ต้องบอกไว้เลยว่า อุบัติเหตุ การล้มป่วย นั้นเป็นสิ่งที่เกิดได้กับทุกคนและทุกเวลา ไม่มีใครสามารถรู้ล่วงหน้าได้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่จำเป็นและควรจะทำ คือ การทำประกัน แต่ประกันนั้นก็มีหลากหลายรูปแบบ ถ้าจะให้ทำทั้งหมด ผมว่าเพื่อนๆคงไม่มีตังพอ ซึ่งในบทความนี้ ผมก็จะมาพูดถึงแค่ประกันชีวิต ให้เพื่อนๆได้ทำความรู้จักกับประกันชีวิตมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นประเภทของประกันชีวิตว่ามีทั้งหมดกี่ประเภท และแต่ละประเภทมีความแตกต่างกันอย่างไร และ แต่ละช่วงอายุควรที่จะเลือกทำประกันชีวิตแบบไหน ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย
ประกันชีวิตมีกี่ประเภทแตกต่างกันอย่างไร?
ในปัจจุบันประกันนั้นมีด้วยกันมากมายหลากหลายรูปแบบ และ ในประกันแต่ละแบบก็จะมีอีกหลายประเภทอยู่ด้วยกัน และในวันนี้เราจะมาพูดกันถึงประกันชีวิต ซึ่งประกันชีวิตก็แบ่งออกเป็นได้ 4 ประเภท ได้แก่ 1.ประกันชีวิตแบบช่วงเวลา Term life insurance , 2.ประกันชีวิตตลอดชีพ Whole life insurance , 3.ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ Endowment insurance , 4.ประกันชีวิตเงินได้ประจำ Annuity insurance และแต่ละประเภทก็มีความแตกต่างกัน ซึ่งก็จะแตกต่างกันตรงที่ความคุ้มครอง เงื่อนไขความคุ้มครอง ระยะเวลาความคุ้มครอง และ อื่นๆ
ประกันชีวิตแบบช่วงเวลา Term life insurance
ประกันชีวิตแบบช่วงเวลา Term life Insurance เป็นประกันชีวิตที่จะมีการจ่ายเงินให้กับผู้ที่รับประโยชน์ ก็ต่อเมื่อผู้ที่ได้ทำประกันเสียชีวิตในระยะเวลาที่กำหนดตามสัญญา คือ 5 ปี 10 ปี เป็นต้นแล้วแต่ผู้ประกันจะเลือก โดยที่จะให้ความคุ้มครองจากการเสียชีวิตเพียงอย่างเดียว แต่ถ้าผู้ที่เลือกทำประกันชีวิตแบบช่วงเวลา Term life insurance นั้นไม่ได้เสียชีวิตภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญาผู้ที่ประกันหรือผู้รับประโยชน์ก็จะไม่ได้อะไรเลย
ประกันชีวิตตลอดชีพ Whole life insurance
ประกันชีวิตตลอดชีพ Whole life Insurance เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองตามชื่อของมันเลย คือ คุ้มครองตลอดชีพหรือตลอดอายุของผู้ที่ทำประกัน (คุ้มครองจนถึงอายุ 90 – 99 ปี แล้วแต่แบบประกัน) โดยที่จะมีการจ่ายเงินทุนประกันให้กับผู้ที่ได้รับประโยชน์ใน 2 กรณี คือ 1.จ่ายเงินทุนประกันชีวิตให้กับผู้ที่ได้รับประโยชน์ ในกรณีที่ ผู้ทำประกันเสียชีวิตในขณะที่กรมธรรม์มีผลบังคับใช้ และ 2. จ่ายเงินทุนประกันชีวิตให้กับผู้ที่ทำประกันโดยตรงในกรณีที่ว่าผู้ทำประกันไม่ได้เสียชีวิตและมีอายุครบกำหนดสัญญา คือ 90 – 99 ปี แล้วแต่แบบประกัน
ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ Endowment Insurance
ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ Endowment Insurance เป็นประกันชีวิตที่มีการผสมผสานกันระหว่างประกันกับการออมทรัพย์ออกมาเป็น ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ โดยประกันชีวิตลักษณะนี้จะมีการให้ผู้ที่เลือกทำประกันทำการจ่ายเบี้ยปะกันเรื่อยๆเป็นเหมือนกับการอมเงินคล้ายกับการฝากเงินประจำที่จะไม่สามารถถอนได้นั้นเองจนกว่าจะถึงเวลาที่กำหนดประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ก็เช่นกันถ้ายังไม่ถึงเวลาที่กำหนดก็จะไม่มีการจ่ายทุนประกันคืนให้กับผู้ที่ทำประกัน แต่สิ่งที่แตกต่างจากการฝากประจำตรงที่การทำประชีวิตแบบสะสมทรัพย์นั้นจะมีประกันชีวิตพวงเข้ามาด้วย คือถ้าผู้ที่ทำประกันเสียชีวิตก่อนที่จะครบกำหนดสัญญา ก็จะมีการจ่ายเงินก้อนให้กับผู้รับประโยชน์
ประกันชีวิตเงินได้ประจำ Annuity Insurance
ประกันชีวิตเงินได้ประจำ Annuity Insurance หรือเรียกว่าประชีวิตแบบบำนาญ คือ เป็นประกันชีวิตที่ผู้ทำประกันต้องการที่จะมีเงินบำนาญหลังจากที่เกษียณ โดยประกันลักษณะนี้จะเน้นไปที่การออมมากกว่าการประกัน โดยผู้ที่เลือกทำประกันชีวิตนี้จะได้เงินคืนเป็นงวดๆหลังจากที่เกษียณ จนถึงอายุ ที่ได้กำหนดไว้ในกรมธรรม์ เป็นประกันที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการอยากจะมีเงินบำนาญไว้ใช้ตอนเกษียณไม่อยากที่จะลำบากลูกหลาน
เลือกประกันชีวิตแบบไหน (ช่วงวัยทำงานอายุ 21-30 ปี)
ก่อนอื่นเลยเราก็ต้องมาดูกันว่าในช่วงวัย 21-30 ปี นั้นเขาทำอะไรกัน ก็เป็นที่แน่นอนว่าบางคนอาจจะเรียนต่อ หรือ บางคนอาจจะเพิ่งเรียนจบและเริ่มทำงาน ซึ่ง ในช่วงอายุ 21-30 ปีเป็นช่วงที่เหมาะแก่การสร้างเนื้อสร้างตัว เป็นช่วงแรกของการใช้ชีวิตจริงๆหลังจากที่ก่อนหน้านี้ขอเงินของพ่อแม่ แต่หลังจากที่เรียนจบก็ต้องเริ่มทำงานหาเลี้ยงตัวเองแล้ว ซึ่งในวัยประมาณนี้ ประกันชีวิตที่เหมาะ ก็คือ ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ เพราะประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์นั้น สามารถช่วยได้มากในเรื่องของการมีวินัยในการออม และ รวมถึงเมื่อทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์สามารถช่วยลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย และเมื่อครบกำหนดก็จะได้เงินก้อนที่สามารถเอาไปต่อยอดลงทุนหรือทำอะไรก็ได้ และในระหว่างที่ทำงานและมีประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ เกิดเจ็บป่วยอะไรขึ้นมาก็มีประกันชีวิตทำให้อุ่นใจไปได้ส่วนหนึ่งเรื่องค่าใช้จ่าย
