4 เคสที่ประกันการเดินทางไม่จ่าย

ประกันภัยการเดินทาง เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ของการประกันภัยแบบชั่วระยะเวลาที่มีความสำคัญมากสำหรับคนที่ชอบเดินทางต่างประเทศก็มักจะรู้จักและคุ้นหูกันดี ในบางประเทศแถบยุโรปจะบังคับให้ผู้ที่จะเดินทางเข้าประเทศต้องซื้อประกันการเดินทางก่อนเข้าประเทศด้วย ผู้เดินทางมักจะซื้อความคุ้มครองตามระยะเวลาที่เดินทาง การประกันภัยประเภทนี้ช่วยให้เราท่องเที่ยวได้อย่างมั่นใจในทุกทริป ช่วยให้เรารู้สึกอุ่นใจ ไร้กังวล ปลอดภัยด้วยความคุ้มครองที่ปกป้องทั้งชีวิต ทรัพย์สิน และความช่วยเหลือฉุกเฉินทางการแพทย์ ช่างเป็นทางเลือกใหม่ที่คุ้มครองได้มากกว่า ให้ผู้ชอบเดินทางสนุกได้อย่างเต็มที่กับทุกแผนการท่องเที่ยวเลยล่ะค่ะ

เมื่อเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ที่ตอบโจทย์ทุกเรื่องของการเดินทางให้แก่ผู้ซื้อแล้ว ก่อนที่เราจะตัดสินใจซื้อความคุ้มครองนั้นเราก็ควรมาดูกันก่อนว่าแล้วมีกรณีอะไรกันบ้างที่ประกันการเดินไม่ให้การคุ้มครองหรือที่เรียกว่ายกเว้นความคุ้มครองนั่นเอง เราลองไปติดตามอ่านข้อมูลดูกันต่อได้เลยค่ะ

1.เมื่อทำการยกเลิกการเดินทางกะทันหันโดยไม่มีเหตุสมควร

การยกเลิกการเดินทางหรือเปลี่ยนแผนการเดินทางนั้นแน่นอนว่าทางบริษัทประกันภัยจะต้องตรวจสอบก่อนค่ะว่าเหตุนั้นเหมาะสมกับการยกเลิกหรือเปลี่ยนแผนหรือไม่ ซึ่งทางบริษัทก็จะต้องเห็นได้ชัดว่าต้องเป็นการยกเลิกเนื่องจากเหตุอื่นที่สำคัญและสุดวิสัยจริงๆนะคะ อาทิ เช่น การเกิดสงคราม การจราจร การเจ็บป่วยสาหัส หรือเสียชีวิตของผู้เอาประกันแบบกระทันหัน การถูกหมายศาลเรียกโดยที่ไม่รู้ตัวมาก่อน เป็นต้นค่ะ ไม่ใช่นึกเกิดไม่อยากไปขึ้นมาก็เลยขอยกเลิกการเดินทางกันดื้อๆ แบบนี้ประกันการเดินทางหรือประกันที่ไหนก็คงไม่จ่ายค่าชดเชยกันหรอกจริงไหมคะ

2.เมื่อเจ็บป่วยมาก่อนการเดินทาง

หากเราแจ้งก่อนซื้อประกันการเดินทางว่าเรามีอาการเจ็บป่วยมาก่อนแล้วจะมาขอซื้อประกันการเดินทางก็คงไม่มีบริษัทไหนรับทำประกันให้หรอกค่ะ เพราะจุดประสงค์ของการทำประกันในทุกๆประเภทนั้นเหมือนกันเลยค่ะ คือทำเผื่อไว้ใช้ ไม่ได้ทำเพื่อจะมาใช้ค่ะ ตรงนี้ค้องทำความเข้าใจกันด้วยนะคะ เพราะฉะนั้นเมื่อเราเจ็บป่วยมาก่อนซื้อประกันการเดินทางก็แน่นอนว่ากรณีแบบนี้จะไม่ได้รับความคุ้มครองค่ะ หรือทางบริษัทอาจรับประกันเราแต่จะระบุในสลักหลังว่าเป็นข้อยกเว้นความคุ้มครองก็สามารถทำได้ค่ะ แต่หากเราแข็งแรงดีก่อนการเดินทางแล้วมาเจ็บป่วยในช่วงระยะเวลาคุ้มครอง เราก็มั่นใจได้เลยค่ะว่าเราจะได้รับความคุ้มครองแบบ 100% เต็มจากประกันการเดินทางฉบับนี้ค่ะ

