หุ้น คือ ตราสารที่ออกโดยบริษัท ห้างหุ้นส่วน และ สหกรณ์. หรือสิทธิ์ในความเป็นเจ้าของกิจการนั้นๆ เช่น หากเราลงเงินกับเพื่อนคนละครึ่งเพื่อเปิดร้านอาหาร เราจะมีสิทธิ์ในกิจการร้านอาหารนี้ครึ่งหนึ่ง สิทธิ์นี้เองที่เรียกว่าหุ้นหรือหุ้นส่วน. ในสมัยอดีต กิจการต่างๆมักจะอยู่ในรูปแบบเจ้าของคนเดียวหรือห้างหุ้นส่วนซึ่งเกิดจากการร่วมหุ้นกับจากหมู่คนใกล้ชิด แต่เมื่อทุนนิยม เข้ามามีบทบาทมากขึ้น กิจการก็มีขนาดใหญ่ขึ้น ระบบของหุ้นจึงถูกนำมาใช้เพื่อระดมทุนจากคนทั่วไปได้อย่างกว้างขวาง พูดง่ายๆ คือ หุ้นก็คือความเป็นเจ้าของธุรกิจที่ถูกแบ่งขายออกมานั่นเอง โดยชนิดของหุ้น มีดังนี้ คือ หุ้นทุนหรือหุ้นสามัญ (Common Stock) คือหน่วยของความเป็นเจ้าของ ในบริษัท สหกรณ์ หรือกิจการ ที่ระบุให้แบ่งหน่วยความเป็นเจ้าของเป็นหุ้นตามสัดส่วน จำนวนหุ้นที่มีถืออยู่ ผู้ถือหุ้นจะมีสิทธิ์ออกเสียงในการประชุมผู้ถือหุ้นได้มากเท่ากับสัดส่วนของหุ้นที่ถือ มีสิทธิ์ตั้งฝ่ายจัดการของกิจการได้. หุ้นบุริมสิทธิ์ (Preferred Stock) คือหุ้นที่มีความเป็นเจ้าของ ผสมกับความเป็นเจ้าหนี้ด้วย ถ้าบริษัทนั้นๆต้องเลิกกิจการลง ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิ์จะได้รับส่วนแบ่งก่อนผู้ถือหุ้นสามัญคนอื่น. หุ้นกู้ (Debenture) คือตราสารที่กิจการออกมา เพื่อเป็นการกู้ยืมเงินใช้ในกิจการ โดยจ่ายดอกเบี้ยให้กับผู้ถือหุ้นเป็นผลตอบแทน จะได้รับเงินที่ลงทุนในหุ้นกู้คืน เนื่องจากเป็นเจ้าหนี้ของกิจการ. การลงทุนในหุ้นจึงเป็นเหมือนการทำธุรกิจ เพราะเราไม่จำเป็นต้องลงทุนทั้งกายทั้งใจทั้งเวลาเหมือนเจ้าของธุรกิจ เพียงแต่วิเคราะห์หาสุดยอดธุรกิจ ซื้อหุ้นก็จะสามารถเริ่มต้นเป็นเจ้าของกิจการได้. แม้เป็นการยากที่จะบอกว่าหุ้นเป็นการลงทุนที่ดีที่สุด เพราะนักลงทุนแต่ละคนย่อมเหมาะกับสินทรัพย์ที่ไม่เหมือนกัน แต่จากลักษณะของหุ้นนั้นเหมาะกับนักลงทุนที่อยากมีกิจการเป็นของตนเองผ่านการถือหุ้น หรือนักลงทุนที่อยากได้เงินปันผลต่อเนื่องในระยะยาว รวมไปถึงนักเก็งกำไรที่สร้างกำไรจากความผันผวนของราคาหุ้นในระยะสั้น. จึงนับว่ามีข้อดีและข้อเสียรวมๆไป.

