รู้สึกว่าธนาคารออมสินจะให้มาตรการที่ชัดเจนสุด ณ เวลานี้ สำหรับการพักชำระหนี้ค่ะ

อ่านจากกระทู้ของคุณแล้ว ก็ไม่น่าจะไหวนะคะ เพราะเงินที่คุณเอามาใช้หนี้มันไม่ใช่เงินที่คุณมีอยู่จริงๆแต่ว่ามันเป็นเงินในอนาคตที่คุณเอามาใช้ก่อน ซึ่งไม่รู้ว่าจะหาเงินจำนวนนั้นมาได้เมื่อไหร่ วนไปแบบนี้มันก็แย่สิคะ เพราะหนี้มันเพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลาเลย ถ้าคุณไปขอสินเชื่อส่วนบุคคลมาสักก้อนนึง เราว่าจะจบง่ายกว่านะคะ

เหลือค่างวดรถยนต์ อีก แค่ 5เดือนเท่านั้นเอง ถ้าผมเป็น @ Saruta นะครับ ผมไม่มีทางขายแน่นอนครับ เหลืออีกไม่เกิน1แสนบาท หาเงินมากัดฟันผ่อนตอดีกว่าครับ หลังจากผ่อนจบแล้วก็เอารถยนต์คันนี้ไปเข้าไฟแนนซ์ก็ได้ครับ ก็น่าจะได้เงินมาค่อนข้างเยอะอยู่นะครับ ส่วนพี่ที่ถาม เป็นหนี้มากกว่า2แสนบาทแบบนี้ เขาไปขอประนอมหนี้ก่อนดีกว่า

ตอนแรกเข้าใจว่าอายุความการฟ้องคดีแพ่งอย่างการค้างชำระหนี้ของบัตรเครดิต คือ 2 ปี แล้วจบเลย แต่จริงๆไม่ใช่เนอะ มีผลบังคับไปอีก 10 ปีเลยอะ พอดีเห็นคนมาเมนต์นั้น เป็นไปตามนั้นใช่มั้ยคะ คือ ยังมีผลอยู่ นั่นหมายความว่ายังต้องชำระหนี้กันต่อ ถ้าหากไม่ชำระหนี้ จะเกิดอะไรขึ้นเหรอคะ มีบทลงโทษมากกว่านี้อีกหรือเปล่า

เราใช้รายเดือนของค่ายนึง แล้วเราไปซื้อมือถืออยากซื้อราคาเต็ม แต่พนักงานไม่ขาย จะขายแบบติดโปร พนักงานแนะนำให้ซื้อแบบติดโปรแล้วไม่ต้องใช้ ให้มันตัด 3 เดือนแล้วค่อยมาจ่ายย้อนหลังได้ ตอนแรกเราใช้ซิมค่ะ ให้แฟนใช้ แต่พอใช้แล้ว ราคาโปรกับเน็ตที่วิ่งไม่เหมาะสมกับราคาเลยค่ะ ค่าเน็ต 1000+ เน็ตวิ่ง 100m เราเลยเลิกใช้ค่ะ วันนี้มีพนักงานโทรมาทวงพูดจาไม่ดีมากๆ ตอนแรกบอกให้เราไปจ่ายค่าส่วนต่างเพิ่ม เราบอกจ่ายได้แต่ไม่จ่ายค่าเน็ต พอบอกต้องจ่ายค่าเน็ตด้วย เราบอก 3 เดือนตัดไม่ใช่เหรอคะทำไม 7000 แล้วพนักงานก็พูดไปจ่ายด้วยนะคะที่ศูนย์ไม่ตอบแถมตัดสายทิ้งอีก

การเป็นบุคคลล้มละลาย ไม่ใช่ทุกคนจะหมดตัวนะครับ นักธุรกิจบางคนที่มีธุรกิจหลายอย่างก็กลายเป็นบุคคลล้มละลายได้ แต่ล้มเฉพาะบางธุรกิจเท่านั้น ไม่ใช่ในทุกกิจการที่มีอยู่ ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด เขาดูเรื่องรายได้และหนี้สินในกิจการเดียว หากว่ามีความแตกต่างกันมากจนต้องถือว่าเจ้าของกิจการนั้นเป็นบุคคลล้มละลาย ก็จะเป็นไปตามนั้นครับ

ในกรณีแบบที่เจ้าของกระทู้ถามมา เจ้าของรถต้องจ่ายมั้ยอะครับ หมายถึง ตัวของเจ้าของกระทู้เองที่เป็นเจ้าของรถคันนั้นมาก่อนน่ะ มันเป็นส่วนต่างที่อยู่ในความรับผิดชอบของคุณเองมั้ยอะครับ ที่ผมถามแบบนี้ก็เพราะว่าผมอยากรู้เหมือนกัน เรื่องค่าใช้จ่ายอะไรแบบนี้บางทีมันก็ก่อให้เกิดความสับสนหรือเข้าใจผิดได้ ว่าใครควรเป็นคนจ่าย