สำหรับคนไทยที่อยู่ต่างประเทศ หรือ จะอยู่ภายในประเทศไทยแล้วชอบเที่ยวต่างประเทศก็ได้ ในบทความนี้ผมจะมาแนะนำวันดีๆในต่างประเทศของชาวอเมริกันให้เพื่อนๆที่อยู่ต่างประเทศหรือชอบไปต่างประเทศได้รู้จักกัน วันนั้นมีชื่อว่า  แบล็กฟรายเดย์ (Black Friday) ต้องบอกเลยว่าวันนี้ต้องถูกใจเหล่านักช้อปอย่างแน่นอน และที่บอกว่าถูกใจเห่านักช้อปกันนั้นก็น่าจะรู้จากชื่อหัวเรื่องแล้วนะครับ เพราะวันที่มีชื่อว่าวัน แบล็กฟรายเดย์ (Black Friday) ในต่างประเทศของชาวอเมริกัน นั้นเป็นวันที่มีมหกรรมลดราคาสินค้าที่ทางห้างสรรพสินค้าจัดขึ้นยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี แล้ว วัน แบล็กฟรายเดย์ (Black Friday) นั้นมีที่ไปที่มาและรายละเอียดต่างยังไงให้เพื่อนๆไปดูด้วยกันเลยครับ

Back Friday คืออะไร? เริ่มต้นเมื่อไหร่?

Back Friday คืออะไร? เริ่มต้นเมื่อไหร่?

วัน แบล็กฟรายเดย์ (Black Friday) คือ วันที่ห้างสรรพสินค้าในต่างประเทศจัดมหกรรมงานลดราคาสินค้าที่ยิ่งที่สุดแห่งปี โดยที่ไม่ใช่ห้างใดห้างหนึ่งแต่เป็นทุกห้างภายในประเทศ ทำให้เป็นวันที่เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของนักช้อปชาวอเมริกันหลายๆคน และที่บอกว่าสวรรค์เพราะไม่ใช่แค่ห้างทั้งประเทศรวมใจกันลดราคาเพียงอย่างเดียว แต่เพราะแต่ละร้านในห้างสรรพสินค้าลดราคากันถึง 50-80% กันเลยทีเดียวซึ่งต้องบอกว่าวัน แบล็กฟรายเดย์ (Black Friday) นั้นเป็นวันที่ชาวอเมริกันแย่งกันช้อปแย่งกันซื้อจนถึงกับมีเลือดตกยางออกกันก็เคยมี เพราะฉะนั้น วันแบล็กฟรายเดย์ (Black Friday) เป็นไปไม่ได้ที่ชาวต่างชาตินั้นจะไม่รู้จักกัน แต่คนไทยอาจจะไม่รู้จักเพราะเนื่องจากในห้างสรรพสินค้าในประเทศไทยไม่มีห้างในจัดเทศกาลแบบนั้นจึงไม่แปลกที่ไม่มีใครรู้จัก ต่อที่ความเป็นไปเป็นมาของวัน แบล็กฟรายเดย์ (Black Friday) ว่ามีที่ไปที่มายังไง

วัน แบล็กฟรายเดย์ (Black Friday) นั้น มีที่ไปที่มา มาจากในวัน ขอบคุณพระเจ้าของสหรัฐอเมริกาที่มีการจัดขึ้นทุกๆปี ซึ่งเรียกว่าเป็นช่วงเทศกาลของชาวอเมริกันทำให้ชาวอเมริกันส่วนใหญ่นั้นเลือกที่จะออกมาจับจ่ายใช้สอยเกี่ยวกับของขวัญที่จะใช้ในเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้าและด้วยเหตุผลดังกล่าวทำให้ร้านค้าหลายร้านจึงพากันลดราคาจัดโปรโมชั่นเพื่อเอาใจลูกค้า และหลังจากที่แต่ละร้านจัดโปรโมชั่นลดราคาแล้วได้ผลตอบรับที่ดีจนทำให้ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงเวลาที่มีผลกับเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกากันเลยและให้ว่ามีผลไปในทางที่ดี จึงมีการจัดโปรโมชั่นและลดราคาต่อมาเป็นประจำเรื่อยๆและถึงจะผ่านวันขอบคุณพระเจ้าไปก็ยังมีการจัดโปรโมชั่นลดราคาอยู่และก็มีผลดีสหรัฐจึงได้สถาปณาเป็นวัน แบล็กฟรายเดย์ (Black Friday)  เป็นกิจลักษณะ โดยวันแบล็กฟรายเดย์ (Black Friday) ก็จะถูกจัดขึ้นหลังวันขอบคุณพระเจ้าซึ่งตรงกับวันพฤหัสบดีที่สี่ของเดือนพฤศจิกายนของทุกปีจนมาถึงปัจจุบัน

