ประเทศที่อยู่ในสมาคมอาเซียนทั้งหมดก็คือ เพื่อนบ้านใกล้เคียงกับเราทั้งนั้นแต่ประเทศที่เรามักจะได้ยินบ่อยๆ และคุ้นเคยกันดีก็คือ พม่า ลาว เวียดนาม กัมพูชา และมาเลเซีย ซึ่งประเทศเหล่านี้มีชายแดนที่ติดกันกับประเทศไทยของเราค่ะ และถ้ามองไปในทางด้านเศรษฐกิจนอกจากประเทศเหล่านี้จะเป็นเพื่อนบ้านของเราแล้วก็ยังเป็นคู่แข่งทางด้านเศรษฐกิจของประเทศไทยเราด้วย เพราะมีสินค้า ภูมิประเทศ สถานที่ท่องเที่ยว บรรยากาศที่คล้ายคลึงกันมากๆ แล้ะตามหัวเรื่องประเทศเวียดนามดูจะมาแรงมากกว่าใครๆในเรื่องการแข่งขันทางด้านเศรษฐกิจกับประเทศไทยของเราค่ะ จึงเป็นสิ่งที่เราในฐานะคนไทยต้องติดตามเพราะจส่งผลกระทบต่อเราแน่นอน ไม่ว่าจะเรื่องการส่งออกสินค้าหลักๆ เช่น ข้าว หรือในเรื่องของธุรกิจการท่องเที่ยวด้วยค่ะ และเรื่องของการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ ตอนนี้ประเทศเวียดนามก็เป็นประเทศที่นักลงทุนให้ความสนใจเข้าไปลงทุนอย่างมากไม่แพ้บ้านเราเลย เราต่างหากที่อาจจะดรอปลงไปแล้ว เพราะสถานการณ์บ้านเมืองหรือปัจจัยอื่นๆ แต่เวียดนามกลับมาความมั่นคงเข้มแข็งมากกว่าค่ะ

ดังนั้นทิศทางทางด้านเศรษฐกิจของประเทศเวียดนามจึงมีผลกระทบโดยตรงและเต็มต่อประเทศไทยจะไม่สนใจไม่ได้แล้วนะคะ บทความนี้มาให้ข้อมูลแนวโน้มทางเศรษฐกิจของประเทศเวียดนามว่าเป็นแบบไหนบ้างให้คุณได้ทราบกันค่ะ อย่างเช่นเรื่องต่อไปนี้คือ ตลาดและแรงงาน / กฎหมายและทรัพยากร / หุ้นส่วนและโอกาสการเจรจา เรามาดูเรื่องเหล่านี้กันค่ะไม่ใช่เพื่อเปรียบเทียบเท่านั้นแต่เพื่อนำมาพัฒนาบ้านเราด้วยนะคะ

ตลาด และแรงงาน

ตลาด และแรงงาน

ตลาดการค้าของเวียดนามนั้นสามารถรองรับกับต่างชาติได้อย่างดี การที่ต่างชาติจะเข้ามาลงทุนในตลาดของเวียดนามนั้นง่ายดายมาก มีการเปรียบเทียบว่าง่ายดายเหมือนกับการลงทุนในตลาดการค้าของสิงคโปร์เลยทีเดียว ดังนั้นเวียดนามจึงเป็นแหล่งการลงทุนที่ต่างชาติจ้องจะไปลงทุนให้ได้ และกลายเป็นทำเลการค้าที่น่าสนใจเพราะยังเปิดรับอะไรใหม่มากมายและยังมีพื้นที่อีกมาให้นักลงทุนสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ต่างจากประเทศไทยที่ดูเหมือนจะเต็มแน่ไปหมดแล้วค่ะ และที่บอกว่าง่ายก็เพราะว่าข้อจำกัดของเงื่อนไขการลงทุนในประเทศเวียดนามนั้นต่ำมากจึงเปิดกว้างให้อิสระกับนักลงทุนมากกว่าค่ะ

แรงงานของเวียดนามก็เป็นที่นิยมอย่างมากเพราะอะไร? เพราะว่าค่าแรงงานของประเทศเวียดนามนั้นถือได้ว่าถูกที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆในกลุ่มอาเซียน และแรงงานบุคลากรก็มีอายุต่ำกว่า 30 ปี ซึ่งเป็นช่วงวัยทำงานที่เป็นที่ต้องการมากเพราะมีแรงในการทำงานได้ยามนานมากกว่าวัยอื่นๆค่ะ ซึ่งเหตุผลนี้ทำให้ผลงานของแรงงานแบบนี้มีคุณภาพและน่าสนใจมากกว่าค่ะ ส่วนประเทศไทยของเราก็ถือว่ามีค่าแรงที่สูงกว่าเป็นและมีผู้สูงอายุมากกว่า เป็นเหตุผลที่ประเทศไทยมีแรงงานชาวพม่ามากขึ้นทุกๆปีค่ะจึงส่งผลต่อคุณภาพของงานด้วยค่ะ

