ผมแน่ใจว่าเพื่อนๆ ทุกคนที่มีรถต้องรู้จัก พ.ร.บ. อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ รถจักรยานยนต์ แต่หัวเรื่องในวันนี้มันเป็นคำถามว่า ไอตัว พ.ร.บ. เนี้ยมันมีประโยชน์หรือไม่มีประโยชน์ อ่ะแต่สำหรับเพื่อนๆที่ยังไม่มีรถแล้วไม่รู้จัก พ.ร.บ. แล้วอยากศึกษาหาความรู้ก็สามารถอ่านบทความนี้ได้นะครับ มาเรามารู้จัก พ.ร.บ. ไปพร้อมกันสำหรับใครที่รู้อยู่แล้วก็ถือว่าเป็นการทบทวนความรู้ที่มีล่ะกันนะครับ พ.ร.บ. นั้น ย่อมาจากคำว่า พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ซึ่งก็มีชื่อเรียกที่หลากหลาย บางคนก็เรียก พ.ร.บ. ว่า ประกันภัย พ.ร.บ. หรือ พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ และแน่นอนชื่อก็มีบอกอยู่ว่าคือประกันภัยคุ้มครอง ก็แปลว่า พ.ร.บ.
นั้นจะมีประโยชน์ในกรณีเกิดอุบัติเหตุนั้นเอง เมื่อเราทำประกันทั่วไปนั้นแหละครับ แต่ต่างกันตรงที่ประกันทั่วไปนั้นเราสมัครใจที่จะทำ แต่ไอ พ.ร.บ. เนี่ยมันเป็นภาคบังคับ ถ้าใครที่ไม่ได้ต่อ พ.ร.บ. หรือ พ.ร.บ. ขาดนะเตรียมตัวได้เลย เวลาเจอด่านรับใบสั่งเสียค่าปรับแน่นอนครับ ซึ่งประโยชน์หรือการคุ้มครองของ พ.ร.บ. เนี่ยก็จะเป็นได้ 2 กรณี คือ กรณีความคุ้มครองแบบไม่ต้องรอพิสูจน์ความผิด และอีกกรณี คือ กรณีความคุ้มครองหลังจากรอพิสูจน์ความจริง ส่วนรายละเอียดของแต่ละกรณีจะเป็นยังไงให้ไปดูต่อที่หัวข้อถัดไปได้เลยครับ
ให้ความคุ้มครองแบบไม่ต้องมีการพิสูจน์ความผิด
การคุ้มครองแบบไม่ต้องมีการพิสูจน์ความผิด คือ เมื่อเกิดอุบัติเหตุไม่ว่าเราจะไปชนเขาเขาจะมาชนเราเราจะผิดหรือคู่กรณีจะผิดจะอะไรก็แล้วแต่ เมื่อนำตัวเราส่งไปที่โรงพยาบาล พ.ร.บ. ก็จะทำการคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้น โดยจะจ่ายตามความจริงโดยที่มีวงเงินการคุ้มครองอยู่ที่ 30,000 บาท/คน แต่ถ้าเกิดกรณีที่เสียชีวิต พิการ หรือ ทุพพลภาพถาวร จะได้วงเงินอยู่ที่ 35,000 บาท/คน
โดยที่แต่ละโรงพยาบาลก็จะมีแผนกการดูแลการแจ้งเคลม พ.ร.บ. โดยวิธีการแจ้งเคลม พ.ร.บ. ก็สามารถที่จะแจ้งได้ตามทะเบียนรถของเราได้เลย ซี่งเราจะต้องแจ้งความลงบันทึกประจำวัน เพื่อเคลมค่ารักษาภายใน 180 วัน นับจากวันที่เกิดเหตุ หรือก็คือ ประมาณ 6 เดือน แต่ถ้าหากมีคำถามหรือสงัยอะเพิ่มเติม สามารถ ที่จะโทรถามบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ สายด่วน 1791 หรือโทร 02-1009191
ให้ความคุ้มครองหลังจากพิสูจน์หลักฐานแล้ว