เลือกประกันชีวิตแบบไหน (ช่วงวัยทำงานและมีครอบครัวอายุ 31-45 ปี)
ช่วงอายุ 31-45 ปีก็เป็นช่วงที่เรียกได้ว่าผ่านช่วงสร้างเนื้อสร้างตัวมาแล้ว ถ้าคนที่มีแฟนก็น่าจะกำลังคิดเริ่มสร้างครอบครัว แต่ถ้าคนที่ไม่มีแฟนก็น่าจะคิดหาวิธีการสร้างความมั่นคงแล้วล่ะ ซึ่ง ประกันชีวิตที่เหมาะสมกับคนในช่วงอายุ 31-45 ปี นั้นก็คือ ประกันชีวิตที่มีการพ่วงเรื่องของประกันสุขภาพเขาไปด้วย หรือ อาจจะเป็นประกันชีวิตแบบตลอดชีพ เพื่อที่หากเกิดเป็นอะไรขึ้นมาคนข้างหลังจากได้ไม่ลำบาก หรือถ้าไม่มีคนข้างหลังให้เป็นห่วงก็อาจจะลองมองดูประกันชีวิตแบบเงินได้ประจำ เพื่อที่เมื่อเริ่มทำประกันชีวิตแบบรายได้ประจำตอนนี้เมื่อแก่ตัวไปในตอนวัยเกษียณก็จะได้มีเงินใช้ได้สบายๆ
เลือกประกันชีวิตแบบไหน (ช่วงวัยทำงานจนถึงวัยเกษียณ 46-60 ปี)
ในช่วงอายุ 46 – 60 ปี ก็เป็นช่วงอายุก่อนจะเกษียณ ไม่กี่ 10 ปี ก็เหมาะมากที่สุดกับประกันชีวิตแบบเงินได้ประจำหรือเรียกอีกอย่างว่าประกันชีวิตแบบบำนาญ เพราะเมื่อเริ่มทำประกันชีวิตแบบนี้และหลังจากที่ถึงวัยเกษียณ ทางประกันก็จะมีการจ่ายเงินให้เป็นงวดเหมือนเป็นเงินบำนาญให้ในวัยเกษียณทำให้เราสามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ในกรณีที่เราไม่มีลูกหลาน หรือ ถ้ามีลูกหลานเราเมื่อแก่ตัวลงอยู่ในวัยเกษียณก็จะไม่เป็นภาระของลูกหลาน และถ้าเราทราบดีว่าเรานั้นในช่วงอายุ 50 ขึ้นไป เริ่มมีอาการไม่สู้ดี ก็ควรคิดเรื่องการทำประกันชีวิตแบบช่วงเวลาไว้ด้วยเพื่อเป็นอะไรขึ้นมาในระยะเวลาที่กำหนด ภรรยา ลูก จะได้ไม่ลำบากเพราะจะได้รับเงินจากทุนประกันชีวิตแบบช่วงเวลา
วางแผนทำประกันชีวิตยิ่งเร็วยิ่งดีต่อการเงินที่มั่นคง
การวางแผนในเรื่องของการจะทำประกันชีวิตนั้นเป็นสิ่งที่ยิ่งเร็วยิ่งดี เพราะประกันชีวิตนั้นเป็นประกันที่มีลักษณะที่เน้นไปที่การดูแลความมั่นคงทางด้านการเงินมากกว่าที่จะมาดูแลร่างกายของเราเหมือนกับพวกประกันอุบัติเหตุ หรือ ประกันสุขภาพ และเมื่อประกันชีวิตเป็นประกันที่เน้นไปที่การเงินของเรานั้นเป็นสิ่งที่เราจำเป็นจะต้องมีการวางแผน และเป็นการวางแผนระยะยาวด้วย เพราะฉะนั้นก่อนที่จะตัดสินเลือกทำประกันชีวิตแบบไหน ก็ควรที่จะศึกษาข้อมูลของเงื่อนไข ความคุ้มครอง กรมธรรม์ ทุกอย่างให้ดีๆก่อนตัดสินใจทำนะครับ
ดิว
