หลังจากไวรัสโควิด 19 เริ่มระบาดไปทั่วโลก ประชาชนทุกอาชีพเริ่มได้รับผลกระทบทันที! เนื่องมาจากมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม เพื่อนๆคงจะจำความรู้สึก และบรรยากาศตอนนั้นได้ดีใช่มั้ยคะ? เราได้ยินข่าวกรอกหูทุกวันว่า อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ! ประโยคนี้แหล่ะ ที่ทำให้คนตกงาน ธุรกิจปิดกิจการ โรงแรม ร้านอาหาร ถูกสั่งให้ปิด เศรษฐกิจในประเทศเริ่มถดถอยลงเรื่อยๆ ผู้คนหันมาประหยัดและรัดเข็มขัดกันจนแน่น แต่ที่แย่ขึ้นไปอีกก็คือคนที่มีหนี้ จากบัตรเครดิต และจากสินเชื่อที่ไม่มีหลักค้ำประกันนี่สิ! จะทำยังไงดี?
ไม่ต้องกังวลไปค่ะ มีข่าวดี! ตั้งแต่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้มีมาตรการช่วยเหลือเยียวยาลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด โดยมีโครงการคลินิคแก้หนี้ขึ้นมาด้วยใช้ 2 สูตร คือ การลดดอกเบี้ย และการพักชำระหนี้ จากมาตรการนี้ทำให้ลูกหนี้เริ่มรู้สึกผ่อนคลาย ลดความกังวลลงไปได้เยอะ ตั้งแต่เดือน เมษายน-กันยายนที่ผ่านมา มาตรการนี้ให้ช่วยลูกหนี้ได้อย่างดีจนเป็นที่พอใจ และช่วยลดภาระของลูกหนี้ได้เยอะ ทำให้ทางธนาคารแห่งประเทศไทยได้เริ่มดำเนินโครงการคลินิคแก้หนี้ต่อไปอีกถึง กลางปี 2564
ในบทความนี้ดิฉันนำข้อมูล ของคลินิคแก้หนี้รอบ 2 มาฝากให้เพื่อนๆได้ติดตามอีกครั้งหนึ่งค่ะ โดยจะขอเริ่มที่ จุดประสงค์ของโครงการแก้หนี้คืออะไร? สูตรลดดอกและพักหนี้เป็นอย่างไร? และใครบ้างที่ได้รับประโยชน์จากการลดดอก และพักหนี้บ้าง? ดิฉันหวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์และลดความกังวลให้กับเพื่อนๆที่เป็นหนี้อยู่ในขณะนี้ได้อย่างแน่นอนค่ะ ขอเพื่อนๆอ่านแต่ละหัวข้อไปพร้อมๆกันเลยค่ะ
จุดประสงค์ของคลินิกแก้หนี้
หลังจากที่ทาง ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้มีโครงการ คลินิกแก้หนี้ออกมาในช่วงเมษายนถึงกันยายน 2563 ผลดำเนินการออกมาอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ทำให้ลูกหนี้ส่วนใหญ่ ประมาณ 94 % สามารถชำระค่างวดได้อย่างต่อเนื่อง โดยที่มีลูกค้าถึง 70% สามารถชำระได้ครบ และมีเพียง 24% เท่านั้นที่สามารถชำระได้บางส่วน
การการใช้สูตร 2 คือลดดอกเบี้ยให้ 2% สูตรนี้ของคลินิคแก้หนี้เป็นสร้างแรงจูงใจให้กับลูกหนี้ได้เป็นอย่างดี และสามารถตอบโจทย์ได้ทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้ไปพร้อมๆกันเพราะว่าลูกหนี้สามารถชำระได้เรื่อยๆเป็นการลดความกังวลให้กับสถาบันการเงินในด้านสภาพคล่องทางการเงินได้
สูตร 1 การพักชำระหนี้โดยมีการเลื่อนการชำระหนี้ออกไปอีก 6 เดือนสำหรับคนที่จ่ายไม่ไหวจริงๆ ซึ่งทาง ธปท ก็ถือว่าไม่เป็นการผิดนัด และไม่เสียประวัติด้วยค่ะกลุ่มนี้มีเพียง 6% เท่านั้น !