กฎหมาย และทรัพยากร

กฎหมาย และทรัพยากร

กฎหมายของเวียดนามเกี่ยวด้วยเรื่องการค้าการลงทุนก็ออกมาแบบที่อำนวยความสะดวกต่อนักลงทุนชาวต่างชาติมากๆเลย ซึ่งเวียดนามได้ออกกฎหมายนี้มาตั้งแต่ปี 2558 แล้ว ซึ่งตรงเวลาพอดีที่ชาวต่างชาติกำลังหาพื้นที่การลงทุนที่ใหม่ และกฎหมายนี้ช่วยให้ผู้ประกอบการมีอิสระในการลงทุนเพราะกฎหมายมีความยืดหยุ่นมากกว่าช่วยลดความเสี่ยงให้แก่นักลงทุนด้วย เป็นอย่างนี้แล้วนักลงทุนคงไปไหนไม่รอดแน่ๆ

ทรัพยากรของประเทศเวียดนามบอกได้เลยว่าไม่ต้องห่วง มีทรัพยากรที่เหมือนมากกับประเทศไทยของเราและที่เหนือกว่าประเทศไทยเรานั้นก็คือ ทรัพยากรของเขายังคงอุดมสมบูรณ์อย่างมาก ทั้งสภาพอากาศ และยังมีนำมันและก๊าซธรรมชาติด้วย เรียกได้ว่าทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์แบบนี้แหละที่เป็นที่ต้องการมากๆและทำให้เกิดการลงทุนในทรัพยากรเหล่านี้ซึ่งมีให้เลือกมากมายเลยค่ะ เมื่อมองดูบ้านเราก็ดูเหมือนทรัพยากรเริ่มจะหมดลงแล้ว

หุ้นส่วน และโอกาสการเจรจา

หุ้นส่วน และโอกาสการเจรจา

หุ้นส่วนทางเศรษฐกิจของประเทศเวียดนามก็น่าสนใจเพราะจะได้รับผลตอบแทนที่ดี ซึ่งมีแนวทางการค้าคือ หุ้นส่วนภาคแปซิฟิก ซึ่งเวียดนามได้ส่งออกสิ่งทอไปยังประเทศในกลุ่มสมาชิกอาเซียนและมีแนวโน้มว่าจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่ออุตสหกรรมในด้านนี้ของประเทศเวียดนามมากๆ และยังมีการเปิดโอกาสที่กว้างให้นักลงทุนชาวต่างชาติสามารถร่วมลงทุนกับภาครัฐได้ด้วยโดยจัดการประมูลขึ้นหลายรายการค่ะ ซึ่งนักลงทุนสามารถซื้อขายได้ก็มีดังนี้ คือ กระทรวงต่างๆ รัฐวิสาหกิจ ภูมิภาคและจังหวัด ทำให้เกิดการลงทุนในหลายรูปแบบมากกว่าพื้นที่อื่นๆค่ะ

การเจรจาของประเทศเวียดนามทางด้านการค้านั้นก็มีความกว้างไกลมากขึ้น ล่าสุดมีการเจรจาทางการค้ากับประเทศสมาชิกของ EU ด้วยค่ะ ทำให้ประเทศเวียดนามได้เปิดทำการค้าเสรีอย่างเต็มตัวเพื่อเป็นคู่แข่งเต็มของไทยเลยก็ว่าได้ และคงจะไปได้สวยและรวดเร็วด้วยเพราะมีความพร้อมทางด้านผลผลิตค่ะ

เศรษฐกิจของเวียดนามจะดีหรือไม่ดีมีผลต่อประเทศไทย

เศรษฐกิจของเวียดนามจะดีหรือไม่ดีมีผลต่อประเทศไทย

จากข้อมูลที่ได้บอกมาก็เห็นได้เลยว่าแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศเวียดนามนั้นไปในทางที่ดี ทางบวก และมีความมั่นคงเข้มแข็งมากๆ พร้อมกับการเติบโตที่รวดเร็ว มาแรงแซงโค้ง มากเลยค่ะซึ่งส่วนใหญ่แล้วเงินสนับสนุนก็มาจากการลงทุนของนักลงทุนชาวต่างชาตินั่นเอง และถึงแม้ประเทศไทยกับเวียดนามจะเป็นคู่แข่งกันแต่ก็ต้องพึ่งพาอาศัยกันจึงได้มีการจับมือกันทำสัญญาทางการค้าต่อกันเพื่อจะช่วยดึงดูดนักลงทุนที่เข้าไปในประเทศเวียดนามให้เข้ามาในประเทศไทยด้วย และดึงดูดนักลงทุนที่เข้ามาในประเทศไทยให้เข้าไปในประเทศเวียดนามด้วยนั่นเอง และการลงทุนที่พึ่งพากันและแบ่งปันในเรื่องของการส่งออกสินค้าร่วมด้วยค่ะ ดังนั้นคุณคงจะเห็นแล้วว่าไม่ว่าทิศทางทางเศรษฐกิจของประเทศเวียดนามจะเป็นอย่างไรจะมีผลต่อประเทศไทยแน่นอนค่ะ