เดี๋ยวนี้จะเห็นว่าระบบการเงินมีอะไรใหม่ๆเพิ่มเติมเข้ามามากมายเหลือเกิน ในฐานะที่เราอยู่ในยุคดิจิตอลแบบนี้เราจึงจำเป็นต้องทราบข้อมูลเหล่านี้ไม่ว่าจะออกมาใหม่เพิ่มเติมสักกี่ครั้งก็ตาม และเรื่องต่อไปนี้ก็เช่นกัน คือ Fintech หลายคนอาจจะเคยได้ยินผ่านหูหรือผ่านตามาบ้างตาก็จะเป็นส่วนน้อยเท่านั้น แต่ถ้าใครที่สนในข่าวสารด้านการเงินและเศรษฐกิจอยู่แล้วก็คงจะรู้จักและเคยได้ยินแน่ๆเพราะมักจะมีการเอ่ยถึง Fintech อยู่บ่อยๆทำไมเราต้องสนใจเรื่องนี้ แล้วเกี่ยวข้องมากน้อยแค่ไหนต่อเรา บทความนี้จะทำให้คุณเข้าใจมากขึ้นเพราะมั่นใจว่าก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับทุกๆคนค่ะ

Fintech คืออะไร?

Fintech คืออะไร?

Fintech หรือเรียกเต็มๆว่า ( Financial Technology ) เป็นธุรกิจกลุ่มหนึ่งที่มีการนำเทคโนโลยีมาใช้มาเกี่ยวข้องในเรื่องการบริการทางการเงินและการทำธุรกิจการลงทุนมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อเรื่องเงินอะไรก็ตาม การทำธุรกรรทางการเงินอะไรก็ตาม หรือแม้แต่เกี่ยวข้องกับการเล่นหุ้นของคุณด้วยช่วยคิดวิเคาระห์คำนวณการลงทุนให้คุณได้ และ Fintech นี้จะมาในรูปแบบของระบบออนไลน์เกือบทั้งหมด Fintech จึงเป็นการบริการรูปแบบใหม่ที่เป็นที่สนใจและเป็นช่องทางใหม่ๆ เพราะการบริการทางการเงินรูปแบบเดิมนั้นอาจจะไม่ค่อบตอบโจทย์หรือใป้ผลตอบแทนที่ดีพออีกต่อไปแล้ว หลายคนจึงเลือกการใช้บริการทางการเงินรูปแบบใหม่มากกว่าเพื่อผลประโยชน์ที่มากกว่า

Fintech นั้นมีการใช้งานที่ไม่ยากเลย การบริการรูปแบบใหม่นี้จะตอบโจทย์การใช้ชีวิตของทุกคนในโลกที่แสนจะยุ่งยากนี้ด้วยรูปแบบการใช้บริการที่ไม่ยากเหมาะกับโลกที่ทุกอย่างไม่ง่าย จึงเป็นเหตุผลที่ได้รับความสนใจและมีลูกค้ามากขึ้นที่อยากใช้บริการที่จะช่วยให้การเงินและธุรกิจง่ายมากขึ้น เริ่มต้นจากการออกแบเว็บไซด์ที่ง่ายๆและสามารถเปิดดูได้ง่ายๆจาก เดสก์ท็อป และโทรศัพท์มือถือ มีความสะดวกรวดเร็วในการติดตั้งแอปพลิเคชั่น สามารถใช้งานผ่าน User Interface ที่เข้าใจได้ไม่ยาก และไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ก็สามารถเรียนรู้ที่จะใช้งานได้เพราะไม่ซับซ้อนยุ่งยาก  และการบริการนี้ยังช่วยให้ปัญหาต่างๆทางการเงินรวมถึงอุปสรรคต่างๆลดลง เพราะเทคโนโลยี้นี้ก็สนับสนุนพฤติกรรมการใช้บริการของคนรุ่นใหม่ที่มักจะใช้บริการธนาคารออนไลน์ หรือแอปพลิเคชั่นของธนาคารมากกว่าการเดินทางไปที่ธนาคารแล้วทุกวันนี้

จะยกตัวอย่างมาให้ดูกันนะคะว่า Fintech มีบทบาทอย่างไรต่อพฤติกรรมทางการเงินของผู้คนที่มีมานานแล้วแต่หลายคนอาจจะยังไม่เคยได้รู้จัก

