เมื่อพูดถึงคำว่า หนี้ เพื่อนๆรู้สึกอย่างไรกับคำนี้คะ?   รู้สึกภูมิใจไหมที่เรามีหนี้ ? หรือรู้สึกว่ากลัวจนขนลุก!  สำหรับตัวผู้เขียนเองรู้สึกการเป็นหนี้ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเสมอไปนะคะ เพียงแต่บางครั้งอาจจะทำให้รู้สึกถูกดัน และไม่ค่อยสบายใจซักเท่าไหร่ ! แต่สำหรับบางคนถือว่าการ มีหนี้ ถือว่าเป็นคนที่ มีเครดิต การเป็นหนี้ ก็ใช่ว่าจะเลวร้ายเสมอไป ถ้าเราเป็นหนี้เพื่อนำเงินมาลงทุนสร้างกำไรและทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ถือได้ว่าเป็นหนี้ที่ก่อประโยชน์ แต่หนี้จะอันตรายทันที ถ้าเอาเงินมาใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย ดังนั้น คำว่า หนี้ ก็ไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจะต้องการ ถ้าหลีกเลี่ยงได้ ไม่มีถือว่า เป็นสิ่งที่ดีที่สุด !

ในบทความนี้ จะช่วยให้เพื่อนๆสังเกต พฤติกรรมบางอย่าง ว่าเราเริ่มจะเป็นหนี้แล้วรึยัง? พฤติกรรมเหล่านั้นมีอะไรบ้าง? อยากจะให้เพื่อนๆเช็คดูนะคะ พฤติกรรมแรกก็คือ การใช้บัตรเครดิตตามใจชอบ จ่ายหนี้ขั้นต่ำเสมอ  กดเงินสดจากบัตรเครดิตมาใช้หนี้อื่นๆ เริ่มยืมเงินจากคนรอบข้างมากขึ้น  ถึงแม้พฤติกรรมการเป็นหนี้ของแต่ละคนจะแตกต่างกันก็ตาม เมื่อเป็นหนี้แล้ว เราก็ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้เงินของเราให้ฉลาด แต่จะทำได้อย่างไร ? ในบทความนี้ดิฉันมีข้อมูลมาฝากกันค่ะขอเพื่อนๆลองอ่านดูนะคะ..

ใช้บัตรเครดิตตามใจชอบ

ใช้บัตรเครดิตตามใจชอบ

ในทุกวันนี้ใครๆก็ต้องการ ความสะดวกสบาย ความรวดเร็ว การใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิตจึงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนในยุคนี้ได้อย่างดี  และด้วยสโลแกนที่ว่า “จ่ายก่อนผ่อนทีหลัง” ทำให้หลายคนรู้สึกว่า การใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิตเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่ใครๆก็ทำกัน ไม่ว่าเราอยากได้อะไร? ตอนไหน? จะมีเงินสดหรือไม่ ก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป! แค่มีบัตรเครดิตใบเดียวก็ทำให้เราสามารถเป็นเจ้าของอะไรก็ได้ที่เราต้องการง่ายๆ เพียงแค่รูดปรื้ด! รูดปรื้ด! โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธนาคารก็มีข้อเสนอว่ามีเงินเดือนขั้นต่ำแค่เพียง  15,000 บาท ก็สามารถทำบัตรเครดิตได้ ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ฟิตเนส ต่างก็มีโปรโมชั่นต่างๆมากมายให้กับคนที่ถือบัตรเครดิตให้ได้ สะสมแต้ม หรือใช้ เป็นส่วนลดในการจับจ่ายซื้อสินค้าที่ร่วมรายการ  และมีการเสนอให้ ผ่อนสินค้าแบบ  0 % ด้วย มีใครบ้างล่ะที่จะไม่ชอบใช่ไหมคะ?

