ผมต้องบอกก่อนว่าการเริ่มต้นทำอะไรสักอย่างในชีวิตไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม การเริ่มต้นเป็นสิ่งที่ยากที่สุด ไม่ใช่แค่กับเรื่องของธุรกิจเพียงอย่างเดียว ตั้งแต่ที่เกิดมาเป็นทารก ก็มีการเริ่มคลาน การเริ่มเดิน การเริ่มพูด และโตขึ้นมาก็มีการเริ่มฝึกขี่จักรยาน เพื่อนๆลองคิดดูว่าทุกอย่างที่ผมบอกมาทั้งหมดการเริ่มทำครั้งแรก เป็นอะไรที่ยากมากและยากที่สุดเพราะเพื่อนไม่มีประสบการณ์และไม่เคยทำสิ่งเหล่านี้ แต่เมื่อทำเป็นแล้วการจะทำครั้งต่อๆไปก็ง่ายนิดเดียว คงไม่มีใครที่ฝึกขี่จักรยานเป็นแล้วและพอลงจากจักรยานก็กลับไปขี่ไม่เป็นหรอกจริงไหมครับ เรื่องของธุรกิจก็คล้ายๆกันกับตัวอย่างที่ผมยกขึ้นมาให้พื่อนๆได้เห็น เพราะการสร้างธุรกิจนั้น การเริ่มคิดไอเดียเป็นสิ่งแรกที่จะต้องทำและสำหรับคนไม่เคยมันเป็นสิ่งที่ยากที่สุด และแน่นอนผมเชื่อว่าเพื่อนๆหลายคนมีความฝันที่อยากจะเป็นเจ้าของธุรกิจอะไรสักอย่างอยู่แล้วในชีวิตนี้ ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยเหมือนกัน แล้วจะเริ่มการสร้างธุรกิจก็ต้องมีไอเดียก่อนใช่ไหมครับ ซึ่งเป็นส่วนที่ผมบอกว่ายากที่สุดสำหรับคนที่ไม่เคยทำและเริ่มทำเป็นครั้งแรก และถ้าหากเพื่อนๆอยากที่จะมีธุรกิจอยากที่จะสร้างธุรกิจแต่ยังไม่มีไอเดีย ยังคิดไม่ออก ในบทความนี้ผมจะพาเพื่อนๆไปรู้จักกับ 4 เรื่องที่เพื่อนๆจะต้องเอามาเป็นหัวข้อในการคิดไอเดียในการสร้างธุรกิจขึ้นมา มีเรื่องอะไรบ้างไปดูกันครับ

1.คิดถึงปัญหาของสังคมในยุคนี้

1.คิดถึงปัญหาของสังคมในยุคนี้

ถ้าหากในหัวของเพื่อนๆว่างเปล่าไม่รู้ว่าจะเริ่มสร้างธุรกิจเกี่ยวกับอะไรเลยแม้แต่อย่างเดียวที่จะสามารถทำเงินให้กับเพื่อนๆได้ ผมแนะนำ ให้เพื่อนๆมองไปที่เรื่องของปัญหาของสังคมในยุคนี้ เป็นเรื่องแรก ว่าในสังคมในยุคนี้ในยุคที่เพื่อนๆอาศัยอยู่นั้นมีปัญหาอะไรบ้าง แล้วลองหาวิธีการแก้ไขปัญหานั้นดูและหลังจากที่คิดวิธีแก้ปัญหาของสังคมที่เพื่อนๆสังเกตเห็นได้แล้ว ก็นำวิธีการแก้ปัญหานั้นมาสร้างเป็นธุรกิจ และธุรกิจที่เพื่อนๆสร้างก็จะไปแก้ปัญหาให้กับคนอื่นๆในสังคมทำให้ธุรกิจของเพื่อนๆสามารถที่จะมีลูกค้ามาใช้บริการแน่นอนเพราะว่ามันเป็นธุรกิจที่ตอบโจทย์และสามารถแก้ปัญหาให้กับคนอื่นๆในสังคมได้