  • การใช้โปรแกรม Streaming ในการซื้อขายหุ้นแทนการซื้อขายในห้องการค้าแบบทั่วๆไป

  • ใช้ระบบ Crowdfunding เพื่อระดมทุนผ่านระบบ Online ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการ SME และ Start Up

  • การโอนเงินออนไลน์ซื้อของผ่านมือถือ และแอปพลิเคชั่นต่างๆ

  • การชำระบิลต่างๆผ่าน 7-Eleven

การเริ่มต้นของ Fintech

การเริ่มต้นของ Fintech

ไม่มีข้อมูลที่ไหนสามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่า Fintech นี้ได้เข้ามามีบทบาททางการเงินของผู้คนตั้งแต่เมื่อไหร่กันแน่ แต่ถ้าจะให้คนในวงการการเงินพูดถึงคำฮิตที่กำลังเป็นที่สนใจกันอยู่ ณ ตอนนี้นั้นก็คงจะหนีไม่พ้นคำว่า Fintech คำนี้ เพราะจากที่ผู้เขียนได้อ่านผลสำรวจแล้วพบว่า ผู้บริการและนักธุรกิจระดับสูงๆในจำนวน 544 ราย ใน 46 ประเทศ ได้ให้ความสนใจอย่างมากต่อ Fintech และได้นำเข้าไปปรับใช้กับอุตสหกรรมของตนเองรวมทั้งในประเทศไทยของเรา เหล่านักธุรกิจก็เริ่มให้ความสนใจมากขึ้นและนำ Fintech มาใช้งานเพื่อประโยชน์ของการทำธุรกิจมากขึ้นด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อตอบสนองให้แก่ผู้บริโภคและภายใน 3-5 ปีระบบ Fintech จะสามารถสร้างผลกำไรและเม็ดเงินให้อย่างมหาศาลด้วยค่ะ เทคโนโลยีนี้ได้เข้ามามีบทบาทและเปลี่ยนแปลงบทบาททางการเงินแบบเก่าๆไปมาก มากกว่า 83% ผู้ที่ทำธุรกิจการบริการทางการเงินแบบเดิมๆแบบเก่าๆ จะเสียผลประโยชน์ให้แก่บริการทางการเงินที่นำระบบ Fintech มาใช้งานเป็นจำนวนมาก

การส่งเสริมและการสนับสนุนของภาครัฐ

การส่งเสริมและการสนับสนุนของภาครัฐ

ก่อนอื่นเรามาทบทวนให้ชัดเจนว่า Fintech คือ อะไรก็ตามที่มาทำให้การจ่ายเงิน และ โอนเงินสะดวกมากขึ้นโดยไม่ต้องใช้เงินสดนั้นเอง ซึ่งถ้าพูดถึงทางภาครัฐของประเทศไทยเราเองก็จะเห็นว่าผู้นำประเทศได้เข้ามาสนับสุนการลดการใช้จ่ายด้วยเงิน ให้เป็นการใช้จ่ายผ่านมือถือ และบัตรเครดิต ให้มากขึ้นเพื่อความสะดวกของประชาชน ซึ่งเราเห็นได้จากการประชุม ADC ท่านายกก็มีการพูดถึงเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน โดยพูดเกี่ยวกับว่าจะพยายามให้มีการลดการใช้เงินสดลงเรื่อยๆ และเปลี่ยนไปใช้จ่ายผ่านบริษัทตัวกลางแทน เช่นผ่านทางธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่นๆ แต่ก็ยังไม่มีความแน่ชัดว่าจะใช้เวลานานแค่ไหนที่จะทำให้การปรับเปลี่ยนแพร่ไปทั่วประเทศแบบครอบคลุม

