สถิติคนไทยกว่า 90% ของประเทศนั้นมีเงินเก็บไม่ถึง 5 หมื่นบาท แสดงให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่มีปัญหาเรื่องเงินไม่พอใช้ บัตรกดเงินสดจึงถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการสำรองเงินใช้ในยามฉุกเฉินหรือสำหรับผู้มีรายได้น้อย แต่การจะสมัครบัตรกดเงินสดนั้นมีหลายขั้นตอน งั้นให้เรามาดูกันว่าการจะสมัครบัตรกดเงินสดจะต้องมีขั้นตอนอะไรกันบ้าง

cash card thailand

Anucha THAILAND/shutterstock.com

บัตรกดเงินสดคืออะไร

บัตรกดเงินสดคืออะไร

อย่างแรกที่ต้องทำเมื่อตองการสมัครบัตรกดเงินสดเราต้องเข้าใจเป็นอย่างดีว่าบัตรกดเงินสดคืออะไร เราถึงจะสามารถเริ่มขั้นตอนการสมัครนี่ถือว่าเป็นขั้นตอนสำคัญอีกขั้นตอนหนึ่ง เพราะถ้าเกิดว่าผู้สมัครไม่ทราบว่าบัตรกดเงินสดคืออะไร ก็จะทำให้เกิดปัญหาภายหลังการสมัครได้ ให้เรามาดูกันดีกว่าว่าจริงๆแล้วบัตรกดเงินสดคืออะไร

บัตรกดเงินสด เป็นสินเชื่อประเภทหนึ่ง ซึ่งทางผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อหรือธนาคารเป็นผู้อนุมัติออกให้กับผู้ถือบัตรซึ่งไม่มีการเสียค่าธรรมเนียม แต่การชำระเงินสินเชื่อชนิดนี้ไม่ได้มีการชำระเป็นงวด ซึ่งวงเงินนั้นจะพิจารณาตามฐานเงินเดือน 2-3 เท่าที่ผู้ถือบัตรได้รับโดยผู้ประกอบธุรกิจหรือธนาคาร ซึ่งปัจจุบันมีเกือบทุกธนาคาร เช่น Speedy Cash (SCB), Aeon, Citibank, K-Express Cash, Krung SriFirstchoice, Umay+, เทสโก้ พรีเมียร์ ฯลฯ ซึ่งอัตราการคิดดอกเบี้ยก็จะต่างกันไปในแต่ละบริษัทแต่สูงสุดต้องไม่เกิน28% ต่อปี

วิธีการนำเงินจากบัตรมาใช้

วิธีการนำเงินจากบัตรมาใช้

เป็นบัตรที่สามารถกดเงินสดได้ทันทีโดยที่ไม่จำเป็นต้องมีเงินในบัญชี กดเงินได้ตลอดเวลาที่ตู้ ATM ไหนก็ได้ แต่ไม่สามารถนำไปรูดซื้อสินค้าหรือจ่ายชำระค่าใช้จ่ายอื่นๆได้ ถ้าหากไม่กดเงินมาใช้ก็ไม่มีดอกเบี้ยหรือค่าบริการใดๆทั้งสิ้น เนื่องจากดอกเบี้ยจะคิดจากยอดเงินที่ถูกถอนออกไป

การคิดดอกเบี้ย

การคิดดอกเบี้ย

บัตรนี้จะคิดอัตราดอกเบี้ยเมื่อมีการกดเงินใช้เท่านั้น ซึ่งอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 28% ต่อปี และดอกเบี้ยจะคิดเป็นรายวัน อัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกให้ทุกครั้งและสามารถผ่อนชำระขั้นต่ำเป็นงวดๆ

อย่าสับสนระหว่างบัตรกดเงินสดกับสินเชื่อเงินสดเด็ดขาด!!

อย่าสับสนระหว่างบัตรกดเงินสดกับสินเชื่อเงินสดเด็ดขาด!!

หลายคนมักสับสนระหว่างบัตรกดเงินสดกับสินเชื่อเงินสดเนื่องจากสินเชื่อสองชนิดนี้มีหลายอย่างที่คล้ายกัน เมื่อก่อนฉันก็สับสนเรื่องนี้เหมือนกันแต่เมื่อศึกษาเพิ่มมากขึ้น ก็ทำให้รู้ว่าสองอย่างนี้มีหลายอย่างที่คล้ายกันอยู่จริงๆแล้วก็มีหลายอย่างเลยทีเดียวที่แตกต่างกัน หนึ่งในข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดเลยคือวิธีการได้รับเงินจากผู้ประกอบธุรกิจหรือธนาคารคือบัตรกดเงินสดจะสามารถกดเงินสดจาก ATM ได้ทันทีตลอด 24ซม. แต่ถ้าหากเป็นสินเชื่อเงินสด หลังจากได้รับการอนุมัติสินเชื่อเงินสดแล้ว ทางบริษัทหรือธนาคารจะมีการโอนเงินเป็นก้อนใหญ่เข้าบัญชีทันทีตามวงเงินที่ได้รับการอนุมัติ ซึ่งสินเชื่อเงินสดนี้จะมีการคิดดอกเบี้ยจากเงินก้อนใหญ่นั้นแม้ท่านจะไม่ได้ใช้เงินนั้นก็ตาม แต่ถ้าหากเป็นบัตรกดเงินสดจะคิดดอกเบี้ยจากเงินที่กดออกไปเท่านั้น ทีนี้หลายคนก็คงแยกออกระหว่างสินเชื่อเงินสดและบัตรกดเงินสดแล้วงั้นให้เรามาเริ่มดูขั้นตอนถัดไปกันเลยดีกว่า