ซึ่งถ้าเพื่อนๆลองมองธุรกิจในตอนนี้ก็มีธุรกิจหลายอย่างที่เริ่มมาจากปัญหาที่พวกเขาต้องเจอในชีวิตประจำวันของตัวเอง และมีคนมากมายที่ประสบปัญหาในลักษณะแบบเดียวกันอยู่ด้วย และเมื่อเขาสามารถแก้ปัญหาของตัวเขาเองได้แล้ว ที่เป็นปัญหาเดียวกันกับคนอื่นๆ เขาก็เอาวิธีแก้ปัญหาของตัวเองมาเป็นไอเดียในการสร้างธุรกิจ แล้วลูกค้าจะหนีหายไปไหนล่ะในเมื่อธุรกิจนั้นสามารถที่จะแก้ปัญหาของพวกเขาได้เหมือนกัน ผมยกตัวอย่างนะครับให้เพื่อนๆเห็นภาพนะครับ เช่น ธุรกิจ ที่วางมือถือสมาร์ทโฟน ซึ่งพอในสมัยปัจจุบันผู้คนเริ่มนิยมใช้มือถือสมาร์ทโฟนกันมากขึ้นแล้วมีหลายคนที่ติดมือถือใช้มือถือในการดูหนังดูวีดีโอและก็ประสบกับปัญหาในการถือโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนเพื่อดูหนังเป็นเวลานานแล้วทำให้เกิดอาการเมื่อยแขนก็ทำให้เกิดธุรกิจที่มีการออกแบบที่วางมือถือออกมาขายเพื่อตอบโจยทย์กับปัญหานี้และก็จะเห็นว่าตอนนี้ที่ตั้งมือถือก็ได้รับความนิยมมากพอๆกับโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนที่ทุกคนที่มีมือถือสมาร์ทโฟนก็มีติดบ้านไว้คนละอันสองอันกันเลยทีเดียว

2.คิดถึงความต้องการของสังคมยุคนี้

2.คิดถึงความต้องการของสังคมยุคนี้

เรื่องที่ 2 ที่เพื่อนๆสามารถเอาเป็นไปหัวข้อในการคิดไอเดียสร้างธุรกิจได้ คือ ให้เพื่อนๆมองความต้องการของสังคมยุคนี้ หรือ จะเริ่มจากความต้องการของตัวเพื่อนๆเองก็ได้ และพยายามลองเลือกกลุ่มคนที่จะมาเป็นลูกค้าในธุรกิจของเพื่อนๆดูว่าเขาต้องการอะไร และเพื่อนๆยังสามารถที่จะคิดไปถึงความต้องการในอนาคตได้ด้วย ว่าในอนาคตแน่นอนสิ่งนี้จะเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการหรือคนที่เป็นกลุ่มลูกค้าของเพื่อนๆต้องการ โดยที่สิ่งนั้นทุกคนหรือคนที่เพื่อนๆมองเป็นกลุ่มลูกค้ายังไม่รู้จักด้วยซ้ำ เรียกว่าเป็นการคิดล่วงหน้าไปหนึ่งก้าว จากนั้นก็ให้เพื่อนๆเริ่มที่จะทำธุรกิจและผลิตภัณฑ์นั้นได้เลย และสิ่งที่สำคัญในการคิดไอเดียธุรกิจจากความต้องการของผู้คนเพื่อนๆจะต้องมีความกระตือรือร้นและสังเกตอยู่ตลอดเวลาเพราะอย่างที่รู้ว่าโลกหมุนเร็วขนาดไหนความต้องการของผู้คนก็เปลี่ยนไปเร็วเท่านั้น

ตัวอย่างธุรกิจที่สร้างมาจากความต้องการของผู้คน ก็คือ ธุรกิจเครื่องมือสือสารอย่างเช่น มือถือ ที่ในสมัยก่อนคนจะติดต่อสือสารกันไม่ได้สะดวกและรวดเร็วขนาดนี้ จะคุยกันประโยคหนึ่งต้องใช้เวลาในการติดต่อกันเป็นวันถึงสองวันโดยการเขียนจดหมายยิ่งอยู่คนละประเทศไม่ต้องพูดถึงเลยไม่มีทางรู้จักกันแน่ จนมาในปัจจุบันได้มีโทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการติดต่อสือสารใน และก็อีกธุรกิจหนึ่งที่ทันสมัยขึ้นมาหน่อยต่อยอดจากโทรศัพท์มือถือเพราะมาหลังจากที่โทรศัพท์มือถือได้รับความนิยมแล้ว คือ โซเชียลมีเดียที่ทำให้ทุกคนบนโลกในตอนนี้สามารถติดต่อสื่อสารได้ง่ายขึ้นและเข้าถึงมากขึ้นในการติดต่อสือสาร ยกตัวอย่าง Line และ Facebook ที่มีระบบสือสารเป็นข้อความ การโทร และ การวีดีโอคอลที่สามารถเห็นหน้าผู้สนทนาได้ซึ่งถ้าเป็นสมัยก่อนถามว่ามีคนรู้จักกับสิ่งนี้ไหม ก็ต้องบอกว่าไม่มี แต่ในปัจจุบันกับเป็นธุรกิจที่เติบโตและมีความต้องการสูงและทุกคนใช้งานมัน