กรณีให้ความคุ้มครองหลังจากพิสูจน์หลักฐานแล้ว อ่ะอย่างเพิ่งตกใจและสับสนมันคือออฟชั่นเสริมของ พ.ร.บ คือหลังจากเราผ่านกรณีแรกไปแล้วที่เราจะได้รับการคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้นตามความจริงแล้ว วงเงิน 30,000 บาทต่อคน และ 35,000 บาทต่อคน ถ้าเกิดเสียชีวิต พิการ ตาบอด หูหนวก ลิ้นขาด เสียแขน เสียขา เสียมือ นิ้ว พ.ร.บ ก็จะคุ้มครองเพิ่มขึ้นอีก หลังจากที่พิสูจน์แล้วว่าเรานั้นเป็นฝ่ายที่ถูกหลังจากเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งจะเป็นการช่วยเราจ่ายเพิ่มจากค่าเสียหายส่วนเกินต่างๆ โดยมีเงื่อน
ดังนี้ โดยจะเป็นการช่วยรักษาพยาบาลที่จ่ายตามจริงเหมือนเดิมแต่จากวงเงิน 30,000 บาทต่อคนจะเปลี่ยนเป็น 80,000 บาทต่อคน และถ้ากรณีเสียชีวิต ก็มีเงินค่าทำศพให้ถึง 300,000 บาท และถ้าสูญเสียอวัยยวะราคาก็จะตามนี้ คือ นิ้วขาด 1 ข้อขึ้นไป ชดเชยให้ 200,000 สูญเสียอวัยวะ 1 ส่วน แขนขาด ขาขาด มือขาด เท้าขาด ชดเชย 250,000 บาท สูญเสียอวัยวะถึง 2 ส่วน ชดเชย 300,000 บาท
ทั้งหมดนี้คือประโยชน์ที่จะได้รับในการทำประกันภัยภาคบังคับของทั้ง พ.ร.บ. รถยนต์ และ พ.ร.บ. จักรยานยนต์ และนอกจากค่ารักษาพยาบาลเบื้อต้นและค่าชดเชย หากพิสูจน์แล้วเราเป็นฝ่ายถูก ยังมีค่าชดเชยรายวันให้อีกวันละ 200 ถ้าเราต้องมีการนอนโรงพยาบาล เป็นผู้ป่วยภายใน (IPD) สูงสุดไม่เกิน 4,000 บาท หรือ ประมาณ 20 วัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นค่าชดเชยรายวันจะถูกจ่ายในกรณีที่พิสูจน์แล้วว่าเราเป็นฝ่ายถูกเท่านั้นแต่ถ้าเป็นฝ่ายผิดก็รับไปแค่การคุ้มครองในกรณีแรกที่คุ้มครองทันทีโดยไม่ต้องรอพิสูจน์
เอกสารที่ต้องใช้เพื่อเบิกเคลมความคุ้มครอง
หลังจากที่รู้ไปแล้วว่า พ.ร.บ. นั้นมีประโยชน์อย่างไร และคุ้มครองเรายังไง ในกรณีอะไรขนาดไหนแล้ว สิ่งต่อไปอีกอย่างที่จำเป็นต้องรู้ถ้าหากอยากที่จะทำการเคลมประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากยานพาหนะได้ ก็คือ เอกสารที่ใช้ในการเคลมความคุ้มครอง โดยที่เอกสารและหลักฐานทที่จะใช้เคลมประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากยานพาหนะ เบื้องต้นกับทาง บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด มีดังนี้ :
