ผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ได้พบความจริงที่น่าตกใจว่า ในแต่ละปีมีนักลงทุนเพียง 20% เท่านั้น ที่จะได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ ส่วนอีกถึง 80% กลับต้องเจอการขาดทุนจากการลงทุนในหุ้น!!
จึงมีคำถามฝุดขึ้นมาเยอะในกระทู้ Pantip ว่า มือใหม่หัดเปิดพอร์ต ควรดูกราฟหุ้นหรือวิเคราะห์ยังไงถึงจะฉลาด ควรเริ่มจับจากจุดไหนก่อนดีนะ?! ไหนจะเครื่องมือต่างๆ ที่เราอาจสับสนใช้ถูกใช้ผิด หรือ ตัดสินใจผิดพลาดไปบ้าง
รวมไปถึงฝั่งของนักลงทุนที่ชอบจับการซื้อ-ขายหุ้นแบบระยะสั้น (Trading) ซึ่งต้องเลงในช่วงที่ราคาหุ้นขึ้น-ลงให้ดี เพื่อหาโอกาสทำผลกำไรที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าการลงทุนในระยะยาว แต่ก็มีความเสี่ยงสูงและมีโอกาสผิดพลาดได้อีกเช่นกัน
บทความนี้ จึงได้เตรียม 4 หัวข้อหลัก ที่คนอยากเล่นหุ้นไม่ควรพลาด จะได้ทราบกฎ-กติกา รวมไปถึงกลยุทย์ที่น่าสนใจและส่งผลให้เราสามารถวางแผนการลงทุนได้อย่างละเอียดรอบคอบมากขึ้น มีเรื่องไหนที่มือใหม่ควรรู้ ตามมาดูกันค่ะ
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
ภาษาทางการของการดูกราฟหุ้น ก็คือ ‘การวิเคราะห์ทางเทคนิค’ นี่ล่ะค่ะ ที่เราจะต้องสนใจเพื่อศึกษาพฤติกรรมของบุคคลที่เข้ามาทำการซื้อขายในตลาดหุ้น รวมไปถึงศึกษาความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น เพื่อเข้าใจพฤติกรรมดังกล่าว โดยที่บรรดานักลงทุนจะต้องเฝ้าสังเกตและติดตามอย่างใกล้ชิดเพราะหุ้นแต่ละตัวก็จะมีปัจจัยพื้นฐานที่แตกต่างกัน จึงต้องใช้เครื่องมือที่แตกต่างกันไปด้วย
โดยการวิเคราะห์ทางเทคนิคนี้ เรายังควรศึกษาราคาหุ้นในอดีต เพื่อนำมาใช้คาดการณ์ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นในอนาคต เพราะตามหลักจิตวิทยาแล้วประวัติศาสตร์มักจะซ้ำรอยเดิมอยู่บ่อยๆ จึงสามารถสะท้อนให้เราทราบราคาและปริมาณการซื้อ-ขายหุ้นที่แม่นยำมากขึ้น เพื่อเอาชนะความผันผวนให้ตลาด และมีโอกาสทำกำไรในอนาคตค่ะ
ดังนั้น เพื่อที่เราจะรู้มูลค่าที่แท้จริงของหุ้นตัวนั้นๆ และตัดสินใจได้ว่าควรจะซื้อ-ขายหุ้นตัวไหนดี เข้าซื้อ/ขายตอนไหน ด้วยราคาเท่าไหร่จึงจะเหมาะสม ทั้งมือเก่าและมือใหม่ก็จะต้องดูกราฟหุ้น หรือ ทำการวิเคราะห์ทางเทคนิคให้เป็น เพื่อหาจังหวะในการลงทุนที่เหมาะๆนั่นเองค่ะ
