จากราคาน้ำมันในปัจจุบันที่ทำสถิติขึ้นเป็นประวัติการณ์ ทำให้เกิดพลังงานทดแทนต่างๆไม่ว่าจะเป็น แก๊สโซฮอล์ ไบโอดีเซล หรือแม้แต่ ก๊าซ เอ็นจีวี หรือ แอลพีจี จริงอยู่ที่พลังงานบางอย่างไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ก็ต้องยอมรับว่าพลังงานเหล่านั้นก็ยังคงได้รับความนิยมอยู่ แต่ด้วยทั้งหมดทั้งมวล ปัจจุบันจึงเกิดสิ่งใหม่ที่คิดว่าทุกคนคงเฝ้ารอ และถูกพูดถึงมากที่สุดในทุกวันนี้มากที่สุดเลย ก็คือ รถยนต์ไฮบริด หรือเครื่องยนต์ไฮบริด โดยจะสิ่งนี้จะเข้ามาเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ในการประหยัดเงินในกระเป๋ากับค่าน้ำมันไป แต่เพราะรถยนต์ไฮบริดถือเป็นนวัตกรรมใหม่ ทำให้มีหลายคนนยังไม่มีความรู้จัก และไม่ค่อยเข้าใจถึงคำว่า ไฮบริดมันคืออะไร วันนี้ในบทความนี้จะพาไปทำความรู้จัก และทำความเข้าใจเกี่ยวกับรถยนต์ไฮบริดทุกซอกทุกมุม

รถยนต์ไฮบริด (Hybrid Car) คืออะไร?

รถยนต์ไฮบริด (Hybrid Car) คืออะไร?

บางคนก็เรียกว่ารถยนต์ไฮบริด คือ รถยนต์ประหยัดพลังงาน , รถยนต์ช่วยลดโลกร้อน , รถยนต์ไฟฟ้า และอีกมากมายคำที่จะเรียก ส่วนความจริง รถยนต์ไฮบริด คือ รถยนต์ที่เกิดขึ้นจากความพยายามที่จะทำการรวมข้อดีของแหล่งพลังงานแต่ละชนิดเข้าด้วยกัน รวมถึงหลีกเลี่ยงหรือขจัดข้อเสียของแต่ละพลังงานออกหรือว่าง่ายๆ ก็ คือ รถยนต์ที่มีแหล่งกำเนิดพลังงานมากกว่า 1 แห่งและรถยนต์ไฮบริดหรือ Hybrid Car แต่ละประเภทก็จะแตกต่างกันอยู่บ้าง เช่น ใช้เครื่องยนต์กับล้อช่วยแรง , มอเตอร์ไฟฟ้ากับล้อช่วยแรง , ใช้มอเตอร์ไฟฟ้ากับเครื่องยนต์ประเภทเผาไหม้ภายใน เป็นต้น ซึ่งต่างจากรถยนต์ทั่วไปที่ใช้ระบบเชื้องเพลิงน้ำมันอย่างเดียว ทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับการปล่อยมลพิษสู่ชั้นบรรยากาศเยอะ และเนื่องจากรถยนต์ไฮบริด หรือ Hybrid Car ใช้ระบบไฟฟ้าจึงทำให้สามารถช่วยเรื่องของมลพิษ และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับน้ำมันอีกด้วย และเพราะเหตุนี้รถรถยนต์ไฮบริดจึงถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะทำให้รถของเราสามารถใช้พลังงานได้อย่างสมเหตุสมผลและมีความสมดุลมากขึ้น เรียกได้ว่าช่วยประหยัดน้ำมัน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้มีคำนิยามรถยนต์ไฮบริดหลายแบบตามที่ได้บอกไปตอนแรก

รถยนต์ไฮบริด (Hybrid Car) ใช้พลังงานจากที่ไหน?

รถยนต์ไฮบริด (Hybrid Car) ใช้พลังงานจากที่ไหน?

อย่างที่บอกไปแล้วว่ารถยนต์ไฮบริด (Hybrid Car) ใช้พลังงานแบบผสมผสานระหว่าง น้ำมันและไฟฟ้า แต่ก็จะมีรถยนต์ไฮบลิดหลายประเภทหลายรูปแบบ โดยรูปแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน คือ รูปแบบ Power-split หรือ ซีรีส์-พาราลเรล (Series-Parallel Hybrid) โดยระบบนี้ก็จะมีการทำงาน ดังนี้ คือ เมื่อเราทำการขับรถด้วยความเร็วสูง รถก็จะเปลี่ยนมาใช้ระบบเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันแทน แต่ว่าถ้าหากเราขับรถช้าใช้ความเร็วต่ำเช่นการขับในเมืองที่มีการจราจรแออัด รถก็จะปรับมาใช้ระบบไฟฟ้า โดยการดึงพลังงานจากแบตเตอรี่มาทำงานแทน ซึ่งส่วนนี้ก็จะช่วยให้เราประหยัดน้ำมันมากกว่ารถยนต์ทั่วไปนั่นเอง