1.สำเนาบัตรประชาชน พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง 2.สำเนาใบขับขี่ พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง 3.สำเนาทะเบียนรถ 4.สำเนาทะเบียนบ้านของทั้งสองฝ่ายทั้งทางฝ่ายเราและฝ่ายคู่กรณี 5.หน้าตาราง พ.ร.บ. รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ 6.บันทึกประจำวันจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ เอกสารเพิ่มเติม
ในกรณีที่ได้รับาดเจ็บ
1.ใบเสร็จค่ารักษพยาบาล 2.ใบรับรองแพทย์
กรณีที่เสียชีวิต
1.สำเนามรณบัตร 2.สำเนาบัตรประชาชนของทายาทในกรณีที่ผู้ประสบภัยเสียชีวิต 3.ใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล (ถ้ามี)
หลังจากที่ได้เตรียมเอกสารครบเรียบร้อยแล้วทำการยื่นเอกสารของเคลมเสร็จ เราก็จะได้รับเงินชดเชยตามที่บอกไปทั้งหมดในหัวข้อท่ผ่านมา ภายใน 7 วัน ทำการ
สรุป
เป็นยังไงกันบ้าง คนจะรู้จัก พ.ร.บ. และใช้เป็นกันแล้วใช่ไหมล่ะครับ เรามาสรุปกันให้เข้าใจง่ายๆเลย พ.ร.บ. คือประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ซึ่ง เป็นภาคบังคับ เมื่อซื้อรถก็จะมี พ.ร.บ. ติดมาด้วยเลย และเราก็ต้องทำการต่อทุกๆปีถ้าไม่ต่อก็ผิดกฏหมายโดนใบสั่ง และการคุ้มครองของ พ.ร.บ.ก็มี 2 กรณี คือ คุ้มครองเบื้องต้น และ การคุ้มครองที่พิเศษ และวงเงินคุ้มครองมากว่าการคุ้มครองเบื้องต้นและมีเงินค่าชดเชยและเงินชดเชยรายวันให้คือการคุ้มครองแบบที่รอการพิสูจน์แล้วว่าเรานั้นเป็นฝ่ายที่ถูกต้อง แต่ถ้าให้ดีก็ขออยากให้ได้ใช้เลยนะครับไอ พ.ร.บ. เพราะถ้าได้ใช้แปลว่าเรานั้นเกิดอุบัติเหตุ อย่างไงใช้รถใช้ถนนก็ควรระมัดระวังให้ดีนะครับ
น้ำตาล
เมื่อเราใช้รถยนต์หรือรถมอเตอร์ไซค์เราจะเห็นว่ามีการบังคับให้เราทำพรบ ทุกปี เมื่อเราใช้รถเราก็เห็นว่าเราไม่เห็นว่าพรบจะเป็นประโยชน์อะไรกับเราเลยเพราะว่าไม่เคยเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับเราสักที แต่พอได้อ่านบทความนี้ก็ได้เข้าใจเลยค่ะว่าทำไมเราจำเป็นต้องทำพรบ ทุกปี เพราะผลประโยชน์ที่ได้รับในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุขึ้นในค่ารักษาพยาบาลก็คือตัวเราได้รับประโยชน์นั่นแหละค่ะ
Lalita
สำหรับคนที่มีรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ การมีพ.ร.บ.ช่วยได้มากนะคะ สำคัญมากที่ต้องต่ออายุให้ตรงตามกำหนดทุกปีเพราะไม่มีใครรู้ว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ มีไว้อุ่นใจกว่าค่ะ แต่ถึงจะมีพ.ร.บ.แล้วเราก็ยังต้องขับรถด้วยความระมัดระวังอยู่ดี ถ้าเกิดอุบัติเหตุจริงคงไม่ใช่แค่เราแต่เป็นคนอื่นด้วยที่จะเดือดร้อนค่ะ