แต่ตามที่เรารู้กันดีว่าตอนนี้เศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มที่ไม่ชัดเจนมากนักและยังมีความไม่แน่นอนอยู่สูงเพราะว่ายังไม่สามารถควบคุมการระบาดของโรคไวรัส Covid ได้ ประชาชนก็ยังเจอปัญหากับการทำมาหากินอยู่ ไหนจะรับมือกับความกังวลเรื่องการติดเชื้อ จะออกจากบ้านแต่ละครั้งต้องระวังและป้องกันตัวเองอย่างดี เพื่อช่วยประชาชนให้ดูแลรักษาสุขภาพของตัวเองและครอบครัวก่อนเป็นอันดับแรก และช่วยลดความกังวลกับหนี้บัตรเครดิตอยู่ให้สบายใจขึ้น
ทางโครงการจึงมีการขยายมาตรการช่วยเหลือออกไปอีกจนถึงเดือนมิถุนายน 2564 แต่ได้มีการปรับปรุงแนวทางการช่วยเหลือดีขึ้นโดยปรับให้ตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งโครงการนี้ก็จะมีการติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจไปเป็นระยะๆและพิจารณาถึงผลกระทบที่ส่งผลต่อความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้เป็นหลักค่ะ
ลดดอกและพักหนี้สูตรนี้เป็นอย่างไร?
สำหรับลดดอก และพักหนี้ สูตรใหม่นี้มีการปรับให้ตรงจุด และมีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อรองรับกับความไม่แน่นอนของสภาพเศรษฐกิจในอนาคต เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันทำให้เห็นว่ายังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ กว่าจะกลับมาฟื้นตัวได้เหมือนเดิมอาจจะต้องใช้เวลาค่อนข้างนานพอสมควร ทางโครงการคลินิคแก้หนี้จึงเล็งเห็นว่าต้องปรับปรุงและขยายความช่วยเหลือออกไปอีก จนถึงเดือนมิถุนายน 2564 ค่ะ
สูตรแรกคือ เลื่อนการชำระค่างวด ออกไปอีกเหมาะสำหรับคนที่จ่ายไม่ไหว! และสูตรที่ 2 ลดดอกเบี้ยเพิ่มให้อีก 1-2% เป็นการลดภาระการผ่อนให้กับลูกหนี้ซึ่งทำให้ลูกหนี้สามารถจ่ายค่างวดได้อย่างต่อเนื่อง โดยดอกเบี้ยที่ลดจะมีการนำไปตัดเงินต้นทำให้หนี้หมดไวขึ้น เท่ากับว่า ยิ่งจ่ายมาก ยิ่งได้ลดมาก!
โดยจะมีการลดดอกเบี้ยให้ 1% สำหรับลูกค้าที่ชำระค่างวดเฉลี่ย 40-79.99%, และลดดอกเบี้ยให้ 2% สำหรับการชำระค่างวดเฉลี่ย 80% ขึ้นไป และในช่วง 9 เดือนนี้ถ้ามีการชำระค่างวดเกิน 40% โครงการคลินิคแก้หนี้จะมีการผ่อนปรนให้โดยลดดอกเบี้ยให้ 1-2% ค่ะ
ลดดอกและพักหนี้มีใครได้รับประโยชน์?