ทำไมชาวอเมริกาถึงเรียกว่า Black Friday Zombies

ทำไมชาวอเมริกาถึงเรียกว่า Black Friday Zombies

เพื่อนๆเคยเห็นการต่อแถวยาวๆเข้าร้านหรือเข้าห้างกันไหมครับ ถ้าจะให้ผมพูดให้คนไทยเห็นภาพก็อย่างเช่นการต่อแถวเพื่อรอซื้อตั๋วคอนเสิร์ตในประเทศไทยสมัยก่อนนะครับที่จะต้องมีการไปต่อแถวรอก่อนที่ห้างสรรพสินค้าจะเปิดทำการเพื่อที่จะได้ซื้อตั๋วเป็นคนแรกเวลาห้างเปิด นั้นแหละครับบรรยากาศเดียวกับที่ อเมริกาเลยเพียงแต่คนอเมริกาไม่ได้ต่อแถวเพื่อรอซื้อตั๋วคอนเสิร์ตแต่เป็นการต่อแถวรอห้างสรรพสินค้าเปิดเพื่อทำการช้อปปิ้ง ซึ่งตรงจุดนี้ ทำให้มีชาวอเมริกาที่ไม่ใช่สายช้อปปิ้งทำการล้อเลียนคนเหล่านี้ว่า Black Friday Zombies เพราะคนเหล่านี้ มีลักษณะเหมือน Zombies ในหนังยังไงยังงั้นเลยเพราะมีการยืนกันเป็นฝูงหน้าห้าง และเมื่อห้างเปิดคนเหล่านี้คนพร้อมที่จะเหยียบย่ำทุกสิ่งที่ขวางหน้าเพื่อที่จะได้ไปช้อปปิ้งสิ่งที่ต้องการ นึกภาพออกไหมครับว่าคล้าย Zombies ขนาดไหน นั้นแหละครับที่มาของ Black Friday Zombies

Black Friday  มันเกี่ยวกับคนไทยยังไงและสรุปมันดีหรือไม่ดี

Black Friday  มันเกี่ยวกับคนไทยยังไงและสรุปมันดีหรือไม่ดี

ถ้าเพื่อนๆอ่านกันมาถึงตรงนี้แล้วคงจะงงใช่ไหมว่าผมจะเขียนเกี่ยวกับเรื่องของวัน Black Friday ทำไม ในเมื่อมันเป็นวันลดราคาสินค้าจัดโปรโมชั่นที่ห้างสรรพสินค้าในอเมริกาจัดขึ้น ห้างไทยไม่ได้มีการจัดโปรโมชั่นหรือลดราคาในวันดังกล่าวสักหน่อย เป็นเรื่องจริงที่ห้างสรรพสินค้าในประเทศไทยไม่มีการจัดเทศกาลดังกล่าว แต่ที่ผมเอามาพูดเพราะมันเกี่ยวข้องกับคนไทยทางอ้อมสำหรับนักช้อปในประเทศไทยครับ เพราะถึงแม้ตัวจะอยู่ในประเทศไทยแต่เมื่อถึงวัน Black Friday คนไทยขาช้อปก็สามารถช้อปปิงได้ทางออนไลน์ เห็นไหมครับว่าถึงจะไม่เกี่ยวกับคนไทยโดยตรงแต่มันเกี่ยวกันทางอ้อมครับ และยิ่งถ้าเป็นขาช้อปที่ชอบเที่ยวต่างประเทศอยู่แล้วถือโอกาสไปเที่ยวในวัน Black Friday ยิ่งเป็นอะไรที่เกี่ยวข้องสุดๆไปเลยครับ จริงไหม แต่ยังไงสำหรับนักช้อปปิ้งคนไทยขาออนไลน์ก่อนที่จำช้อปปิ้งหรือสั่งซื้อของก็อย่าลืมคิดเรื่องค่าบริการขนส่งนะครับเพราะสินค้าที่เพื่อนๆซื้อนั้นจะต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศนะครับและเนื่องจากเป็นสินค้านำเข้าทำให้สินค้าชิ้นนั้นมีราคาค่าบริการจัดส่งที่อาจจะพอๆกับค่าสินค้าเลยก็ได้อย่าลืมเด็ดขาดนะครับ