กระต่าย
เคยเจอมากับตัวเองเลยคะ ไมม่เคยทำประกันอุบัติเหตุ นะคะ ขับรถเครื่อง แล้วมีอุบัติเหตุ เงินก็ขาดมือคะช่วงนั้น แต่ ก็ได้เจ้า พรบ. นี่ละคะช่วยเรื่องการรักษา พยาบาล วงเงินที่ พรบ. คุ้มครอง อาจไม่สูงมากนะคะ แต่ ถ้ายามขับขันจริงๆ เชื่อเถอะคะ มันปรประโยชน์จริงๆคะ อืม ว่าแต่ พรบ. ของเราขาดยังเนีียะ เดี่ยวๆต้องรีบไปเชคก่อน
เด็กแว้น
มีประโยชน์สิครับ ไม่อ่านก็รู้ว่ามีประโยชน์ อย่างน้อยๆก็ไม่ถูกตำรวจจับคร้าบบบบ นี่แหละประโยชน์ของผม ล้อเล่นนะครับมีสาระกันบ้าง ผมยอมรับว่าไม่สนใจมากนักก่อนหน้านี้นะ สนก็แค่เรื่องนั้นแหละที่ผมบอกไปมี พรบ. ก็ไม่ถูกจับถูกปรับ แต่จริงๆพรบ. มีประโยชน์มากกว่านั้นยิ่งนัก ยิ่งอ่านยิ่งรู้ซึ้ง และยิ่งซึ้งเมื่ออ่านประสบการณ์ของคุณกระต่ายครับ
หวีด
พรบ.เนี่ยมันเป็นตัวที่กฎหมายบังคับไม่ใช่หรอคะ จะยังไงถ้ามีรถยนต์หรือรถมอเตอร์ไซค์เราก็ต้องทำพรบ.อยู่ดี ส่วนตัวเราเองมีรถยนต์คันเก่าๆอยู่คันนึงก็เลยทำพรบ.แล้วก็ทำประกันภัยชั้น 3 ไว้มันก็ทำให้เราอุ่นใจเวลาขับขี่ด้วยหนึ่งถ้าเกิดอุบัติเหตุอย่างน้อยเราก็ไม่ต้องพักของตัวเองจ่ายของคู่กรณีรับผิดชอบแต่ของตัวเองก็พอ อย่างที่ 2 เลยก็คือเวลาตำรวจเรียกไม่ต้องโดนค่าปรับค่ะ
น้ำฝน
สงสัยนิดนึงนะคะว่า ถ้ารถเราทำทั้งประกันภัยและทำพรบ สมมุติว่าเราขับรถโดยประมาทแล้วไปเฉี่ยวชนผู้อื่นทำให้ได้รับบาดเจ็บ ตรงนี้ใครจะเป็นคนรับผิดชอบในเรื่องค่าใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาลของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ พรบหรือประกันภัย?? อันนี้ถามเพราะว่าสงสัยเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องจริงคะ ถ้าพรบคุ้มครองอยู่แล้วจำเป็นไหมที่เราต้องทำประกันเพิ่ม? รบกวนช่วยตอบทีนะคะ ขอบคุณค่ะ
ปูริดา
ต้อง อธิบายแบบนี้นะคะ ถ้าหากเรามีอุบัติเหตุ ทางเจ้าหน้าที่จะเชคก่อนว่า รถเราได้ทำ พรบ.ได้ไหม หลังจากนั้น เขาก็จะใช้เงินคุ้มครองใน พรบ.ก่อน แล้วถ้าหาก พรบ. ค่าใช้จ่ายไม่พอ ก็จะหันมาที่ ประกันที่เราทำไว้ ซึ่ง คนที่จะทำเรื่องก็น่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ประกัน คะ เขาจะไล่ไปที่ละระดับคะ อันนี้คือความเข้าใจของเรานะคะ ผิดถูกขอโทษด้วยคะ
แพน