มาตรการลดดอกเบี้ยและการชำระหนี้ของคลินิคแก้หนี้หนี้ให้สิทธิเฉพาะผู้ที่มีบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันเท่านั้นนะคะ ไม่รวมหนี้ผ่อนบ้าน ผ่อนรถค่ะ ซึ่งมาตรการนี้มีคน 2 กลุ่มที่ได้รับประโยชน์อย่างแท้จริงค่ะ
กลุ่มแรก
ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงเนื่องจากรายได้ลดลง บางคนตกงาน ทำให้มีปัญหาทางการเงินเต็มๆ เพราะไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามที่กำหนด หรับคนกลุ่มนี้ถ้าไม่ได้รับความช่วยเหลือจะกลายเป็นหนี้เสียทันที สำหรับความช่วยเหลือที่เหมาะกับกลุ่มนี้ ต้องใช้สูตรแรก คือการพักชำระหนี้ค่ะ ลูกค้าจะต้องเข้าโครงการโดยลงทะเบียนเพื่อขอใช้สิทธิตามมาตรการนี้ที่เว็บไซต์และกรอกข้อมูลขอเข้ามาตรการโดยแสดงความจำนงด้วยตัวเองภายเพราะรอบนี้จะไม่ได้รับสิทธิอัตโนมัติเหมือนรอบแรกนะคะ รีบๆหน่อยก็ดีค่ะ เพราะจะหมดเขตภายในเดือนพฤศจิกายน 2563 นี้แล้วนะคะ!
กลุ่มที่ 2
กลุ่มนี้จะเป็นลูกหนี้ที่ยังสามารถชำระค่างวดได้ ซึ่งทางโครงการได้สนับสนุนให้ชำระหนี้ตามกำลังจะจ่ายเท่าไหร่ก็ได้ แต่ขอให้จ่ายแบบต่อเนื่อง โดยการใช้สูตรที่ 2 คือ การลดดอกเบี้ย 1-2 % เพื่อเป็นแรงจูงใจ จะมีการนำส่วนลดดอกเบี้ยไปตัดเงินต้นให้แน่นอนว่าจะทำให้ยอดหนี้หมดเร็วขึ้นนั่นเอง.
คลินิกแก้หนี้ช่วยลดภาระหนี้ให้เบาลง
เพื่อนๆรู้สึกยังไงกันบ้างคะ? กับมาตรการสูตรใหม่ของคลินิคแก้หนี้ที่ออกมาขยายเวลาออกไปอีกจนถึงเดือนมิถุนายน 2564 ดิฉันคิดว่าช่วยเราได้อย่างมากเลยโดยเฉพาะในปีนี้! เพราะไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าจะเจอปัญหาทางการเงินแบบไม่ทันตั้งตัวแบบนี้ ไม่ว่าใครเมื่อเป็นหนี้ก็อยากจะผ่อนให้มันจบๆใช่มั้ยคะ? จะได้กินอิ่ม นอนหลับ ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง แต่ถ้ามันไม่ไหวจริงๆ คลินิคแก้หนี้นี่แหล่ะ! แหล่งแห่งความช่วยเหลือในปีนี้ ถ้าพอจะผ่อนไหวก็ทยอยผ่อนไปเท่าไหร่ก็ได้จะมีส่วนลดดอกเบี้ยให้ แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆก็ขอพักหนี้และไปหายใจก่อนก็ทำได้ สะดวกแบบไหนคลินิกแก้หนี้ช่วยคุณได้เสมอค่ะ!
หมีน้อย
พอกำลังหาข้อมูลเรื่องนี้อยู่พอดีเลยขอบคุณที่ทำบทความดีๆแบบนี้ขึ้นมานะฉันคิดว่าฉันอยากจะรู้เรื่องนี้มากขึ้นเพราะว่าตอนนี้ตกงานแล้วก็มีปัญหาทางการเงินจริงๆค่ะไม่สามารถชำระหนี้ตามกฎหมายกำหนดไว้แต่ว่าก็ดีที่ไม่ได้เป็นหนี้กับนายทุนข้างนอกเป็นหนี้ในระบบก็เลยตอนนี้กำลังดำเนินการพักชำระหนี้แล้วก็ช่วยลดภาระหนี้ด้วยแต่ก็ที่จริงยังไม่เข้าใจทั้งหมดเพราะได้อ่านบทความนี้ก็เลยได้เข้าใจมากขึ้นขอบคุณนะคะ
