มีหมายศาลมาแล้วว่าชำระหนี้เพิ่มหลังโดนยึดรถครับ ทำยังไงดีครับ

ก็ต้องไปสู้คดีเท่านั้น และไปตามที่ศาลนัดครับ หากคุณชนะก็ไม่ต้องจ่ายส่วนต่าง และจะบอกว่าโอกาสชนะสูงมาก แต่คนส่วนมากมักไม่ค่อยจะสู้คดีกัน ทั้งๆที่กฎหมายพร้อมที่จะช่วยอยู่แล้ว เพราะสัญญาเช่าซื้อเอาเปรียบเราตั้งแต่ต้นแล้วครับ เป็นกำลังใจให้ครับจากคนที่เคยชนะคดีนี้มาแล้วครับ

ทางเดียวคือคุณจะต้องไปแสดงตัวที่ศาลครับ ศาลจะเป็นคนไกล่เกลี่ยให้ และคุณเองควรหาทนายไปด้วยเพื่อดูรายละเอียดคำฟ้องที่อีกฝ่ายฟ้องมา แต่ไม่ต้องตกใจ ไม่ต้องเครียดครับ เพราะเป็นเรื่องปกติที่เวลาเราเราผิดสัญญากับไฟแนนซ์จะโดนทั้งขึ้นทั้งร่อง ต้องไปศาลหาทนายความไปเจรจาต่อรองขอลดยอดหนี้ครับ

ปัญหาผิดนัดชำระหรือการชำระแบบขั้นต่ำจนทำให้เกิดดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และไม่สามารถนำเงินกลับมาคืนให้กับสถาบันการเงินได้ วิธีที่พอช่วยได้ เตรียมคำให้การกับศาล คือการทำข้อมูลแก้ต่างตามที่เจ้าหนี้ยื่นฟ้องเจ้าของบัตรนั่นเอง โดยให้ทนายยื่นคำให้การต่อสู้ในศาล เพราะจะสามารถยืดระยะเวลาการชำระหนี้ออกไปอีกประมาณ 6 เดือน - 1 ปี

อย่าพึ่งตกใจค่ะ เมื่อได้รับหมายศาลก็ให้ไปแสดงตัวที่ศาลตามนัด จะมีการไกล่เกลี่ยก่อนโจทก์เขาจะลดยอดหนี้ลงมาอีกเป็นแสน แล้วเราก็ผ่อนชำระอีก จริงๆแล้วไม่ได้ลดยอดหนี้นะแต่โจทก์เขาฟ้องค่าขาดราคา ค่าติดตาม ค่าทนาย ค่าธรรมเนียมศาล เมื่อไปศาลและมีการไกล่เกลี่ยก็บอกไปเลยโจทก์ไปแบบว่าให้เขาปรานีเราหน่อย คุยกันดีๆอาจจะได้ยอดหนี้ที่เราพอสู้ไหวและยอมรับได้เรื่องก็จะจบ อย่าสู้คดีเด็ดขาดนะคะเพราะไม่มีวันชนะแน่นอน.

รถโดนยึดไปแล้วจนไปประมูลแล้วยังมีหนี้กลับมาหาเราอีกเหรอคะ? ดิฉันไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องนี้เลยแปลกใจค่ะ ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ได้ อย่างที่เม้นท์แรกบอกเหรอคะว่าอาจจะถูกเอาเปรียบมาตั้งแต่แรกแล้ว..แย่จังนะคะ ถ้าสู้คดีแล้วชนะอย่างที่มีคนว่ามาก็ดีนะคะ หากมันคุ้มค่าก็น่าลองดูค่ะ ไม่อยากให้เสียเปรียบเลยโนยึดรถไปก็เสียใจจะแย่ละ