หลักการเลือกหุ้น
สำหรับการเลือกหุ้นนั้น แม้บางคนจะบอกว่าไม่ค่อยสนใจการดูกราฟสักเท่าไหร่ แต่เลือกดูที่แน้วโน้มทางธุรกิจ และผลกำไรในอนาคตสัก 1-2 ปี แทน ประกอบกับ อัตราเงินปันผล หรือ พวกงบการเงินที่มีการชี้แจง โดยไม่สนใจPE และ PBV เพราะไม่ค่อยเห็นหุ้นตัวไหนจะมีค่า PE ต่ำๆ เลย ก็เป็นอีกเทคนิคที่หลายคนเข้ามาแชร์กันใน Pantip
หรือ มือใหม่บางคนอาจจะเน้นเลือกหุ้นที่อยู่ในกลุ่ม SET 50 เพราะเหมือนมีผู้กลั่นกรองมาให้เราก่อนในระดับหนึ่งแล้ว ชอบตัวไหนค่อยมาลงลึกกับหุ้นตัวที่ชอบอีกที แต่ยังคงอยากจะเน้นว่า นักลงทุนที่ชื่นชอบการซื้อ-ขายในระยะสั้น ควรจะเลือกหุ้นจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ ปริมาณการซื้อ-ขายสูง และ พฤติกรรมของราคาหุ้นที่อาจมีความผันผวนสูง เพื่อที่เราจะสามารถขายหุ้นไปในระยะเวลาและราคาที่ต้องการได้ รวมถึงการสร้างกำไรในระหว่างวันสำหรับการเทรดสั้นๆ ค่ะ
วัฏจักรของราคา
วัฎจักรของราคา (Cycle) ก็ยังเป็นอีกหนึ่งตัวแปรที่มือใหม่ทุกคนจะต้องสนใจ เพราะเป็นจุดสำคัญอันดับต้นๆ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มในตลาด ไม่ทำให้เราขาดทุนไปง่ายๆ และยังคงมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงได้อยู่ตลอดเวลา โดยแบ่งได้ใน 4 ระยะ คือ
- ระยะสะสม คือ เมื่อราคาได้มีการปรับตัวลงมาพอสมควรแล้ว ราคาก็จะค่อนข้างนิ่ง ขึ้น-ลงไม่ขยับมากนัก จึงทำให้ปริมาณการซื้อ-ขาย ก็จะสูงขึ้นตาม
- ระยะขาขึ้น คือ เมื่อผ่านระยะสะสมมาสักพัก ก็มักจะมีข่าวดีเกี่ยวกับหุ้นตามมา พร้อมแรงกำลังซื้อที่ไหลเข้ามาในจำนวนมาก จึงทำให้ราคาของหุ้นตัวนั้นๆ ก็วิ่งทะยานขึ้นไปอย่างต่อเนื่องด้วย
- ระยะแจกจ่าย จากราคาหุ้นขึ้นที่ปรับตัวสูงไปถึงจุดที่เกินมูลค่า นักลงทุนรายใหญ่บางกลุ่มก็มักจะเทขายหุ้นออกมาเพื่อสวนกระแสกับตลาด จึงส่งผลให้ราคาเริ่มมีการเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบลง แต่ยังมีปริมาณการซื้อ-ขายที่สูงอยู่อย่างเห็นได้ชัด
- ระยะขาลง เมื่อเริ่มมีการเทขายหุ้นออกมาเป็นจำนวนเรื่อยๆ ก็จะส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงตามมาอย่างต่อเนื่อง โดยจะเป็นเช่นนี้ต่อไปจนมีการดีดตัวกลับขึ้นมาใหม่เมื่อก้าวเข้าสู่ระยะสะสมอีกครั้งค่ะ