advantage disadvantage stock

gopixa/shutterstock.com

ข้อดีของการเล่นหุ้น

ข้อดีของการเล่นหุ้น

ไม่ต้องบุกเบิกธุรกิจเอง ไม่จำเป็นต้องลงทุนเยอะ แต่สามารถเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทนั้นได้ การซื้อหุ้นคือการซื้อธุรกิจถ้าได้ก็ถือว่าคุ้ม และถ้าหุ้นตัวไหน ที่เราไม่ชอบก็ไม่ต้องซื้อ ไม่ต้องเจอกับสารพัดปัญหาของการทำธุรกิจ ถ้าปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจเปลี่ยน เทรนด์เปลี่ยนเราก็สามารถตัดขายขาดทุนได้ทันที เพราะสภาพคล่องของหุ้นมันสูง เป็นอิสระ ไม่มีใครมาสั่งการ สามารถบริหารเวลาในแต่ละวันของตัวเองได้ และทำที่ไหนก็ได้ ให้ผลตอบแทนสูงในระยะยาวหากมีการลงทุนอย่างมีหลักการและมีข้อมูลที่ดี ขนาดของเงินลงทุนสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ เลือกระดับของความเสี่ยงตามที่ตนเองยอมรับได้ มีทางเลือกของธุรกิจที่จะลงทุนมาก ไม่จำกัดอยู่ที่การศึกษาหรือความชำนาญเฉพาะทาง หากประสบความสำเร็จจะหยุดพักเป็นเวลานานก็ได้ ไม่เหมือนนักธุรกิจหรือลูกจ้างที่ต้องทำต่อเนื่องเต็มเวลา มีความท้าทายตลอดเวลา ไม่จำเจเหมือนงานประจำ ไม่ต้องเกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องทุจริตในองค์กรหรือในธุรกิจส่วนตัว สามารถทำได้ตลอดชีวิต ไม่มีการเกษียณ ได้เพื่อนใหม่ๆและพบความตื่นเต้นในชีวิต มีราคาที่อ้างอิงได้และข้อมูลกิจการมากมายให้เลือกลงทุน

ข้อเสียของการเล่นหุ้น

ข้อเสียของการเล่นหุ้น

ราคาผันผวนเปลี่ยนแปลงไปตามสภาวะตลาดอยู่ตลอดเวลา เป็นปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ การขาดทุน จึงเกิดขึ้นได้ง่ายและสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา หากนักลงทุนวิเคราะห์ผิดพลาด หาหุ้นที่ดีๆทำได้ค่อนข้างยากและต้องใช้เวลาพอสมควร ไม่สามารถบริหารธุรกิจให้เป็นไปในทิศทางที่ต้องการได้เพราะไม่ใช่เจ้าของธุรกิจ แต่เป็นเพียงผู้ถือหุ้น การสืบหา มาที่ไป ประวัติของบริษัท ผู้บริหาร ทำได้ค่อนข้างยากโดยเฉพาะรายย่อย ไม่เหมือนรายใหญ่ มักมีการปล่อยข่าวลือ ตกแต่งบัญชี หรือสร้างผลประการขึ้นมาเอง ต้องเสียเวลาตรวจสอบ มีความเสี่ยงมากกว่าการทำงานประจำ แต่ก็ยังน้อยกว่าการทำธุรกิจด้วยตนเอง ในการที่จะเลี้ยงชีพได้จากการลงทุนต้องมีเงินออมมากพอสมควรก่อน ไม่ใช่เริ่มต้นจากศูนย์เลย คนส่วนใหญ่มักมีทัศนะคติที่ไม่ดีต่อการลงทุนในหุ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากไม่ทำงานอย่างอื่นด้วยเลย นักลงทุนในหุ้นจำนวนมากอยากกำไรมากๆ รวยเร็วๆ มักจะกลายสภาพเป็นนักพนันไปโดยไม่รู้ตัว โลภได้และมักจะไม่ประสบความสำเร็จ ใช้เวลานานในการสร้างผลกำไรทบต้นจนเป็นเงินก้อนใหญ่ ดังนั้นหากเริ่มต้นช้าเกินไป ก็จะต้องไปรับความเสี่ยงมากในบั้นปลายของชีวิต

โดยสรุปก็คือ หุ้น และอื่น ๆ ที่สามารถจัดได้ว่าเป็นการลงทุน ล้วนแต่มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป ในความเป็นจริงแล้วไม่ได้สำคัญเลยว่าจะเป็นการลงทุนด้วยวิธีไหน เพราะหัวใจของมันก็คือการใช้เงินทำงานแทนเราเพื่อให้ได้เงินมากขึ้น แต่การลงทุนมันมีทั้งโอกาสสำเร็จ และไม่สำเร็จ คนที่ทำสำเร็จ ก็จะบอกว่ามันดี ส่วนคนที่ทำไม่สำเร็จ ก็จะบอกว่ามันแย่ จึงขึ้นอยู่ที่เราด้วยว่าจะพยายามกับมันแค่ไหนนั่นเอง.