โอกาสทางธุรกิจ

โอกาสทางธุรกิจ

Fintech เป็นเทคโนโลยีที่เปิดโลกกว้างต่อการทำธุรกิจอย่างมาก และเกี่ยวข้องกับธการเงินของธุรกิจทุกอย่างเพราะเป็นระบบทางการเงิน อย่างเช่น ถ้าธุรกิจใดๆหรือร้านค้าใดมีการจ่ายเงินผ่านออนไลนื หรือมีเครื่องรูดบัตรก็จะเสียโอกาสการได้ลุกค้าไปมากในบุคนี้ที่ Fintech เข้ามามีบทบาทอย่างมาก แต่จะเปิดโอกาสให้แก่ธุรกิจและร้านค้าที่มีการรองรับการจ่ายเงินแบบ Fintech จะทำให้มีโอกาสได้ลูกค้ามากกว่าเพราะมองว่ามีความสะดวกสบายมากกว่า ซึ่งจะมีผลกระทบอย่างมากต่อการซื้อขายผ่านทางเว็บไซด์ เพราะจะมีตัวกลางในการจ่ายเงินหน้าใหม่เข้ามามากขึ้นซึ่งจะไม่ได้มาจากธนาคารหลักเท่านั้นแล้วค่ะ หรือแม้แต่ธนาคารหลักๆก็หันมาลงทุนในเทคโนโลยี้ Fintech ตัวนี้กันจึงเกิดระบบ Prompt pay ขึ้นมา ซึ่งได่เข้ามาเปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์ของการจ่ายและโอนเงินอย่างมาก และสะดวกมากๆด้วยเพราะเพียวแค่ใช้หมายเลขโทรศัพท์เท่านั้นก็สามารถที่จะทำธุรกรรมทางการเงินได้แล้ว และมีค่าธรรมเนียมที่ถูกมากๆด้วยจึงเป็นที่นิยมที่จะใบริการอย่างแพร่หลาย ส่วน Fintech อื่นๆที่ไม่ได้มาจากธนาคารหลักดดยตรงก็จะมีดังนี้ในประเทศไทย คือ True Money Wallet / M Pay / Pay Buy / 2c2p / เป็นต้นค่ะ

หลังจากที่โลกของอินเทอร์เน็ตแทรกซึมอยู่ทุกที่บนโลกแล้วก็อยู่ในทุกอย่างของชีวิตประจำของผู้คนด้วย ทำให้ทุกอย่างสะดวก รวดเร็ว เช่นกันกับการมาของระบบการเงิน Digital ในวงการการเงินที่ตอนนี้ก็จะมี E-payment มีการทำธุรกรรมผ่านออนไลน์อย่าง E-Bank , Mobile Bank แต่เชื่อว่าต่อจากนี้จะมีบริการอื่นเกิดขึ้นมาอีกเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้บริโภค และสถาบันทางการเงินก็ต้องตื่นตัวและพร้อมปรับเปลี่ยนเพื่อไม่ให้เสียผลประโยชน์ไม่อย่างนั้นจะต้องรับศึกหนักแน่ๆในอนาคตที่กระแส Digital transformation เข้ามาอย่างเต็มตัวค่ะ

สรุป

สรุป

เทคโนโลยีทางการเงินยุคใหม่จะเป็นัวขับเคลื่อนการทำธุรกิจธุรกรรมทางการเงินต่างๆในอนาคต ความต้องการทางการเงินต่อระบบ Fintech ก็ย่อมมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจทางธนาคาร และธุรกิจที่บริหารความมั่นคง  ในยุคที่การสื่อสารทางออนไลน์นั้นไร้พรมแดนเช่นนี้ ถ้าใครหรือธุรกิจใดสามารถย่อการซื้อขายให้ใกล้มือผู้บริโภคมากที่สุดก็จะถือว่าได้เปรียบมากที่สุด เพราะเริ่มจะหมดยุคของการไปเดินซื้อของตามห้างแล้ว หมดยุคของการพกเงินสดหรือเก็บเงินสดปึกใหญ่ๆในกระเป๋าแล้ว ดังนั้นเทคโนโลยี Fintech ก็จะเข้ามามีบทบาทเต็มที่ในอีกไม่ช้าในการใช้จ่ายและระบบการเงินต่างๆที่คุณใช้บริการอยู่ปัจจุบันซึ่งคุณก็ได้ใช้บริการไปบ้างอยู่แล้วแต่มันจะมากขึ้นไปอีกในยุคที่โลกของเราก้าวหน้าไปแบบไม่ถอยหลังแบบนี้ จึงเป็นเรื่องสำคัญมาที่ต้องหันมาให้ความสนใจกันบ้างและเรื่องนี้จะไม่ใช่เรื่องไกลตัวของคุณอีกต่อไปค่ะ