคได้ค่อนข้าง​สูง​เลยที่เดียวครับ นอกจากนั้นบรรยากาศในการทำงานก็มีผลต่อสุขภาพด้วยเหมือนกันครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของฝุ่นละอองหรือควัน ที่มาสูดเข้าไปมากๆ ก็จะส่งผลต่อสภาพร่างกาย ทำให้สุขภาพแย่ลง ซึ่งทำให้ร่างกายอ่อนแอและในที่สุดก็จะมีอาการป่วยบ่อยๆตามมาด้วย และดูเหมือนหลายคนที่ทำงานมาเป็นระยะเวลานานแล้ว เริ่มคุ้นชินกับสภาพแวดล้อม ก็จะเริ่มมีความประมาทด้วย อย่างเช่นไม่ได้ใส่หน้ากากหรือถุงมือระหว่างทำงาน มันก็ยิ่งทำให้มีโอกาสมากยิ่งขึ้นครับที่จะติดเชื้อเข้าไปในบาดแผลหรือตามผิวหนังได้ง่าย ดังนั้นเมื่อมองจากปัจจัยด้านความเสี่ยงที่สูงมาก ทำให้ประกันสุขภาพไม่สามารถที่จะให้ความคุ้มครองกับอาชีพคนเก็บขยะได้ครับ

​ เกษตรกร

​ เกษตรกร

ก็เป็นอีกหนึ่งอาชีพครับที่ผมมองดูแล้วว่าสามารถประกอบอาชีพนี้ได้โดยไม่ต้องเรียนจบสูงๆ เนื่องจากหลายคนที่ไม่ได้เรียนจบสูงก็สามารถเป็นเกษตรกรได้เมื่อมีที่นาเป็นของตัวเอง หรือมีไร่มีสวนที่สามารถที่จะประกอบอาชีพนี้ได้ อาจจะได้รับมาจากมรดกตกทอด หรือซื้อที่ดินต่อมาจากคนอื่น และสามารถที่จะหาความรู้ได้จากแหล่งการศึกษาหลายอย่าง ซึ่งไม่เฉพาะแต่ที่โรงเรียนเท่านั้นครับ อย่างเช่นว่าอาจจะมีประสบการณ์ที่ได้รับมาจากปู่ย่าตายายหรือพ่อแม่ที่ทำอาชีพเกษตรกรมาก่อน หรืออาจจะไปถามจากเกษตรกร เก็บข้อมูลมาทดลองเองก็ได้ และอาชีพเกษตรกรก็มีด้วยกันหลายอย่างด้วยครับ

เมื่อพูดถึงเรื่องความเสี่ยงที่เกษตรกรจะได้รับ มาจากการใช้สารเคมีเป็นหลักครับ เนื่องจากมีการทำเกษตรในปัจจุบันมักต้องพึ่งสารเคมีเข้ามาช่วยเพื่อใช้กำจัดแมลงหรือวัชพืชที่เป็นศัตรูพืช รวมไปถึงอาจต้องมีการใช้ยาเพื่อกระตุ้นฮอร์โมนของพืชหรือสัตว์ด้วยครับ ซึ่งผลที่ตามมาก็คือปัญหาเรื่องสุขภาพของเกษตรกรครับ เนื่องจากสารเคมีเหล่านี้จะสามารถได้รับผ่านทางการสูดดมเข้าไปในร่างกาย หรือจากการสัมผัสและเข้าไปตามผิวหนังเข้าสู่ร่างกาย แล้วด้วยความที่ต้องทำงานอยู่ตลอดเวลา ก็ทำให้ได้รับสารเคมีเหล่านี้เข้าไปในร่างกายเป็นประจำครับ และส่งผลให้สารเคมีเหล่านี้ก็เข้าไปสะสมในร่างกาย จนส่งผลต่อสุขภาพในที่สุดครับ แล้วพูดถึงว่าเกษตรกรส่วนใหญ่ก็มักไม่ค่อยใส่ใจคำแนะนำในการใช้สารเคมีด้วย อย่างเช่นไม่ได้มีเครื่องป้องกัน อย่างเช่นหน้ากากหรือถุงมือ รวมไปถึงชุดนานๆที่ใส่เพื่อป้องกันสารเคมี ซึ่งเป็นมาตรการที่ทางต่างประเทศเข้มงวดอย่างมากครับ แต่ในประเทศเรารู้สึกว่าจะไม่ค่อยเข้มงวดกับมาตรการด้านความปลอดภัยนี้สักเท่าไหร่ เนื่องจากในพื้นที่การทำงานส่วนมากจะเป็นพื้นที่ส่วนตัวครับ ทำให้ดูยิ่งอันตรายต่อสุขภาพขึ้นไปอีกครับ ทำให้ก็เป็นอีกหนึ่งสายงานอาชีพที่ประกันสุขภาพไม่สามารถให้ความคุ้มครองได้เมื่อประเมินจากความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นต่อสุขภาพของคนทำงานอาชีพนี้ครับ

​ คนขับรถบรรทุก

​ คนขับรถบรรทุก

สาเหตุที่ประกันอุบัติเหตุไม่ให้ความคุ้มครองกับอาชีพคนขับรถบรรทุก น่าจะมาจากเรื่องของสถิติครับ เพราะตามสถิติที่รายงานออกมาจะพบว่าอัตราการเสียชีวิตของคนขับรถบรรทุกและการเกิดอุบัติเหตุสูงติดอันดับ 1 ใน 10 เลยทีเดียว ซึ่งน่าจะมาจากความที่พนักงานขับรถบรรทุกส่วนใหญ่ใช้รถด้วยความประมาท รวมถึงหลายคนมักดื่มแอลกอฮอล์และขับเร็วเกินกำหนดด้วย และด้วยความที่รถบรรทุกเป็นประเภทรถที่ควบคุมได้ยากเมื่อใช้ความเร็วเกินกำหนด ทั้งการเบรคและการเข้าโค้ง จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย และอุบัติเหตุแต่ละครั้งก็ค่อนข้างที่จะร้ายแรง ซึ่งทำให้เกิดการเสียชีวิตแทบจะทุกครั้งครับ ไม่คนขับก็เป็นคู่กรณีที่ตาย รวมไปถึงรถบรรทุกบางคันก็บรรทุกของที่อันตรายอย่างเช่นก๊าซไวไฟ ซึ่งทำให้ดูเสี่ยงมากครับที่บริษัทประกันจะให้ความคุ้มครองเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ดังนั้นบริษัทประกันจึงไม่สามารถทำประกันอุบัติเหตุให้กับอาชีพคนขับรถบรรทุกได้ครับ

​ ยิ่งเสี่ยงมากยิ่งต้องระวังให้มาก

​ ยิ่งเสี่ยงมากยิ่งต้องระวังให้มาก

การที่บริษัทประกันไม่เข้ามารับความเสี่ยงแทนคนที่ทำอาชีพเหล่านี้ทำให้เราเห็นแล้วครับว่าอาชีพเหล่านี้มีความเสี่ยงที่สูงมากจริงๆ ดังนั้นแล้วผมจึงอยากให้คนที่ทำอาชีพเหล่านี้ใส่ใจเป็นพิเศษในเรื่องของความปลอดภัยครับ เขาไม่ประกันเราเราก็ต้องประกันตัวเองไว้ก่อนนะครับ