แล้วสรุปวัน Black Friday มันดีหรือไม่ดี ผมว่ามันมองได้หลายมุมมองนะครับ จะมองว่าดีมันก็เป็นวันที่ดี แต่จะมองว่าไม่ดีมันก็เป็นวันที่ไม่ดีได้เหมือนกัน มาดูมุมที่ผมบอกว่ามองเป็นวันที่ดีมันก็ดี คือ ยังไง คือถ้ามองว่าเป็นวันที่ดีก็อาจจะเป็นของคนไทยที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศหรือคนที่ประจวบเหมาะกับเดินทางไปต่างประเทศ ณ วัน Black Friday ก็จะได้ช้อปปิ้งของในห้างสรรพสินค้าที่มีโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมกันเพียบ แต่ถ้าจะมองว่ามันไม่ดีก็สามารถมองได้ คือ ทุกคนคงจะรู้ใช่ไหมว่าการขายของต้องขายให้ได้กำไรถ้าขายขาดทุนจะขายทำไม ใช่ครับร้านค้าในห้างเขาก็ทราบเรื่องนี้เป็นอย่างดี และถึงแม้จะเป็นวัน Black Friday เขาก็จะไม่ยอมขาดทุนหรอกนะครับ เพราะฉะนั้นโปรโมชั่นเหล่านั้นอาจจะดูแล้วมันน่าสนใจน่าดึงดูดแต่มันเป็นเพียงสิ่งที่จะทำให้ร้านค้าสามารถขายของได้เพิ่มมากขึ้นนั้นเอง ผมจะยกตัวอย่างให้ดูนะครับสมมุติร้านขายเสื้อ เช่น ลด 15 % ถ้าซื้อ 1 ตัว แต่ถ้าคุณซื้อ 3 ตัว จะลดถึง 50% เป็นไงครับเห็นแล้วอยากที่จะซื้อ 3 ตัวไหมครับ ถ้าเพื่อนๆใช่สติคิดนิดนึงก็จะมองออกว่ามันเป็นกลยุทธ์นี้แหละครับถึงมีคนมองว่าวัน Black Friday เป็นวันที่ไม่ใช่วันดีจริงๆ

มหกรรมลดราคาของชาวอเมริกาที่ชาวไทยที่อยู่ในอเมริกามีส่วนร่วม

มหกรรมลดราคาของชาวอเมริกาที่ชาวไทยที่อยู่ในอเมริกามีส่วนร่วม

ต้องบอกว่าวัน Black Friday  มหกรรมการลดราคาสินค้าในห้างสรรพสินค้าของชาวอเมริกาที่ไม่เกี่ยวกับห้างสรรพสินค้าประเทศไทยแต่ก็เกี่ยวข้องกับคนไทยที่อยู่ในต่างประเทศนะครับ เพราะมหกรรมลดราคา Black Friday นั้นไม่ได้จำกัดว่าคุณจะต้องเป็นคนอเมริกาถึงจะสามารถเขาไปซื้อสินค้าภายในห้างได้นะครับ แต่ไม่ว่าคุณเป็นคนชาติอะไรก็สามารถเข้าไปร่วมมหกรรมดังกล่าวได้ร่วมถึงพี่น้องชาวไทยที่อาศัยอยู่ต่างประเทศด้วย และคนไทยที่อยู่ในประเทศไทยถ้าอยากได้สินค้าที่อยู่ในต่างประเทศที่ประเทศไทยไม่มีก็สามารถเข้าร่วมมหกรรม Black Friday ได้เหมือนกันโดยการสั่งซื้อผ่านทางออนไลน์ และมีหรือที่มีกิจกรรมดีๆแบบนี้แล้วผมจะไม่อยากจะบอกต่อ ถึงบางคนจะมองว่ามันไม่ได้ดีจริงๆ แต่มีความรู้เอาไว้เกี่ยวกับวัน Black Friday ไว้ก็ดี