เมื่อพูดถึงบัตรเครดิตเราก็คิดถึงความสะดวกสะบายในการใช้จ่ายต่าง ๆ มีสิทธิพิเศษหรือโปรโมชั่น และมีประโยชน์ต่าง ๆอีกมากมายหลายอย่าง รวมถึงการที่เราไม่จำเป็นต้องพกเงินในกระเป๋าเป็นจำนวนเยอะ ๆ ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการมิจฉาชีพหรือโดนขโมย

แต่รู้ไหมว่าการปลอมแปลงบัตรเครดิตก็เป็นอีกทางนึงที่มิจฉาชีพใช้ในการขโมยเงินของเรา หรืออาจถึงกับปลอมเป็นเจ้าของบัตรและทำธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ เอง ไม่ว่าจะเป็นการถอนเงินออกจากบัญชี เป็นต้น และมีกลโกงจากบัตรเครดิตอีกหลายอย่างที่มิจฉาชีพใช้ดังนั้นเราจำเป็นต้องรู้ให้ทันมัจฉาชีพ โดยเราจะมาดูวิธีสังเกตบัตรเครดิตปลอม การหลีกเลี่ยงบัตรเครดิตปลอม แต่เราจะมาดูกันก่อนว่าการปลอมบัตรเครดิตคืออะไร

การปลอมบัตรเครดิตคืออะไร

fake credit card

pzAxe/shutterstock.com

การปลอมบัตรเครดิตเป็นกลโกงอย่างหนึ่งที่มิจฉาชีพใช้การปลอมแปลงบัตรเครดิตอาจทำได้หลายวิธีให้เรามาดูวิธีต่าง ๆที่มิจฉาชีพใช้กัน

Skimmer

คือเครื่องที่สามารถคัดลอกข้อมูลส่วนตัวในบัตรเครดิตผ่านแถบแม่เหล็กที่อยู่บนบัตรเครดิต จากนั้นจะทำการถ่ายโอนข้อมูลเหล่านั้นนำไปทำบัตรเครดิตปลอม และมิจฉาชีพก็สามารนำบัตรเครดิตปลอมนั้นไปใช้จ่ายซื้อสินค้าต่าง ๆได้เหมือนกับว่าเป็นบัตรเครดิตตัวเอง

ใช้เอกสารส่วนตัวของเราสมัครบัตรเครดิต

มิจฉาชีพอาจใช้วิธีนี้โดยการปลอมแปลงเอกสารหรืออาจจะใช้อากสารส่วนตัวของตัวเรา เพื่อจะนำไปใช้สมัครบัตรเครดิต หรืออาจแจ้งเปลี่ยนบัตรโดยมิจฉาชีพก็จะได้รับบัตรไปใช้จ่ายโดยเป็นชื่อของเรา นี่เป็นบางตัวอย่างเท่านั้นในเรื่องของการปลอมแปลงบัตรเครดิตแต่ว่าแน่นอนอยู่แล้วว่าเราก็มีวิธีสังเกตเพื่อที่จะรู้เท่าทันการโดนกลโกงของมิจฉาชีพทั้งหลายที่จะพยายามจะปลอมแปลงบัตรเครดิต

วิธีการสังเกตบัตรเครดิตปลอม

observe

Javier Brosch/shutterstock.com

แม้ว่าในปัจจุบันก็มีความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้นในหลาย ๆด้านแต่เราก็อย่าประมาทเชียวหล่ะ เรามีวิธีที่จะเช็กบัตรเครดิตที่เรามีได้เพื่อจะดูว่าบัตรของเรานั้นเป็นบัตรเครดิตปลอมหรือบัตรเครดิตจริงกันแน่

บัตรจริงตัวเลขต้องนูนขึ้นชัดเจนถูกต้อง

การสังเกตอย่างแรกนี้เราสามารถทำได้ไม่ยากเราต้องสังเกตหมายเลขของบัตรจะนูนขึ้นต้องชัดเจนและต้องต้องเสมอกันด้วย และเรายังใช้หมายเลขที่นูนขึ้นนี้เทียบกับสลิปที่พิมพ์ออกมาได้อีกด้วยว่าตรงกันหรือไม่ ถ้าสังเกตเห็นว่าหมายเลขบัตรที่ปั๊มนูนไม่ชัดเจนหรือไม่เสมอกันหรือไม่ชัดเจน และตัวเลขไม่ตรงกับที่เราเช็กในสลิปที่พิมพ์ออกมาบัตรนั้นก็อาจจะเป็นบัตรปลอมแปลงก็ได้