ประกันชีวิตหรอ แต่กว่าจะทำประกันชีวิตได้ก็ต้องมีเงินเหลือและแต่ละเดือนไปประจำก่อน ที่จริงก็มองประกันชีวิตอยู่นะอย่างอายุในตอนนี้ 30 ปลายๆยังโสดเราก็มองประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์อยู่นะเพราะรู้สึกว่าประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์มีประโยชน์หลายอย่าง ช่วยเป็นเหมือนเงินก้อนช่วงท้ายๆชีวิตแถมประกันแบบนี้ถ้าจำไม่ผิดได้ยินว่าสามารถกู้ออกมาใช้ได้ด้วย
น้ำหนึ่ง
เราว่าประกันชีวิต ทำไว้ตั้งแต่อายุยังน้อยดีกว่านะ ก็ยิ่งอายุมากค่าเบี้ยประกันยิ่งสูงแต่ถ้าเราทำตั้งแต่อายุยังน้อยเนี่ยเราสามารถจ่ายค่าเบี้ยประกันแบบต่างๆไปได้เรื่อยๆ แล้วก็อีกอย่างที่สำคัญคือเหตุการณ์ไม่คาดฝันหรืออุบัติเหตุมันอาจจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุของเราจะอายุน้อยจะอายุมาก ชีวิตเราจะเป็นยังไงเราก็ไม่มีทางรู้เลย อย่างถ้าไม่รู้จะทำทำประกันแบบไหนเราคิดว่าการทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ก็ดี
บิว
นอกจากอายุแล้วเราว่าต้องดูเรื่องสุขภาพแล้วก็ความเหมาะสมด้วยนะ ยังอายุน้อยๆการทำประกันชีวิตไว้อาจจะคุ้ม แต่ก็ต้องดูเรื่องของเบี้ยประกันด้วย หรือถึงจะอายุน้อยแต่ว่ามีปัญหาด้านสุขภาพเราว่าทำประกันสุขภาพไว้ก็ดีกว่า แต่การทำประกันไม่ว่าจะอย่างไหนมันต้องจ่ายเบี้ยประกันไปหลายสิบปีก็เลยต้องคิดดีๆก่อนจะเลิกจริงๆนะ
Phim
มันก็ขึ้นอยู่กับหลายสไตล์ของแต่ละคนด้วยว่าเหมาะกับประกันแบบไหน บางคนอยากออมเงินก็ทำประกันออมเงิน บางคนเป็นห่วงเรื่องสุขภาพก็ทำประกันเกี่ยวกับสุขภาพ แต่บางคนเป็นห่วงชีวิตในอนาคตก็ทำประกันชีวิต ทางที่ดีคนที่ทำประกันต้องเข้าใจชีวิตตัวเองก่อนว่าต้องการประกันแบบไหนบ้าง และจริงๆแล้วเราสามารถทำประกันได้หลายหลายตัวในเวลาเดียวกันด้วย ถ้ามีกำลังที่จะส่งค่าเบี้ยไหว แต่คุ้มแน่นอนค่ะ
SARA
@บิว เข้าใจความหมายที่คุณจะสื่อนะคะ ที่จริงประกันสุขภาพและประกันอุบัติเหตุควรจะอยู่ในทุกๆช่วงอายุของเราจนกว่าจะถึงช่วงวัยเกษียณเลย แต่ถ้ามีโอกาสในทุกช่วงวัยถ้าเป็นไปได้คิดถึงประกันชีวิตเอาไว้ก็คุ้มมากๆเลย อย่างเช่นฉันเองอายุอยู่ในช่วงวัย 21-30 ปี ก็คิดว่าตัวเองตัดสินใจไม่ผิดที่เลือกทำประกันชีวิตสะสมทรัพย์ตั้งแต่ตอนที่อายุ 23 ปี ตอนนี้ได้เงินก้อนคืนแล้วคิดว่าจะทำต่อไป
=หางนกยูง=
จริงอย่างที่บทความนี้บอกค่ะ การทำประกันชีวิตต้องเลือกฉบับที่เหมาะกับช่วงอายุของผู้ที่ถือกรมธรรม์ด้วย ส่วนตัวนะ เราดูเรื่องค่าเบี้ยประกันกับระยะเวลาที่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันค่ะ ถ้าต้องจายค่าเบี้ยประกันนานหลายปี แบบนานมากเกินไปอะ เราจะจ่ายไม่ไหวไง อันนี้แล้วแต่ความสะดวกและหน้าที่การงานของแต่ละคน เลือกแทนกันไม่ได้