สำหรับคนที่มีระเบียบวินัย ใช้บัตรเครดิตเป็น มักจะเลือกใช้บัตรเครดิตจ่ายเฉพาะค่าใช้จ่ายที่จ่ายประจำเท่านั้น อย่างเช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าผ่อนบ้าน หรือผ่อนรถ เพราะเราไม่ต้องใช้เงินสดมาจ่ายส่วนนี้ แต่เราจะเอาเงินสดไปใช้จ่ายในส่วนอื่นๆที่จำเป็นมากกว่า และนำไปลงทุนอย่างอื่นที่เกิดผลกำไรเพิ่มขึ้น

สำหรับบางคนที่ไม่มีการควบคุม อาจจะติดกับดักจากการโฆษณาและโปรโมชั่นต่างๆ ทำให้มีการใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิตในแต่ละเดือนมากเกินไปส่วนใหญ่แล้วคนกลุ่มนี้มักจะจ่ายไปกับสิ่งที่ตัวเองต้องการและสิ่งของฟุ่มเฟือยซะส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องสำอาง โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ล่าสุด รูดไป..รูดไป รู้ตัวอีกที เป็นหนี้ไปซะแล้ว! เราต้องควบคุมจึงเป็นพฤติกรรมนี้ให้ได้นะคะเพื่อจะไม่ต้องเป็นหนี้โดยไม่จำเป็นค่ะ.

จ่ายหนี้ขั้นต่ำเสมอ

จ่ายหนี้ขั้นต่ำเสมอ

เมื่อเราใช้บัตรเครดิตไปรูดซื้อสินค้า พอถึงเวลาเราก็ต้องชำระหนี้ การเลือกชำระก็สามารถทำได้ในการจ่ายหนี้ทั้งหมดหรือเลือกจ่ายหนี้ขั้นต่ำที่ 10% ก็ได้ ขึ้นอยู่กับ งบประมาณ หลายคนอาจจะเข้าใจผิดว่าการจ่ายหนี้บัตรเครดิตขั้นต่ำ เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ไม่มีเงินพอที่จะจ่ายเต็มจำนวน ตอนแรกก็อาจจะเป็นทางออกที่ดีเพราะตอนนั้นเราไม่มีเงินพอที่จะจ่ายได้ทั้งหมด แต่ปัญหาที่จะตามมาก็คือ ถ้าเราไม่มีการวางแผนจัดการจ่ายหนี้บัตรเครดิตให้ดี และไม่มีวินัยในที่สุดเราจำใจต้องจ่ายหนี้ขั้นต่ำ ต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงสุดถึง 20  % ต่อปีเขาจะคิดดอกเบี้ยทันทีในวันที่เรารูดบัตร นะคะ  ซึ่งเงื่อนไขก็แตกต่างกันไปแต่ละธนาคารด้วยค่ะ ถ้าเราจ่ายขั้นต่ำไปเรื่อยๆดอกเบี้ยก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆกว่าจะจ่ายเงินต้นหมด เราก็เป็นหนี้ก้อนโตซะแล้ว สิ่งที่เราควรรู้ เมื่อเราจ่ายหนี้บัตรเครดิตขั้นต่ำเสมอเราจะ…

ถูกคิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันแรกที่ซื้อสินค้าด้วยบัตรเครดิต

ก็หมายความว่าเมื่อเราใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตแล้วจ่ายคืนไม่เต็มยอดหรือจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำเราจะถูกคิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่เราค้างจ่ายบัตรเครดิต

ดอกเบี้ยจะคิดจากยอดที่ค้างชำระและยอดใช้จ่ายที่เกิดในรอบบัญชีนั้นๆ

หมายความว่าดอกเบี้ยจากบัตรเครดิตจะไม่ได้ถูกคิดเฉพาะส่วนที่เราค้างชำระจากการจ่ายไม่เต็มจำนวนเท่านั้น แต่เราจะถูกคิดจากดอกเบี้ยทั้งยอดที่ค้างชำระและยอดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมดในรอบบัญชีนั้นๆด้วย

ถ้าหากเรายังมียอดค้างชำระอยู่ยอดใช้จ่ายใหม่ก็จะถูกคิดดอกเบี้ยไปด้วย

หมายความว่าถ้าเรามียอดค้างชำระในบัตรเครดิตอยู่และนำบัตรเครดิตที่มียอดค้างชำระไปใช้จ่ายอีก ค่าใช้จ่ายใหม่ที่เกิดขึ้นก็จะถูกคิดดอกเบี้ยไปด้วย ทางออก ที่ดีที่สุดเพื่อจะไม่กลายเป็นหนี้ก้อนโตไปเรื่อยๆอยากจะแนะนำให้ หยุด จ่ายบัตรเครดิตที่มียอดค้างชำระอยู่ไปก่อนแล้วก็ รีบหาเงินมาปิดยอดที่ค้างชำระให้หมด จากนั้นค่อยเริ่มใช้บัตรเครดิตอีกครั้งหนึ่งเพื่อจะไม่ถูกคิดดอกเบี้ยอีก ถ้าเราเลือกจ่ายบัตรจ่ายหนี้บัตรเครดิตขั้นต่ำเสมอในที่สุดเราจะไม่มีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยอีกแล้วนะคะ.

ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงพฤติกรรมในการใช้หนี้บัตร เครดิตขั้นต่ำเสมอ เราควรคิดให้รอบคอบ ก่อนใช้จ่ายทุกครั้ง มีการวางแผนในการใช้บัตรเครดิตในแต่ละเดือน และมีวินัย ให้จัดทำงบประมาณว่าเราควรใช้จ่ายเดือนละเท่าไหร่ แล้วควรเก็บเงินไปจ่ายแบบเต็มจำนวนและตรงเวลาทุกครั้ง เพื่อป้องกันการเป็นหนี้ก้อนโต และไม่ต้องเครียดและปวดหัวไปอีกนาน

กดเงินสดจากบัตรเครดิตมาใช้หนี้

กดเงินสดจากบัตรเครดิตมาใช้หนี้

ไม่ว่าใครต่างก็ปฎิเสธไม่ได้ว่ามีความจำเป็นต้องใช้เงิน เพราะค่าใช้จ่ายมันมีมากมายเหลือเกิน เริ่มตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งเข้านอน ยิ่งคนมีครอบครัวค่าใช้จ่ายก็มากขึ้นตามไปด้วย บางครั้งการรอเงินเดือนเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ค่าใช้จ่ายไม่พอจริงๆ ทางออกที่ง่ายที่สุดสำหรับหลายคนและคิดว่าเป็นวิธีที่ง่ายๆสบายๆ ก็คือกดเงินสดจากบัตรเครดิตเอามาใช้จ่ายก่อน ซึ่งวิธีนี้จะช่วยได้ตอนที่เงินไม่พอใช้และเงินขาดมือจริงๆ

ถ้าเป็นในกรณีฉุกเฉิน และไม่สามารถยืมเงินใครได้จริงๆก็จะอาจจะเป็นทางออกที่ดี(แต่อย่าบ่อยนะคะ) การใช้วิธีนี้วิธีนี้เป็นประจำ เป็นการแก้ปัญหาแบบผิดๆค่ะ เพราะมันจะทำให้คุณเป็นหนี้ได้อย่างง่ายดาย นอกจากจะไม่ช่วยให้หนี้ของคุณหมดแล้วแต่ยังเป็นการเพิ่มหนี้ของคุณให้มากขึ้นเรื่อยๆสุดท้าย ถ้าคุณหาเงินมาชำระหนี้ได้ไม่ตรงเวลาและครบตามจำนวน คุณก็เป็นหนี้ก้อนโตและสูญเสียเครดิตไปในที่สุด บางคนถึงกับล้มละลายไปเลยก็มีค่ะ .

การใช้บัตรเครดิตกดเงินสดออกมาจากตู้ ATM  เป็นการใช้บัตรเครดิตที่ไม่ถูกต้องเพราะว่าจะทำให้คุณต้องเสียค่าธรรมเนียมในการกดเงิน  3  %จากยอดเงินที่กดออกมา ซึ่งการคิดดอกเบี้ยก็จะคิดเป็นรายวันและจะเริ่มคิดตั้งแต่วันที่คุณได้รับเงินสด และไม่มีระยะเเวลาปลอดดอกเบี้ยให้ด้วย ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยง การกดเงินสดจากบัตรเครดิตมาใช้จ่ายหนี้อื่นๆที่เราก่อขึ้นมา เราจำเป็นต้องมีการวางแผนการใช้จ่ายเงินอย่างดี ทำบัญชีรายรับ- รายจ่าย ทุกวัน และที่สำคัญ เก็บก่อนใช้ เสมอค่ะ.