3.คิดถึงความนิยมของคนยุคนี้

3.คิดถึงความนิยมของคนยุคนี้

ความนิยม หรือ ในภาษาอังกฤษ เรียกว่า Trend หรือคนไทยก็ใช้คำนี้เป็นคำทับศัพท์คือ เทรนด์ ซึ่งคำคำนี้มีความหมายก็ คือ สิ่งที่ได้รับความนิยมจากสังคม ซึ่งความนิยมของสังคมในยุคนี้ เพื่อนๆก็สามารถที่จะเอามาสร้างเป็นธุรกิจได้ด้วยเหมือนกัน ซึ่งในปัจจุบันก็มีธุรกิจหลายอย่างที่เกิดขึ้นมาตามเทรนด์ต่างๆมากมาย เพื่อนๆสามารถที่จะเอาไอเดียของธุรกิจเหล่านั้นมาสร้างเป็นธุรกิจของเพื่อนๆเองได้ด้วยเหมือนกัน

แต่ผมไม่ได้หมายความให้เพื่อนๆไปก๊อปปี้ธุรกิจคนอื่นมาทั้งหมดสร้างเป็นธุรกิจของตัวเองนะครับ ผมหมายถึง เพื่อนๆสามารถเอาไอเดียธุรกิจที่เกิดมาตามเทรนด์มากมายในตอนนี้ไปเป็นแนวทางต่างหาก เพื่อที่จะสร้างธุรกิจขึ้นมาซึ่งอาจจะมีความคล้ายๆกันอยู่และเพื่อที่ธุรกิจของเพื่อนๆจะได้รับความนิยมเพื่อนๆก็จะต้องสร้างความแตกต่างและจุดเด่นในธุรกิจของเพื่อนๆด้วยเพื่อที่จะสามารถเรียกลูกค้าจากร้านอื่นที่มีธุรกิจในลักษณะคล้ายๆกัน เพราะสร้างมาจากเทรนด์เดียวกัน และธุรกิจในลักษณะนี้ที่สร้างขึ้นมาตาม เทรนด์ นั้น ดูแล้วก็เป็นธุรกิจที่สร้างไม่ยากเพราะการสร้างธุรกิจตาม เทรนด์ นั้น เพื่อนๆจะรู้อยู่แล้วว่าจะได้รับความนิยมมากน้อยขนาดไหนเพราะมีตัวอย่างให้ดู แต่ในความยากของการสร้างธุรกิจตามเทรนด์นี้ก็คือ การเปิดธุรกิจให้ยั่งยืนยาวนานตลอดไป เพราะในเรื่องที่ 2  เรื่องความต้องการอย่างที่บอกความต้องการของคนเปลี่ยนเร็วมากขนาดไหน เทรนด์ ที่เป็นความนิยมของสังคมก็มีการเปลี่ยนแปลงเร็วไม่แพ้กัน