3.เมื่อเกิดอุบัติเหตุขณะอยู่ในอาการมึนเมา

แอลกอฮอล์ก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกาย ชีวิต และทรัพย์สินเสมอค่ะ และแน่นอนค่ะว่ากรณีการเกิดเหตุจากแอลกอฮอล์นี้ไม่ว่าจะเกิดความเสียหายต่อชีวิต หรือทรัพย์สินก็เป็นอีกกรณีหนึ่งที่บริษัทประกันทุกที่ก็ไม่ให้ความคุ้มครองค่ะ ถึงแม้ว่าเราจะซื้อประกันการเดินทางไว้แล้วและเหตุนั้นเกิดขึ้นในระยะเวลาที่คุ้มครองอยู่ก็ตาม โดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆด้วยค่ะ เพราะอุบัติเหตุที่เกิดจากแอลกอฮอล์เป็นเหตุที่บริษัทประกันมองว่าตัวบุคคลนั้นทราบดีถึงความสามารถของร่างกายที่ไม่เต็มร้อยหากมีแอลกอฮอล์อยู่ในร่างกาย แต่เมื่อบุคคลนั้นๆยังเลือกจะดื่มเข้าไป แสดงว่าบุคคลนั้นจะต้องยอมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้นี้ไว้เองค่ะ ซึ่งข้อนี้มีระบุไว้ท้ายกรมธรรม์อย่างชัดเจนว่าเป็นข้อยกเว้นการคุ้มครองค่ะ

4.เมื่อทำกิจกรรมหรือเล่นกีฬาที่มีความเสี่ยงสูง

กีฬาและกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูงบางชนิดอาจจะมีแทรกอยู่ในทริปการท่องเที่ยวของเรารอบนี้ก็เป็นได้ค่ะ แต่กิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูงนี้ต้องขอบอกก่อนนะคะว่าจะไม่ได้รับความคุ้มครองหากเกิดความเสียหายต่อชีวิตหรือทรัพย์สินนะคะ เช่น การกระโดดร่ม (skydiving), การดำน้ำลึก (scuba diving), บันจี้จัมพ์ (bungee jump), เฮลิ-สกี (heli-skiing) เป็นต้น ซึ่งหากเรารู้ก่อนว่าทริปนี้ของเราจะมีกิจกรรมเสี่ยงประเภทเหล่านี้ เราก็อาจขอซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมในกิจกรรมพวกนี้ได้ค่ะ ซึ่งจะมีการคำนวณค่าเบี้ยประกันเพิ่มขึ้นจากบริษัทประกัน เราอาจจะควักกระเป๋าเพิ่มอีกเพียงเล็กน้อย แต่ถ้าคิดจะเที่ยวกับทริปสุดเหวี่ยงกันแบบนี้ก็นับว่าคุ้มค่ามากๆค่ะ คราวนี้ก็จะได้สนุกเสุดเหวี่ยงแบบไม่ต้องกังวลว่าจะคุ้มครองไหมแล้วล่ะค่ะ

ประกันเดินทางสิ่งจำเป็นของนักเดินทางที่ต้องมี

มาถึงตอนนี้ หากเราวางแผนจะออกเดินทางไปเที่ยวกันแล้ว ก็คงจะเกิดคำถามในใจกันใช่ไหมคะ ว่าจำเป็นจะซื้อประกันการเดินทางดีติดไปด้วยดีไหม? โดยเฉพาะหากทริปนั้นเราต้องเดินทางไปต่างประเทศ ครั้นจะซื้อก็กลัวว่าจะไม่คุ้ม หรือหากคิดจะไม่ซื้อก็กลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น แล้วต้องมานั่งนึกเสียใจในภายหลัง แต่หากเรามองถึงประโยชน์ที่มากมายแลกกับเงินค่าเบี้ยที่เราต้องควัก ซึ่งเพียงหลักร้อยแต่แลกกับความคุ้มครองทั้งหมดที่ให้เราในหลักล้านก็นับว่าคุ้มค่าค่ะ เพราะฉะนั้น หากเราคิดจะเที่ยวก็ขอให้เที่ยวกันแบบเก็บเกี่ยวความสุขให้เต็มที่ แบบไร้กังวล ความเสี่ยงต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้ในทริปเที่ยวของเราก็แค่ควักกระเป๋าเพิ่มขึ้นอีกสักหน่อย แล้วปล่อยให้บริษัทประกันทำหน้าที่แบกรับความเสี่ยงของเราไปเถอะค่ะ สบายใจกว่ากันเยอะเลยค่ะ