กลยุทธ์ในการลงทุน
และสำหรับนักลงทุนที่ชื่นชอบการเทรดในระยะสั้น และบรรดามือใหม่ ก็คงไม่มีใครอยากลงทุนไปอย่างสะเปะสะปะเอาแน่ๆ เราจึงต้องเตรียมกลยุทธ์ที่ดีเอาไว้ให้พร้อม อาทิเช่น
Scalping หรือ การเปิด-ปิด การซื้อขายในช่วงสั้นๆ เพื่อทำกำไรเพียงไม่กี่จุด เน้นเข้าไวพอได้กำไรให้รีบออก และทำบ่อยๆ (อย่าลืมว่าค่าคอมมิชชั่นต้องคุ้มด้วย) ซึ่งจะเหมาะกับนักลงทุนที่มีเวลานั่งเฝ้าหน้าจอการเทรดและคาดการณ์ได้รวดเร็วว่าตลาดกำลังไปในทิศทางใด
Day Trading หรือ เน้นซื้อ-ขายหุ้นภายในวันเดียว ที่จะต้องฉวยจังหวะการขึ้นลงของราคาในระหว่างวัน ซึ่งก็ยังเหมาะกับสายเก็งกำไรที่มีเวลานั่นดูตลาดและติดตามการเคลื่อนไหวในชั่วโมงการเทรด
Swing Trading หรือ การเข้าซื้อ-ขายหุ้นแบบเป็นรอบๆ ไม่ต้องสนใจเทรนด์หรือแน้วโน้มมากนัก โดยในรอบหนึ่งก็อาจประมาณ 3 – 14 วัน จึงเริ่มเหมาะกับคนที่มีเวลาเฝ้าหน้าจอน้อยหรือทำงานประจำขึ้นมาหน่อยค่ะ
นอกจากนี้ยังมีเรื่อง การกำหนดจุดหยุดขาดทุน (Stop Loss) เพื่อช่วยเราเลือกจุดในการหยุดสำหรับขนาดความเสี่ยงที่พอรับได้โดยประกอบกันจากการดูกราฟ, ปริมาณซื้อขายหุ้น (Volume) หรือ ปริมาณเม็ดเงินที่เกิดจากการซื้อ-ขายจริงในช่วงนั้น เพื่อบอกถึงทิศทางของราคา, การใช้แนวรับ-แนวต้านเพื่อประกอบการตัดสินใจในระดับราคา และการเข้าซื้อ-ขายหุ้นค่ะ
รวมไปถึง รูปทรงของกราฟ (Chart Pattern) ที่ช่วยเราประเมินหาจุดกลับตัวของแนวโน้ม , การวิเคราะห์ข้อมูลจากกรอบเวลา (Time Frame) เพื่อแยกแนวโน้มของราคาในระยะต่างๆ ไม่ให้เราเข้าซื้อ-ขายหุ้นไปแบบผิดจังหวะ และ เครื่องมือประเภทตัวชี้วัด (Indicator) ที่เราต้องใช้ประกอบกันให้ดี แต่ไม่ต้องใช้เยอะเกินไป เอาเท่าที่เราถนัดจะได้ไม่ทำให้เกิดสัญญาณการซื้อ-ขายที่ซ้ำซ้อน
ปิดท้ายด้วย สิ่งที่นักลงทุนมือใหม่ต้องทำเพื่อความชัวร์ก่อนที่จะซื้อหุ้นทุกครั้ง จะต้องกำหนด ‘ราคาตัดขาดทุนที่ยอมรับได้’ หรือ จุด Cut Loss เผื่อไว้ในกรณีที่ราคาหุ้นไม่เป็นไปในแบบที่เราคาดการณ์ และ ‘ราคาสำหรับขายทำกำไร’ หรือ จุด Take Profit เพื่อให้ให้เราขาดช้าจนกลับมาอยู่ในจุดขาดทุนค่ะ
ตั้งสติก่อนสตาร์ท มือใหม่ก็ซื้อ-ขายหุ้นได้อย่างประสบความสำเร็จ!