เรื่องการเป็นหนี้เนี่ยทำไมมันจบยากจังเลยนะครับ แต่ถ้าเป็นไปตามขั้นตอนตามกระบวนกฎหมายก็ต้องตามนั้นล่ะครับ ผมไม่ได้เรียนกฎหมายมาเลยไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ เห็นหัวข้อบทความน่าสนใจดี เลยเข้ามาอ่านดูน่ะครับ เอาไว้เป็นความรู้ติดตัว หวังว่าผมจะไม่เจออะไรแบบนี้นะ ผมคงตกใจแล้วก็เครียดมากครับ ป่านนี้เจ้าของกระทู้คงจัดการปัญหาเรียบร้อยแล้วนะครับ

ถ้ามีหมายศาลมาแล้วก็ไปตามนั้นเลยครับ ไปฟังเขา ว่าเขาอยากให้เราทำยังไงบ้าง ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรครับ ทางธนาคารฟ้องเราก็แค่เพื่อว่าจะเอาไปเป็นการประกอบหลักฐานการชะระหนี้ของเราเท่านั้น และเป็นการป้องกันเราหนีหนี้เท่านั้นเองครับ ก็ไปฟังและเขาให้เราจ่ายยังไงก็จ่ายไปตามนั้นแหละครับ ไม่ต้องคิดถึงเรื่องที่ผ่านมา เพราะมีหมายศาลมา ยังไงก็ต้องไป ถ้าไม่ไปก็ยิ่งเกิดปัญหาใหญ่อีกครับ

ผมก็เคยทราบเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้มาเหมือนกันครับ ว่าถ้าลูกหนี้ไม่สามารถส่งเงินค่าผ่อนชำระได้ ตามกำหนด รถจะโดนยึด แล้วเจ้าหนี้จะเอารถคันนั้นไปประมูลแต่ในการประมูลรถออกไปแล้วแต่ได้เงินไม่ครบเต็มจำนวนมูลค่าของรถ ซึ่งส่วนนี้ทางเจ้าหนี้จะะต้องให้ลูกหนี้จ่ายส่วนที่เหลือครับ ดังนั้นเมื่อคุณได้รับหมายศาลอย่าตกใจขอให้คุณไปตามนัดนะครับ

ตามที่คุณปราโมทย์บอกเลยครับ ในฐานะลูกหนี้ ต้องยอมรับสภาพอย่างเดียวเพราะไม่เอาเงินไปจ่ายค่างวดรถให้จบตั้งแต่แรก อย่าหาว่าผมมาซ้ำเติมเจ้าของกระทู้หรือคนที่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เลยครับ ผมพูดตามความเป็นจริง เป็นหนี้เขาก็ต้องจ่าย ถ้ายังไม่มีหรือมีไม่พอก็เข้าไปคุยกับเจ้าหนี้ดีๆ หาทางออกร่วมกัน แล้วเราจะปลดหนี้ได้ครับ

ทำไมยอดเงินที่เจ้าของกระทู้ต้องจ่ายมันแพงจัง เพิ่งรู้จากคอมเม้นท์ที่เข้ามาบอกว่าคนที่เจอแบบเจ้าของกระทู้สามารถไปสู้คดีที่ศาลได้ แล้วโอกาสชนะก็มีสูงด้วย ไม่น่าเชื่อนะคะ เราอ่านจากระทู้แล้วก็ตกใจเลยอะว่าทำไมเงินที่ต้องจ่ายมันถึงได้สูงจัง มีใครเคยเจอเหตุการณ์แบบเจ้าของกระทู้บ้างมั้ยคะ อยากรู้ประสบการณ์ของคุณบ้างค่ะ

กรณีแบบนี้เราคิดว่าน่าจะเป็นความล่าช้าของทางไฟแนนซ์ ที่เขาส่งเรื่องคุณขึ้นศาลคะ คิดว่า แผนกยึดรถยนต์ กับแผนกกฏหมายของไฟแนนซ์ที่คุณไปเป็นหนี้ ไม่น่าจะได้คุยกันคะ เอาว่าไปศาลตาที่เขานัดได้เลยคะ เอาเอกสารการยึดรถยนต์ ไปด้วยนะคะ หรือว่าจะไปคุยกับไฟแนนซ์ก่อนก็ได้ บางทีเขาอาจจะยกเลิกศาลก็ได้คะ ไม่ต้องกลัวคะ