ยืมเงินจากคนรอบข้างมากขึ้น

ยืมเงินจากคนรอบข้างมากขึ้น

การยืมเงินจากคนรอบข้าง โดยเฉพาะพ่อ แม่ หรือ ญาติพี่น้อง และเพื่อนๆ มักจะเป็นการยืมเงินที่ค่อนข้างจะสะดวก ง่าย และไม่มีดอกเบี้ย ฉุกเฉินเมื่อไหร่ ยืมได้เสมอ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การเป็นหนี้ไม่ว่าจะกับใคร ก็ไม่ใช่ทางออกที่ดีเลยค่ะ  ถึงแม้จะไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยก็ตาม เราควรจะมีความเกรงใจบ้าง ถึงแม้ญาติๆ อาจจะให้เรายืมด้วยความเต็มใจก็ตาม แต่สิ่งที่ตามมาก็คือ เราจะกลายเป็นคนที่มีนิสัยชอบสร้างหนี้ ชอบยืมเงิน ไม่มีระเบียบวินัยในการใช้จ่าย ขาดการควบคุม

เราควรจะสำรวจดูนิสัยของตัวเองอยู่เสมอในเรื่องการใช้เงิน เราใช้จ่ายไปกับอะไรบ้าง เราจัดลำดับความสำคัญในการใช้เงินเป็นมั้ย? ถ้าเราเริ่มพบว่า รายได้ไม่พอกับรายจ่ายทุกเดือน เริ่มไปหยิบยืมเงินจากคนรอบข้างมากขึ้น ตอนแรกอาจจะเป็นเพื่อนที่ทำงาน พอเงินเดือนออกก็เอาไปใช้คืน เงินไม่พอใช้อีก ก็เริ่มไปยืมจากคนอื่นอีก เป็นแบบนี้ทุกเดือน นี่ถือได้ว่า เราเริ่มเป็นหนี้แล้ว ทางออกที่ดีที่สุด คือ ต้องหันมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองใหม่

ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

การเป็นหนี้ส่วนใหญ่มาจากการใช้จ่ายเงินของเราอย่างไม่ระมัดระวังใช้จ่ายตามความต้องการใช้จ่ายเกินตัว ในเมื่อเป็นหนี้แล้วเราก็จำเป็นจะต้องหาเงินมาใช้หนี้ไม่ว่าจะวิธีใดก็ตามบางคนก็มีทางออกที่ดีในการหาเงินทำงานเพิ่มเพื่อจะมีรายได้เพิ่มขึ้นแต่บางคนคิดง่ายๆโดยการยืมหนี้ใหม่มาปลดหนี้เก่าไปเรื่อยๆ นอกจากหนี้จะไม่ลดแล้ว ยังเป็นการเพิ่มหนี้ให้มากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดก็ตกเข้าสู่วงจรการเป็นหนี้แบบเต็มตัวดังนั้นเพื่อจะหลีกเลี่ยงพฤติกรรมต่างๆที่ได้กล่าวไปแล้วเราจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ต้องมีหลักในการใช้ชีวิตเพื่อจะได้ไม่เป็นหนี้และไม่ต้องยืมเงินคนอื่นมาตลอด

วิธีง่ายๆที่นำมาฝากกันในวันนี้ ใครๆก็สามารถทำได้ เช่นต้องมีวินัยกับตัวเองแต่เรื่องการใช้เงิน ถ้าไม่อยากมีหนี้เราต้องวางแผนการใช้เงินทุกครั้งทุกบาททุกสตางค์ เงินที่เราได้มา ในแต่ละเดือนเราต้องมีการจัดสรรปันส่วนอย่างดีว่าจะใช้กับอะไรส่วนไหนควรเก็บ ไม่ควรเอามาปะปนกัน คุณมีวิธีในการหาเงินคุณก็ควรจะรู้จักวิธีในการเก็บเงินด้วย เรื่องการเก็บเงินของแต่ละคนก็ย่อมแตกต่างกันไม่ว่าจะเก็บแบบไหนได้มากเท่าไหร่ไม่สำคัญ แต่สิ่งสำคัญอยู่ที่ว่าคุณลงมือเก็บทันทีไหม?

และที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่อยากให้เพื่อนๆคิดถึงก็คือคิดก่อนจ่ายเสมอ ถึงแม้เราจะหาเงินได้เก่งและหาเงินได้มากแค่ไหนก็ตาม แล้วก็สามารถเป็นหนี้ได้ ถ้าเราเป็นคนที่ใช้เงินเก่ง ใช้จ่ายเงินง่ายๆ เราสามารถเลือกได้ว่าจะเป็นคนเก็บเงินเก่งหรือใช้เงินเก่ง ! เพราะว่า  2  อย่างนี้แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเจนถ้าเรา หาเงินเก่งและใช้เงินเก่งแน่นอนว่าเราอาจจะไม่มีเงินเก็บ แต่ถึงแม้เราหาเงินไม่เก่งและใช้เงินเป็น เราจะมีเงินเก็บ และไม่เป็นหนี้แน่นอนค่ะ!