เอาเป็นว่าทั้งมือใหม่ และนักลงทุนที่ชื่นชอบการซื้อ-ขายหุ้นแบบระยะสั้นถึงสั้นมากอย่างการ Trading ทุกคนควรพยายามตั้งสติก่อนสตาร์ทให้ดี ควบคุมเกมส์และสมาธิของตัวเองให้ได้ โดยไม่ให้อารมณ์อยู่เหนือความคิด แล้วเราก็จะสามารถเดิมตามกลยุทธ์ที่วางเอาไว้จนมีผลที่ประสบความสำเร็จได้
ทั้งจากการดูกราฟหุ้น, วิเคราะห์ “ปริมาณการซื้อ-ขายสูง”, มีหลักการเลือกหุ้น และรู้วัฏจักของราคาหุ้นที่มีความผันผวนสูง จะได้เลือกทำการในเวลาและราคาที่เราต้องการเพื่อสร้างกำไรได้ในระหว่างวัน รวมไปถึงกลยุทธ์ในการลงทุนในระยะสั้นๆ ที่มีหลายแบบอย่างซึ่งหากนักลงทุนคนไหนชื่นชอบเครื่องมือใด ก็ควรลองเอาไปปรับใช้ให้เหมาะกับสไตล์การลงทุนของตนเองค่ะ
หวังว่าผู้ที่สนใจจะสามารถซื้อ-ขายหุ้นได้แบบถูกที่ ถูกเวลากันมากขึ้น เพื่อประเมินหาโอกาสในการทำกำไรกันได้ในวิธีที่เราจะถนัดที่สุด! และถึงจะมีโอกาสในการขาดทุนอยู่บ้าง แต่ความสำเร็จในการลงทุนนั้นเราสร้างได้ โดยก่อนจะเปิดพอร์ตหุ้น สามารถลองเข้ามาคุยกับผู้เชี่ยวชาญทางการเงินของ MoneyDuck ซึ่งพร้อมจะช่วยคุณค่ะ!
สิทธิวัจน์
เป็นทางเดินที่น่ากลัวจริงๆนะครับ สำหรับคนที่เล่นหุ้นใหม่ๆ ต้องศึกษาให้ดีก่อนที่จะลงสยนามจริงๆ ขนาดคนที่เล่นหุ้นมานานนับสิบๆปี ก็ยังพลาดท่าได้เลยครับ บทความนี้ให้แง่คิดที่ดีกับมือใหม่ที่อยากเข้ามาเล่นนะครับ อ่อ เพื่อนๆหลายคนที่เล่นในตลาดหุ้นไทย ที่ผมรูจักนะครับ เขาบอกว่าช่วงนี้หุ้นไทย อยู่ในช่วงขาลงนะครับ
เขียวมิ้นท์
การเล่นหุ้น ยังคงเป็นการลงทุนที่เรากังวลมากอยู่ดี หรือเราจะไม่ถนัดกับเรื่องการเล่นหุ้นก็ไม่รู้นะ คือ รู้สึกว่ามันเป็นการลงทุนที่เสี่ยงอะ ดูจากบทความนี้สิ กว่าจะซื้อ-ขายหุ้นได้ มันมีหลายอย่างหลายเรื่องมากนะที่ต้องเรียนรู้กันก่อน แต่ถ้าใครที่ถนัดแนวทางนี้แล้ว เล่นหุ้นจนมีเงินเยอะๆได้ เราถือว่าคุณเก่งมากค่ะ
คณิตคณิต
เป็นคำแนะนำที่ดีสำหรับคนที่อยากจะเล่นหุ้นนะ มือใหม่มีอะไรหลายอย่างที่ต้องเรียนรู้ ถ้าเริ่มจากพื้นฐานที่ดี มีการเริ่มต้นที่ถูกจุด ก้าวต่อไปก็จะมั่นคงมากขึ้นเรื่อยๆ เอาใจช่วยทุกคนที่อยากนำเงินมาต่อยอดให้มีรายได้ ให้มีเงินเก็บเอาไว้ใช้กันต่อๆไปนะครับ ตอนแรกๆอย่าเพิ่งหวังว่าจะได้กำไรมากๆ เอาแค่ไม่ขาดทุนก็พอ
