ผมเคยอ่านสูตรรวยของพวกมหาเศรษฐี เพื่อนเคยผ่านตาไหมค่ะ ต้นทุนความคิดของพวกเขาเป็นยังไงกันบ้าง

ผมอ่านมาว่า เศรษฐีนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จะใช้จินตนาการแทนความคิด และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ให้กับวงการธุรกิจ โดยเขาเปลี่ยนระบบการขายบ้าน จากการที่บ้านสร้างเสร็จจะถูกโอนหลังจากลูกค้าผ่อนดาวน์หมดแล้ว เปลี่ยนเป็นบ้านสร้างเสร็จก่อนขายพลิกโฉมวงการอสังหาริมทรัพย์ สาเหตุที่ทำบ้านสร้างเสร็จก่อนขายก็เพื่อความคุมคุณภาพได้ก่อนส่งมอบถึงมือลูกค้า โอกาสที่ลูกค้าจะยกเลิกออเดอร์มีน้อยมาก และบ้านคุณภาพตกก็มีน้อยเช่นกัน ทำให้รายได้ และกำไรของกิจการดีขึ้น จนก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งในวงการอสังหาริมทรัพย์ได้ครับ ดังนั้น ทำอะไรต้องคู่คุณภาพครับ

สำหรับเศรษฐีนั้นมักจะใช้ความคิดง่ายๆ แต่คนส่วนใหญ่ยังคิดไม่ถึงครับ เช่น วอเรนต์ บัฟเฟตต์ ใช้ความคิดง่ายๆ เพียงแค่ “ซื้อหุ้นให้เหมือนกับเราเป็นเจ้าของบริษัท” ซึ่งความคิดทำนองนี้จะไม่อยู่ในหัวสมองของพวก “เทรดหุ้น” หรือพวกที่ซื้อขายหุ้นรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน เลย มันเป็นแนวคิดที่ง่าย ที่หลายคนมองข้าม และไม่เคยที่จะนึกถึง แต่มันก็ทำให้ วอเรนต์ บัฟเฟตต์ กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่สองของโลกได้อย่างสบายๆครับ

เราไม่เคยอ่านเลยค่ะหนังสือพวกนี้ ไม่ใช่ว่าไม่อยากมีเงินนะคะใครๆก็อยากมีเงินกันทั้งนั้นแหละ แต่ก็ไม่รู้สิเราคงไม่ใช่พวกหัวการค้า พอเจอเรื่องการลงทุน เรื่องการคำนวณเงิน นู่น นี่ นั่น คือเจอตัวเลขมากๆเหมือนสมองจะปิด เจอคำศัพท์ทางธุรกิจหรือการลงทุนต่างๆอ่านแล้วเหมือนเป็นภาษาต่างดาวไม่เข้าใจเลย ทุกวันนี้ก็พยายามใช้จ่ายให้ไม่เกินกับรายได้ของตัวเอง มีเก็บไว้ในธนาคารบ้างและไม่เป็นหนี้ใครเท่านั้นเองค่ะ

ทางนี้ก็ไม่เคยอ่านเหมือนกันค่ะ เพราะมีความรู้สึกว่าสูตรรวยของคนอื่นก็อาจจะไม่เหมาะกับเรา หลายคนพยายามเท่ากันแต่ได้ผลตอบแทนไม่เหมือนกันใช่ไหมคะขึ้นอยู่กับวาระแล้วก็โอกาสด้วย อย่างถ้าเราอยากจะลงทุน เราก็รู้ว่าทุกการลงทุนมีความเสี่ยง คนที่ลงทุนถูกก็รวยไป คนที่ลงทุนพลาดก็ล้มละลาย แต่จากที่เห็นนักธุรกิจหรือนักลงทุนหลายคนเนี่ยที่ประสบความสำเร็จไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยล้มพลาดนะคะ แต่เขาล้มแล้วลุกเขาไม่กลัวที่จะลงทุนใหม่ คิดว่าอาจจะเป็นความพยายามและความอดทนของเขามั้งคะ

อันนี้เลยครับฝันให้ไกลไปให้ถึง คือสำหรับมหาเศรษฐีทั้งหลายนะครับเขามีต้นทุนอยู่แล้ว แล้วเขาสามารถสร้างต้นทุนของเขาให้เพิ่มมากขึ้นได้จากการคิดวางแผน ไม่หยุดไม่พอสำหรับสิ่งที่มีอยู่แล้วต้องทำให้เงินของเขาเพิ่มมากขึ้นไปอีก แล้วก็พยายามประหยัดที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมเห็นคนที่เป็นมหาเศรษฐีก็ประหยัดกันทั้งนั้นนะครับเพราะถ้าไม่เริ่มจากอะไรเล็กๆน้อยๆ สิ่งที่มีมากก็จะลดลงด้วย

คนจนมักอยู่กับความฝันคะ เพราะว่าเขาไม่มีอะไรมาลงทุนเลยคะ ถึงจะลงทุนได้ก็ได้ไม่มากคะ ความหวังเดียวของเขาคือเงืนที่ใช้จ่ายให้พอในแต่ละวันเท่านั้นคะ แต่สำหรับคนรวย เขามีต้นทุนที่ดีกว่าคะ เช่นเขามีทรัพย์สินที่จะเอามาแปรเป็นเงินทุนได้คะ แล้วคนรวยๆก็เป็นที่ยอมรับของสถาบันทางการเงินด้วย เวลาจะทำอะไรขออะไรมันก็ดูง่ายไปหมดคะ