ข้อดีของรถยนต์ไฮบริด (Hybrid)

ประหยัดน้ำมันมากกว่ารถที่ใช้ระบบน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างเดียว  เพราะเครื่องยนต์ไฮบริดสามารถที่จะปรับเปลี่ยนระบบการใช้พลังงานได้ระหว่างน้ำมันและไฟฟ้าทำให้รถยนต์ไฮบริดใช้พลังงานได้เหมาะสมกับการใช้งานอยู่เสมอ ทำให้ลดภาระของเครื่องยนต์เบนซินลงกว่าครึ่ง เพราะเหตุนี้จึงทำให้รถยนต์ไฮบริดประหัยดน้ำมันได้มากกว่า 20 กิโลเมตรต่อลิตร ตามตัวชี้วัดของมาตรฐานสากล ช่วยลดการปล่อยมลพิษทางอากาศ เพราะรถยนต์ไฮบริดนั้นได้ลดภาระของเครื่องยนต์เบนซินลงกว่าครึ่ง และใช้มอเตอร์ไฟฟ้าส่งกำลังแทนจึงไม่เกิดควันรถที่มาจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์เบนซิน ผลจากทดสอบจริงในรูปแบบจำลองการขับขี่ในเมืองที่ใช้ในการทดสอบของญี่ปุ่น (รูปแบบการขับขี่ 10/15) พบว่าก๊าซพิษ อย่าง CO,HC & NOx หรือเรียกง่ายๆ ว่าก๊าซพิษตัวสำคัญๆ นั้น มีปริมาณแค่เพียง 1 ใน 10 ของเครื่องยนต์ทั่วไปเท่านั้น โดยเฉพาะก๊าซ CO2 นั้น สามารถลดลงได้มากถึง 50% เลยทีเดียว ระบบเครื่องยนต์จะเงียบกว่าเมื่อใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ระบบไฟฟ้าเป็นระบบที่มีเสียงน้อยกว่าระบบเชื่อเพลิงที่ใช้เครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนเพราะระบบไฟฟ้าใช้พลังงานจากแบตเตอรรี่ทำให้เสียงค่อนข้างที่จะเงียบกว่าระบบเชื่อเพลิงที่ต้องทำการเผาไหม้เพื่อใช้เป็นพลังงานให้รถขับเคลื่อนได้ ทั้งประหยัดน้ำมัน ช่วยลดมลพิษในอากาศยังช่วยลดมลภาวะเสียงด้วย ไม่ต้องจอดรถชาร์จแบต สมัยนี้มีรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าถูกผลิตออกมาทำให้หลายคนมีความสับสนคิดว่า รถยนต์ไฮบริดต้องทำการชาร์จแบตเตอรี่เหมือนรถยนต์ไฟฟ้าทั่วไปจริงอยู่ที่รถยนต์ไฮบริดใช้พลังงานไฟฟ้าแต่ก็ใช้น้ำมันด้วยเพราะเป็นรถสองระบบจึงไม่จำเป็นที่จะต้องทำการชาร์จแบตเพราะประจุไฟจะเกิดขึ้นในขณะที่เราใช้งานรถยนต์ ทั้งขณะวิ่งลงทางลาดและขณะเบรก

ข้อเสียของรถยนต์ไฮบริด (Hybrid Car)

รถยนต์ไฮบริดมีราคาที่แพงกว่ารถยนต์ทั่วไป รถยนต์ไฮบริด (Hybrid Car) นั้นถือเป็นนวัตกรรมใหม่ของบ้านเราทำให้อะไหล่ส่วนใหญ่รับมาจากต่างประเทศไม่ค่อยมีผลิตในประเทศไทย ทำให้ตัวรถนั้นมีราคาที่ค่อนข้างสูง มีตัวเลือกน้อย รถยนต์ไฮบริด หรือ (Hybrid Car) นั้นถือว่าเป็นของใหม่สำหรับบ้านเรา โดยมีเพียงแค่ 2 ค่ายในบ้านเราที่ทำการตลาดรถยนต์ประเภทนี้ คือ โตโยต้า กับ ฮอนด้า จึงมีรุ่นและแบบรถน้อยถ้าเทียบกับรถยนต์ทั่วไป ไม่ค่อยมีที่ให้บริการซ่อม อย่างที่บอกว่ารถยนต์ไฮบริด หรือ (Hybrid Car) นั้นถือเป็นสิ่งใหม่ ทำให้บ้านเราไม่ค่อยมีอู่ที่มีความชำนาญในการซ่อมรถยนตืประเภทนี้ถึงมีก็ยังมีน้อย ทำให้พอเวลาเสียขึ้นมาต้องพาเข้าโชว์รูมหรือศูยน์ของรถยี่ห้อนั้นเท่านั้น ทำให้ต้องใช้เวลานานเพราะมีการรอคิว

รถยนต์ไฮบริด (Hybrid Car) ประหยัดน้ำมันได้จริงไหม?