วิธีเลือกบัตรกดเงินสด

วิธีเลือกบัตรกดเงินสด

สามารถเปรียบเทียบบัตรกดเงินสดของสถาบันการเงินอื่นๆ โดยตามวัตถุประสงค์ของผู้ใช้บัตร อย่างเช่น ธนาคารบางแห่งอนุมัติสำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของกิจการหรือพนักงานประจำเท่านั้น

ตรวจสอบสิทธิประโยชน์หรือสิทธิพิเศษต่างๆของแต่ละสถาบันการเงิน ไม่ว่าจะเป็นเงื่อนไขในการผ่อนชำระ, อัตราดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมต่างๆ

ดอกเบี้ยของแต่ละบริษัท

แน่นอนว่าการตัดสินใจเลือกบัตรกดเงินสดนั้นต้องเลือกบริษัทที่มีการคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งในประเทศในนั้นมีบริษัทใหญ่หลายแห่งที่มีการคิดอัตราดอกเบี้ยแตกต่างกันไปตั้งแต่ ต่ำกว่า22%ไปจนถึง28%

ความสะดวกสบายในการกดเงินสด

ควรเลือกบัตรของบริษัทที่สามารถกดเงินได้จากATM ทุกที่ทั่วประเทศ 24 ชั่วโมง และถ้าหากเป็นไปได้ควรเลือกบัตรกดเงินสดที่ไม่มีค่าธรรมเนียมการเบิกถอน

จุดประสงค์ของบัตรในแต่ละบริษัท

ในแต่ละบริษัทก็จะมีจุดประสงค์ของบัตรแตกต่างกันไป ซึ่งจุดนี้หากจุดประสงค์ของบัตรตรงกับจุดประสงค์ของคุณก็เลือกเลย เพราะมันผลิตมาเพื่อคุณ แต่ละบริษัทมีจุดประสงค์ของบัตรแตกต่างกัน เช่น บัตรแบบอเนกประสงค์(บัตรที่ไม่มีจุดประสงค์ใดเป็นพิเศษ) บัตรที่ใช้เฉพาะทาง(เช่น เพื่อการนำไปใช้ในการทำงานที่ต่างประเทศ) เเละเพื่อรีไฟแนนซ์หรือเพื่อการโอนหนี้

วิธีสมัครบัตรกดเงินสด

วิธีสมัครบัตรกดเงินสด

##สามารถเลือกสมัครได้ 4ทาง คือ สมัครด้วยตัวเอง, สมัครออนไลน์, ทางไปรษณีย์ และผ่านทางเจ้าหน้าที่(เซลล์) วิธีที่ดีที่สุดคือไปสมัครด้วยตัวเองจะดีและเร็วที่สุด เพราะอาจเจอมิจฉาชีพได้

วิธีสมัครบัตรกดเงินสดให้ผ่านการอนุมัติ

วิธีสมัครบัตรกดเงินสดให้ผ่านการอนุมัติ

ตรวจสอบประวัติเครดิตบูโรของผู้สมัครว่าจะต้องไม่เป็นผู้มีประวัติค้างชำระหรือชำระล่าช้า แม้กระทั่งท่านเคยถูกฟ้องเรื่องการเงินหรือไม่ หากมีประวัติเหล่าสถาบันการเงินจะไม่อนุมัติใบสมัครของท่าน

เลือกสถาบันการเงินตามวัตถุประสงค์และฐานเงินเดือนของผู้สมัคร รวมทั้งความสามารถในการชำระเงิน

เตรียมเอกสารให้พร้อม พนักงานประจำหรือราชการต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรประจำตัวข้าราชการ พร้อมกับสำเนาทะเบียนบ้าน, สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3-6 เดือน, หนังสือรับรองเงินเดือน สำหรับเจ้าของกิจการต้องเตรียมสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนหรือทะเบียนการค้า (ถ้ามี), สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น, สำเนาใบกำกับภาษี ฯลฯ

ผู้สมัครต้องมีอายุตั้งแต่ 20-60 ปี ผู้สมัครต้องทำงานอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 6 เดือนขึ้นไป เรื่องนี้เกี่ยวกับการยื่นเอกสารเพื่อสมัครเนื่องจากการสมัครต้องใช้สลิปเงินเดือนเพื่อที่ทางบริษัทผู้ออกบัตรเงินสดจะสามารถตรวจสอบเครดิตทางการเงินของเราได้

หลายคนคิดว่าบัตรกดเงินสดจำเป็นมากในยามฉุกเฉิน แต่อย่าลืมว่าบัตรนี้สามารถก่อหนี้ก้อนโตให้กับท่านได้ หากใช้อย่างไม่ระมัดระวังและไม่วางแผนอย่างดี เพราะท่านอย่าลืมว่าอัตราดอกเบี้ยค่อนข้างสูง และยังมีค่าธรรมเนียมอื่นๆดังนั้น เราควรใช้จ่ายในแต่ละครั้งไม่ให้มากเกินความจำเป็น จนทำให้เกิดปัญหาต่างๆตามมา