ขนิฐฐา
เรื่องการขอพักชำระหนี้เป็นเรื่องที่เราหลายคน หันมาให้ความสนใจกันเยอะมากเลยนะคะ ในช่วงนี้ ตัวของเราเองก็กำลังวางแผนที่จะขอพักชำระหนี้ด้วยคะ ตอนนี้เราต้องจ่านค่ารถยนต์ + ค่าผ่อน บ้าน ที่เราต้องจ่ายทุกๆเดือนอยู่ที่ประมาณหมื่นต้นๆคะ ถ้าได้พักชำระหนี้ในช่วงนี้ก็น่าจะดีมากเลยคะ เอาให้ผ่านช่วงนี้ไปให้ได้ก่อนแล้วค่อยกลับไปจ่ายเหมือนเดิมคะ
Monree
มีจริงหรอคะคลินิกแก้หนี้ ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย ถ้ามีจริงๆก็จะดีใจมากค่ะ ดิฉันเองไม่ได้เป็นหนี้ แต่ก็มีคนรู้จักหลายคนที่กำลังอดทนใช้หนี้อยู่ ถ้ามีทางออกหรือทางช่วยตามที่บทความนี้แนะนำมาก็ดีนะคะ เรื่องหนี้สินเนี่ย ใครที่ติดกับดับไปแล้วก็จะปลดล็อคตัวเองยากหน่อยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นหนี้ ดีหรือหนี้เสียก็ตาม คือเป็นหนี้ที่จำเป็นหรือไม่จำเป็นก็ตาม
แมวเหมียว^_^
คลินิคแก้หนี้ก็เข้าร่วมโครงการการพักชำระหนี้ด้วย ตอนนี้ก็จบโครงการไปแล้วสิคะ หรือว่ามีต่ออายุให้อีก มีใครทราบเรื่องนี้บ้างอะคะ ก็รู้ว่าเขาให้พักชำระหนี้มานานแล้วแต่หลายคนก็อาจจะยังไม่ค่อยฟื้นตัวจากการทำงานเพื่อหารายได้หรือการทำธุรกิจของตัวเองมากนัก เรียกว่าหลายคนยังลำบากกันอยู่ ยังไงก็พยายามและอดทนกันนะคะ
ผานิต
เข้ามาอ่านแล้วยิ่งท้อเลยครับ โครงการแบบนี้น่าจะมีมาเรื่อยๆนะครับ ไม่ใช่ว่าจะมาจบง่ายๆแบบนี้ โควิด-19 ตอนนี้ทำให้ลูกหนี้หลายคน ขาดการส่ง มาหลายงวดแล้ว นี่ถ้าสามารถออกโครงการช่วยเหลือแบบนี้ออกมาได้อีก คิดว่ารอบนี้หลายๆคนจะต้องเข้าไปใช้บริการโครงการนี้แน่นอนครับ หนึ่งในกลุ่มคนที่ว่า ก็น่าจะมีผมติดเข้าไปด้วยละครับ
Amnat847
คลินิคแก้หนี้ขยายเวลาออกไปอีกจนถึงเดือนมิถุนายน 2564 ตอนนี้คือจบโครงการไปแล้วเหรอครับ ถ้าไม่ได้มีโครงการนี้ต่อ แล้วคนที่เป็นลูกหนี้ต้องทำยังไงอะครับ มีโครงการหรือทางอื่นในการช่วยคนที่เป็นหนี้แบบที่โครงการคลินิคแก้หนี้เคยทำมั้ย เคยอ่านข้อมูลของโครงการนี้มาบ้าง เป็นทางออกของคนที่เป็นหนี้หลายเจ้าได้ดีนะครับ
พรรณภา
ง่ายนิดเดียวนะคะพี่ถ้าโครงการนี้ไม่ได้ดำเนินงานต่อในปี65 คนก็จะเป็นหนี้กันเยอะมากขึ้นแล้วไม่มีที่จะคอยแก้หนี้เสียแบบนี้พี่เตรียมรอชมเลยคะว่าคนไทยในปี65จะต้องออกมาขายทรัพย์สินของตัวเองเยอะกว่าปีนี้แน่นอนคะ ยอมขายของที่ตัวเองรักเพื่อเอามาปลดภาระหนี้สิน คิดแล้วยิ่งเครียดเลยคะ บ้านเราแย่ลงเรื่อยๆอย่างเห็นได้ชัดเลย