อยากจะถามเรื่องคดีของเจ้าของกระทู้ว่าเป็นยังไงบ้าง อ่านจากกระทู้ของคุณแล้วน่าเป็นห่วงนะครับ ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ น่ากังวลมากครับ แต่มีบางคนแนะนำให้คุณทำบางอย่างด้วย เลยอยากถามเป็นความรู้หน่อยน่ะครับ ถ้าเจ้าของกระทู้ได้เข้ามาอ่านคอมเม้นท์ผมก็ขอบอกด้วยนะครับ ผมไม่เคยรู้เรื่องแบบนี้มาก่อน อยากรู้ข้อมูล ขอบคุณครับ

อยากรู้จังว่าเรื่องของเจ้าของกระทู้จะลงเอยอย่างไร เงินที่คุณต้องจ่ายเพิ่มมันเยอะนะ ผมเองไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องนี้ คนใกล้ตัวก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เหมือนกัน ผมเลยอยากรู้ว่าต้องทำยังไงจริงๆ เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับเราครับ หากดำเนินการช้าเกินไปคนที่เสียหายมากที่สุดก็คือตัวเราเองนั่นแหละ..จริงมั้ยล่ะครับ

เจอแบบนี้เข้าไปก็ต้องทำใจและชำระเงินคืนเขาไปล่ะครับ ตอนที่เจ้าของกระทู้รู้เรื่องนี้ ตกใจก็เป็นเรื่องนึง อีกอารมณ์คงจะเป็นแบบว่า นี่เราต้องจ่ายอีกเหรอเนี่ยนึกว่าโดนยึดรถไปแล้วมันจะจบดันมีภาคต่อมาอีก ประมาณนี้ใช่มั้ยครับ เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้วผมว่าคุณคงจัดการเรื่องนี้เรียบร้อยแล้วนะครับ คงจบจริงๆเสียทีเนอะ

ในกรณีของเจ้าของกระทู้เนี่ย ก็คือ ต้องชำระเงินเพิ่มเองใช่มั้ยครับ ถ้ามีเงินอยู่บ้างก็ดี จ่ายเงินไปได้เลย ถ้าไม่มีก็แย่หน่อยต้องไปหาจ่ายมาให้เค้า จริงๆแล้วเราสามารถประเมินเรื่องค่ารถไว้ก่อนได้มั้ยครับ แบบราคาตลาดอยู่ที่ประมาณเท่านี้ ซึ่งคำนวณดูแล้วเราอาจจะต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกเท่านี้นะ จะได้เตรียมไว้เลยอะครับ

มีหมายศาลมาก็ต้องจ่ายมั้ยอะครับ ไม่จ่ายได้ด้วยเหรอ อันนี้ผมถามจริงๆนะ อยากรู้เหมือนกันว่ามาถึงจุดนี้แล้วจะสามารถเลี่ยงการชำระเงินไปได้หรือเปล่า แต่จริงๆ น่าจะมีการเตรียมตัวเตรียมใจกันไว้บ้างนะครับ ว่ารถของคุณราคาตลาดมันเป็นยังไง โอกาสที่จะต้องจ่ายเงินเพิ่มมันมีมั้ย ถ้ามันมีโอกาสแบบนั้นเกิดขึ้น ต้องเตรียมเงินไว้เลยครับ

ในกรณีแบบที่เจ้าของกระทู้ถามมา เจ้าของรถต้องจ่ายมั้ยอะครับ หมายถึง ตัวของเจ้าของกระทู้เองที่เป็นเจ้าของรถคันนั้นมาก่อนน่ะ มันเป็นส่วนต่างที่อยู่ในความรับผิดชอบของคุณเองมั้ยอะครับ ที่ผมถามแบบนี้ก็เพราะว่าผมอยากรู้เหมือนกัน เรื่องค่าใช้จ่ายอะไรแบบนี้บางทีมันก็ก่อให้เกิดความสับสนหรือเข้าใจผิดได้ ว่าใครควรเป็นคนจ่าย