4.คิดถึงความชอบของตัวเอง

4.คิดถึงความชอบของตัวเอง

เรื่องสุดท้ายเรื่องที่ 4. เรื่องที่เพื่อนๆจะสามารถนำมาเป็นไอเดียในการสร้างธุรกิจ คือ คิดถึงความชอบของตัวเอง หรือในภาษาอังกฤษเรียกคำนี้ว่า Passion โดย เพื่อนๆสามารถเอาความชอบของเพื่อนๆเองหรือ Passion ของเพื่อนๆมาสร้างเป็นธุรกิจได้ และกลุ่มลูกค้าของเพื่อนๆก็จะเป็นกลุ่มคนที่มีความชอบเหมือนกับเพื่อนๆยิ่งเพื่อนๆมีความชอบที่เหมือนคนอื่นๆมากขนาดไหนธุรกิจของเพื่อนๆก็จะมีลูกค้ามากเท่านั้น ความชอบนั้น แบ่งออกเป็นได้ หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นความชอบเชิงหลงไหล การชอบมากขนาดถึงขั้นรัก และแน่นอนว่าการทำอะไรสักอย่างจากสิ่งที่ตัวเองชอบ รัก หรือ หลงไหล ย่อมทำได้นานและมักจะประสบความสำเร็จ

และผมอยากให้เพื่อนๆลองมองความชอบของตัวเองดูว่าตัวเองมีความชอบ ความรัก หรือ หลงไหลอะไรบ้าง ตัวอย่างเกี่ยวกับความชอบและนำไปสร้างธุรกิจ เช่น ถ้าชอบเกี่ยวกับเสื้อผ้าแฟชั่น เพื่อนๆอาจจะเปิดร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่นก็ได้ ถ้าเพื่อนๆชอบทำอาหารทำขนมอาจจะลองเปิดเป็นร้านอาหารเลยหรืออาจจะเปิดเป็นโรงเรียนสอนทำอาหารทำขนมก็ได้ซึ่งปัจจุบันก็มีธุรกิจประเภทนี้อยู่เยอะเลยทีเดียว และ การสร้างธุรกิจจากความชอบนี้จะได้เปรียบกว่าข้ออื่นๆอยู่เรื่องหนึ่ง คือ เรื่องเกี่ยวกับของกำลังใจในการเผชิญหน้ากับปัญหาและอุปสรรคต่างๆในการทำธุรกิจ การสร้างธุรกิจจากความชอบจะมีความอดทนในเรื่องของปัญหาและอุปสรรคมากกว่าการสร้างธุรกิจจากข้ออื่นๆ

ไม่มีไอเดียทำธุรกิจก็สามารถไปต่อได้ไม่จนมุม

ไม่มีไอเดียทำธุรกิจก็สามารถไปต่อได้ไม่จนมุม

เห็นกันไหมครับเพื่อนๆว่าถึงแม้เพื่อนๆจะไม่มีไอเดียเกี่ยวกับธุรกิจว่าจะสร้างธุรกิจอะไร เพื่อนๆก็สามารถที่จะนำ เรื่องทั้ง 4 เรื่องที่ผมนำมาให้กับเพื่อนๆได้อ่านไปเป็นแนวทางการคิดเกี่ยวกับไอเดียการสร้างธุรกิจได้นะครับ เรามาทบทวบและสรุปกันนิดหน่อยนะครับว่า เรื่องทั้ง 4 เรื่องที่ผมได้แนะนำไปให้กับให้เพื่อนๆมองหาไอเดียจากเรื่องนั้นๆมีเรื่องอะไรบ้าง 1.หาไอเดียการสร้างธุรกิจจากการมองปัญหาทั้งของในสัมคงและของตัวเพื่อนๆเองในชีวิตประจำวัน เป็นการสร้างธุรกิจที่ตอบโจทย์  2.คิดถึงความต้องการทั้งของตัวเพื่อนๆเองและของคนอื่นๆในสังคม โดยสามารถคิดถึงสิ่งที่รู้จักหรือไม่รู้จักก็ได้ การคิดถึงสิ่งที่ต้องการแต่ไม่รู้จักเรียกว่าการคิดล่วงหน้าหนึ่งก้าว  3.คิดถึงเทรนด์ในยุคนี้ และเอาไอเดียแนวทางมาจากธุรกิจที่เกิดตามเทรนด์ในปัจจุบันมาเป็นตัวอย่างและสร้างความแตกต่างและจุดเด่นขึ้นให้ได้จากไอเดียแนวทางธุรกิจที่เราไปเอามา  4.คิดไอเดียจากสิ่งที่ชอบของตัวเอง และสร้างธุรกิจนั้นขึ้นมาเลย กลุ่มลูกค้าก็จะเป็นคนที่มีความชอบเหมือนกับเพื่อนๆ