เตรียมเอกสารเหมือนกันนะคะสำหรับคนที่อยากจะได้รับการคุ้มครองจากพรบ อย่างน้อยการทำพรบไว้จะทำให้เราได้รับผลประโยชน์ตอนที่เราประสบอุบัติเหตุ ทางท้องถนน ไม่ว่าจะเป็นคนเดินผ่านไปผ่านมา หรือตัวเราก็จะได้รับประโยชน์จากค่ารักษาของพรบช่วยเหลือค่า ซึ่งตรงนี้เราต้องรู้จักการเตรียมเอกสารด้วย เพื่อช่วยให้สามารถทำเรื่องได้อย่างถูกต้องในการขอเงินค่ารักษาค่า
ธนา
@กระต่าย ถือว่าเป็นการเปิดประสบการณ์เลยนะครับ แต่ก็ดีที่ยังได้ประสบการณ์แล้วได้รู้ว่าพรบ.ดีต่อผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ยังไง เพราะถ้าใครยังไม่รู้ผมว่าบทความนี้ให้ข้อมูลที่ดีเลย บางครั้งไม่จำเป็นจะต้องเจอประสบการณ์จริงเหมือนคุณกระต่ายก็ได้นะ จริงๆดูเอาไว้ก่อนก็สามารถจัดการ รับความคุ้มครองรับสิทธิ์ที่ควรได้ ได้เต็มที่มากกว่า
ศุภนันต์
ถ้าเป็นแบบต่างจังหวัด แถวที่ผมอยู่นะครับ ซื้อรถมาแล้ว ก็ไม่ได้วนใจเรื่องต่อทะเบียน หรือว่า พรบ. เลยครับ เอามาใช้เข้าไร่เข้านากันอย่างเดียวเลน ถ้าจะเข้าเมือส่วนให้ก็ใช้รถยนต์เข้ามากันครับ แต่ พรบ. ดีนะครับที่เขาบังคับให้เราทำ เพราะส่วนใหญ่แล้วประกันอุบัติเหตุไม่ค่อยมีคนทำกันเท่าไรครับ เพราะคิดว่าเบี้ยแพงแต่ดีที่มี ตัวนี้ช่วยเวลามีอุบัติเหตุ
Sutin
@เด็กแว้น เฮ้ยคิดเหมือนกันเล้ยยย!!! ก็ไม่เคยใช้ประโยชน์จากพรบนะ มีแต่ต้องไปจ่ายเงินทุกปี ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะไม่รู้ ผมก็รู้เหมือนกับพี่เลยครับ ก็คือถ้าเราต่อพรบไม่ขาดอายุก็คือไม่เสียค่าปรับเวลา เจอด่านตรวจ แต่พอมาอ่านศึกษามากขึ้น ก็ถึงบางอ้อ ได้รู้ว่าพรบก็ใช้ประโยชน์อะไรได้บ้างส่วนมากก็เมื่อเกิดอุบัติเหตุนะ
A>HA
สำหรับเรา เราว่าพรบ.ก็เหมือนกับประกันสังคมอ่ะ จ่ายไปๆเหอะมีประโยชน์อยู่แล้ว จะใช้ไม่ได้ใช้ไม่เกี่ยวหรอกไม่ได้เเพงอะไรมากมาย อย่างน้อยเกิดเหตุอะไรขึ้นตรงนี้ก็ยังช่วยเราได้ทั้งคนขับและคนเดินถนน ดีไม่ใช่น้อย ต่อๆไปเหอะ เหมือนประกันสังคมอ่ะ ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ได้ครอบคลุมเหมือนกับประกันสุขภาพแต่อย่างน้อยก็ช่วยได้ในระดับนึงนะ
Primpry
@น้ำฝน คำถามที่น่าคิดนะคะ เป็นเหตุการณ์ที่มีโอกาสเกิดขึ้นจริงได้ ถ้าใครไม่รู้ข้อมูลก็อาจจะงงแล้วก็สงสัยเหมือนกับคุณค่ะ ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้แต่พอมาอ่าน Comment ของคุณก็เลยลองไปหาข้อมูลดู จะมาตอบให้นะคะ ถ้าเป็นคุ้มครองค่ารักษาสำหรับคนที่เราไปเฉี่ยวชนเขาน่าจะเป็นประกันรถยนต์ที่จ่าย ส่วนเรื่องความเสียหายอื่นๆก็สามารถใช้ความคุ้มครองได้ทั้ง 2 ประกันเลยค่ะ ทั้งพรบ.แล้วก็ประกันภัยรถยนต์