mali
อยากรู้ว่าเพื่อนๆทำประกันตัวไหนกันบ้าง?? อย่างเราทำแบบเงินออมไว้ค่ะตอนแรกก็นึกว่าจะได้เงินปันผลเยอะเเยะ ปรากฎพอๆกับเอาเงินไปฝากธนาคารเลย คิดว่าเดี๋ยวหมดสัญญาแล้วคงพอกันที จะถอนเงินออกมาก็ไม่ได้กลัวเสียผลประโยชน์ เพื่อนๆทำแบบไหนกันบ้างคะ มาเเชร์กันหน่อยสิคะเผื่อว่าหมดสัญญาแล้วเราสนใจจะทำเพิ่มเติมไว้อีกตัว
วันชัย
ของผมซื้อ ประกันชีวิต ของ เอไอเอครับ แบบ 20/90 แบบมีเงินปันผลนะครับ ตอนนี้ผมจ้่ายค่าเบี้ยประกันมาได้5ปีแล้วครับ ค่อนข้างที่จะพอใจมากเลยนะครับ เพราะว่า ประกันของเอไอเอถือว่าเป็นประกันเจ้าต้นๆในบ้านเราครับ นี้ผมก็ซื้อประกันสุขภาพด้วยนะครับ ผมซื้อแบบที่เป็นเหมาจ่ายค่ารักษานะครับ แพงอยู่นะ แต่คิดว่าคุ้มครับ
Noonan
@ k. Mali เป็นอย่างนั้นจริงๆหรอ ตอนนี้กำลังคิดที่จะลงทุนเพื่อทำประกันอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าเป็นอย่างที่คุณว่าจริง สงสัยคงจะต้องคิดใหม่อีกทีแน่ๆ เพราะว่าตอนนี้จะลงทุนอะไรก็คิดว่าลำบากเหลือเกิน เขามีความเสี่ยงสูงเนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี เราก็เลยมองว่าการทำประกันมันก็ช่วยเรื่องความคุ้มครองชีวิตของเราด้วยแล้วก็ได้เงินปันผลด้วยแต่ถ้าคุณพูดมาแบบนี้สงสัยคงจะต้องหาวิธีอื่นในการลงทุนแล้วล่ะ
Thousand
ก็มาอ่านเอาไว้ก่อนนะครับ แต่จะทำตามที่บทความนี้บอกได้หรือเปล่ายังไม่รู้เลย ตอนนี้อายุก็อยู่ในวัยทำงานแต่ก็ยังไม่สามารถทำประกันได้ตามที่ คนวัยนี้ ควรจะมีจริงๆ ตอนนี้ มีปัญญาทำได้แค่ประกันอุบัติเหตุครับ เราก็เป็นประกันอุบัติเหตุที่พ่วงมากับบัตรเครดิตด้วยเบี้ยไม่แพงมาก ก็ทำได้แค่นี้ก็ทำไปก่อนครับ ประกันสุขภาพกับประกันชีวิตไม่รู้จะทำได้เมื่อไหร่
Nopadol
จริงอย่างที่บทความนี้ เราต้องเลือกประกันชีวิตอย่างฉลาดให้เหมาะกับช่วงอายุของเราเอง ประเภทของประกันชีวิตที่บทความนี้ให้ข้อมูลมา..ดีมากครับ หลายคนอาจไม่รู้ว่าประกันชีวิตมีหลากหลายประเภทขนาดนี้ ใครที่ได้มาอ่านบทความนี้ก่อนซื้อประกันชีวิต จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ถูกทาง ตัดสินใจเหมาะกับช่วงอายุของคุณมากขึ้นครับ
Nan
ถ้าใครคิดจะทำประกันเพื่อหวังจะลงทุน อย่าได้คิด ไม่ได้เวิร์คอย่างที่คุณคิดหรอก (พอๆกับเอาเงินไปฝากธนาคารเลย) แต่ถ้าทำเพื่อคนข้างหลังจะได้ไม่ต้องลำบากอันนั้นเชียร์ หรือ ไม่ถ้าอยากให้เงินงอกเงยเยอะๆ เเนะนำให้ไปเล่นกองทุน น่าสนใจกว่าทำประกันเยอะ ถ้าอยากมีเงินใช้ยามเกษียณเยอะๆ ก็อาจจะต้องลงทุนเยอะหน่อยนะ ถึงจะเห็นผล