อย่างที่บอกว่ารถไฮบริดนั้นมีการใช้ระบบไฟฟ้า และระบบน้ำมันควบคู่ไปด้วยกันโดยมีระบบจัดการอัตโนมัติทำให้ง่ายต่อการใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น เมื่อขับรถเข้าเมืองก็ปรับมาใช้ระบบไฟฟ้าเพราะว่ารถติดและช่วยประหยัดน้ำมัน ส่วนเวลารถไม่ติดวิ่งบนทางด่วนก็ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงหรือเราจะเลือกโหมดที่ใช้ทั้งสองระบบตอนขับรถก็ได้ นั่นก็คือทั้งระบบไฟฟ้า และระบบน้ำมันเชื้อเพลิง ก็จะช่วยให้เรายิ่งประหยัดมากขึ้น สรุปเลยว่ารถยนต์ไฮบริดนั้นประหยัดน้ำมันมากกว่ารถยนต์ที่ใช้ระบบน้ำมันเชื้อเพลิงเพียงอย่างเดียว

การทำงานของระบบไฮบริด (Hybrid)

การทำงานของระบบไฮบริด (Hybrid)

ระบบไฮบริดจะทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า โดยแบ่งการทำงานตามช่วงการขับขี่ ดังนี้  ช่วงออกตัว ในช่วงเริ่มขับเคลื่อนระบบจะใช้พลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้าซึ่งทำงานด้วยพลังงานจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว เนื่องจากมอเตอร์ไฟฟ้าจะให้แรงบิดในรอบต่ำได้ดีกว่าเครื่องยนต์ เหมาะกับสภาวะการออกตัวของรถยนต์ที่นุ่มนวลและเหมาะกับการออกตัวที่สุด
 ช่วงขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ เครื่องยนต์ไม่สามารถให้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพได้ แต่มอเตอร์ไฟฟ้าให้แรงบิดและพลังงานได้ดีกว่า ระบบไฮบริดจึงใช้พลังงานไฟฟ้าที่เก็บอยู่ในแบตเตอรี่เพื่อขับเคลื่อนเพียงอย่างเดียว
 ช่วงขับขี่ด้วยความเร็วปกติ ในช่วงนี้จะใช้เครื่องยนต์ขับเคลื่อนเป็นหลัก เพราะอยู่ในช่วงที่เครื่องยนต์ให้ประสิทธิภาพและใช้พลังงานที่ดีที่สุด พลังงานจากน้ำมันจะถูกนำไปใช้กับการขับเคลื่อนทั้ง 4 ล้อโดยตรงขึ้นอยู่กับการขับขี่ พลังงานส่วนเกินจะถูกแปลงไปเป็นพลังงานไฟฟ้าแล้วเก็บไว้ในแบตเตอรี่ไฮบริด
 ช่วยเร่งเครื่องยนต์ เมื่อมีการเร่งเครื่องยนต์อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะในกรณีขึ้นทางลาดชันหรือจังหวะเร่งแซง พลังงานจากแบตเตอรี่ไฟฟ้าจะถูกส่งไปขับเคลื่อนเสริมกับเครื่องยนต์
 ช่วงลดความเร็วหรือเบรก ในจังหวะนี้ระบบไฮบริดจะใช้พลังจลที่เกิดขึ้นทำให้ล้อหมุนมอเตอร์ไฟฟ้าซึ่งทำหน้าที่เสมือนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและใช้พลังงานความร้อนจากการเบรกหรือลดความเร็วแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้าแล้วส่งไปเก็บไว้ในแบตเตอรี่เพื่อใช้งานในต่อๆไป
 ช่วงหยุดอยู่กับที่ เครื่องยนต์ มอเตอร์ไฟฟ้า และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจะหยุดทำงานโดยอัตโนมัติต่อเมื่อรถยนต์ได้หยุดอยู่กับที่

สรุป

สรุป

ถึงแม้รถยนต์ไฮบริด หรือ (Hybrid Car) จะไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนักในประเทศไทย แต่ผู้ผลิตพยายามพัฒนาให้ผู้บริโภคอย่างเรายอมรับ โดยมีนโยบายเกี่ยวกับการลดโลกร้อน การประหยัดพลังงานเชื้อเพลิง ซึ่งในประเทศไทยมีเพียงศูนย์ซ่อมบริการเท่านั้นที่มีความรู้ในการซ่อมบำรุง ส่วนอู่ข้างนอกถือว่ายังไม่มีความชำนาญ และเพราะค่าอุปกรณืและค่าอะไหล่นั้นมีราคาสูง ทำให้หลายคนยังเลือกใช้รถยนต์ระบบเชื้อเพลิงทั่วไปอยู่ แต่ผมคิดว่าในอนาคตจะมีการแข่งขันด้านการตลาดรถยนต์ไฮบริดเพิ่มมากขึ้น แล้วจะทำให้ราคาถูกลงกว่าปัจจุบัน ถ้าเป็นแบบนี้ก็จะถือเป็นเรื่องดีสำหรับผู้บริโภค แต่อย่างไรก็ตามคงต้องรอฟังข่าวสารต่อไป