วารินทร์
ใช่เลยครับ คนที่เป็นมือใหม่ต้องตั้ง สติให้ดีๆครับ อย่าเชื่ออะไรง่ายๆเกี่ยวกับหุ้นในบ้านเราครับ ผมเจอมากับกับตัวเองแล้วครับ ตอนที่ หุ้นตัวใหม่ของ ปตท. ออกมาผมซื้อหลายหุ้นเลยครับ ตอนนี้เป็นยังไงนะเหรอครับ ยังไม่กล้าขายเลยครับ เพราะว่ากำไรที่จะได้มันน้อยมากเลยครับ ต้องเชคดีๆนะครับ ว่าหุ้นมันโดนปั่นมาไหม
Volley
การซื้อ-ขายหุ้นนี่เรื่องเยอะเหมือนกันนะ ผมเคยไปดูตารางหุ้นมาเหมือนกัน เล่นเอาซะปวดหัวเลยทีเดียว ชื่นชมมากนะคนที่เล่นหุ้นนี่ สมองต้องเก่งตัวเลขมากจริง ผมมีเพื่อนที่เล่นหุ้นนะ เวลามันมาเล่าให้ฟังทีไร ผมต้องไปกินยาพาราทุกทีเลย ปวดหัวครับ แค่ฟังนะเนี่ย แต่ไม่ใช่ว่าไม่อยากรู้นะ อยากรู้อยากลองเล่นบ้าง อยากให้เงินทำงานบ้างแต่ความสามารถมันไม่ถึงยังไงไม่รู้5555
ทุ่มเท..ทิ้ง
โดยพื้นฐาน ผมเป็นคนไม่ชอบตัวเลข ไม่ชอบการคำนวณ มันมีผลกับการเล่นหุ้นมั้ยครับ ผมยังไม่เคยลงทุนในหุ้นนะเพราะว่าไม่กล้าแล้วก็ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองเท่าไหร่ อย่างที่บอกไปน่ะครับว่าโดยพื้นฐานแล้วผมเป็นคนยังไง ถ้าไปเล่นหุ้นผมจะขาดทุนยับหรือเปล่า มีเพื่อนๆคนไหนที่เล่นหุ้นแล้วได้กำไรดีๆบ้างครับ เข้ามาเล่าประสบการณ์กันหน่อยสิ
ภาณุวัฒน์
อยากจะมาเล่าให้ฟังครับ เป็นบทเรียนของคนที่เล่นหุ้นหน้าใหม่ๆครับ ผม ก็เริ่มเล่นเมื่อสองปีที่แล้วครับ เล่นพร้อมกับช่วงที่โควิด-19ระบาดเลยครับ ก็จับหุ้นมาตัวหนึ่งครับ ตอนแรกๆ ที่ผมดูหุ้นตัวดี ไปในทิศทางที่ดีนะครับ แต่พอผมซื้อปุ๊บ ราคาหุ้นร่วงเลยครับ ปรากฎว่า ตอนนี้ยังติดแงอยู่เลยครับ แถมไม่กล้าขายด้วยครับ
Krongtong
การลงทุนในหุ้นนี่ไม่ง่ายเลยนะคะ พี่เราก็เคยลงทุนไปนะ อาจจะไม่ได้เยอะเหมือนคนอื่นๆ แต่เราว่ามันก็หลายบาทอยู่อะ พี่ลงทุนไป แล้วยังไงไม่รู้หุ้นมันเดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลง เลยตัดสินใจขายไปละ นี่ถ้าเป็นหุ้นต่างประเทศหรือหุ้นที่ต้องลงทุนมากๆ คงจะแย่นะ แบบนั้นต้องมีประสบการณ์มากๆก่อนแล้วค่อยลงทุนใช่มั้ยคะ ไม่งั้นขาดทุนแน่