เลขที่พิมพ์ไว้ใต้ตัวเลขที่นูนต้องตรงกัน

บัตรบางประเภทจะมีเลข 4 หลักพิมพ์ไว้ซึ่งตัวเลข 4 หลักนี้จะอยู่ข้างใต้ตัวเลขที่นูนขึ้นซึ่งหมายเลขสี่ตัวแรกที่นูนขึ้นนั้นจะเหมืนกันกับตัวเลขข้างล่างที่พิมพ์ไว้ ถ้าหมายเลขไม่ต้องกันบัตรนั้นก็คือบัตรปลอม

สังเกตภาพสามมิติที่อยู่บนบัตร

ลองขยับบัตรดูถ้าหากเราขยับบัตรแล้วภาพสามมิติต้องขยับได้และเห็นเป็นรูปแบบภาพสามมิติ แต่ถ้าภาพสามมิติไม่ขยับ ไม่เกิดภาพสามมิติแสดงว่าบัตรนั้นเป็นบัตรปลอม

หลังจากเราตรวจสอบละสังเกตบัตรเครดิตของเราแล้วเราพบเห็นบัตรเครดิตปลอมหล่ะเราจะทำอย่างไรดีให้เรามาดูว่าเราควรทำอย่างไรเมื่อเจอบัตรเครดิตปลอม

เราควรทำอย่างไรเมื่อเจอบัตรเครดิตปลอม

ถ้าเรานั้นถูกโจมกรรมบัตรเครดิตหรือถูกปลอมแปลงบัตรเครดิตที่สำคัญและเราควรทำเป็นอย่างแรกเลยคือการแจ้งธนาคารหรือบริษัทที่ออกบัตรเครดิตให้กับเราเพื่อระงับบัตรเครดิตเพื่อไม่ให้มิจฉาชีพที่ปลอมแปลงบัตรของเราไม่นำบัตรของเราไปใช้จ่ายมั่ว และเราก็ควรแจ้งความที่สถานีตำรวจด้วยเพื่อนำหลักฐานไว้ในการชี้แจ้งเมื่อมีการใช้จ่ายสินค้าและบริการที่ไม่ได้เกิดจากตัวเราเอง

ในสุดท้ายนี้เรามีวิธีป้องกันหรือหลีกเลี่ยงการปลอมแปลงบัตรเครดิตมาฝากครับ

วิธีการหลีกเลี่ยงบัตรเครดิตปลอม

avoid fake credit card

Cat Box/shutterstock.com

เก็บรักษาบัตรเครดิตไว้ให้ดีที่สุด

การเก็บรักษาบัตรเครดิตก็เหมือนกับการเก็บเงินสดนั่นแหละเราต้องเก็บรักษาดี ๆ คอยเช็กอยู่เสมอว่าบัตรหายไปหรือป่าว ถ้าบัตรหายก็แจ้งทันที

ลงนามบนบัตร

เราควรจะเซ็นชื่อเราลงบนบัตรเครดิตตั้งแต่เริ่มใช้บัตร

อย่าคลาดสายตาเมื่อต้องใช้บัตรเครดิตรูดชำระค่าสินค้า

มิจฉาชีพมักใช้โอกาศตอนที่เรารูดบัตรเครดิตซื้อสินค้าและบริการต่าง ๆเพื่อจะขโมยข้อมูลในบัตรของเราและถ่ายโอนข้อมูลลงในบัตรปลอมและสามารถนำบัตรปลอมไปใช้จ่ายต่าง ๆในนามของเราได้ดังนั้นเรื่องนี้จึงสำคัญมาก

ตรวจสอบก่อนเซ็นสลิป

เช็กจำนวนเงินกับราคาสินค้าและบริการว่าตรงกันไหม และต้องเก็บสลิปเอาไว้ด้วยเพื่อนำไว้ตรวจสอบภายหลัง

เช็กสลิปกับใบแจ้งบัญชีบัตรเครดิตประจำเดือน

จากหัวข้อที่แล้วเราสามารถนำสลิปที่เก็บเอาไว้จากการซื้อสินค้าและบริการมาตรวจสอบกับยอดค่าใช้จ่ายในใบแจ้งบัญชีบัตรเครดิตประจำเดือนว่าตรงกับจำนวนเงินที่คุณใช่ไปหรือปล่าว

อย่าบอกหมายเลขบัตรเครดิตของเราให้คนอื่น

เราไม่ควรบอกหมายเลขบัตรเครดิตให้คนอื่นไม่ว่าจะเป็นทางโทรศัพท์หรือทางอื่นเด็ดขาด ยกเว้นเป็นฝ่ายติดต่อด้วยตัวเองหรือเป็นองค์กรที่น่าเชื่อถือ

บัตรเครดิตนั้นมีประโยชน์แต่เราต้องใช้มันอย่างระวังและไม่ประมาทเพื่อจะไม่ตกเป็นเหงื่อของมิจฉาชีพถ้าคุณทำตามคำแนะนำเหล่านี้การใช้บัตรเครดิตของเราก็จะปลอดภัยครับ