สัญญาณที่เตือนให้เห็นถึงอันตรายทางการเงินเป็นเรื่องที่หลายคนให้ความสนใจ แล้วก็มีหลายบทความครับที่หยิบยกเอาเรื่องนี้ขึ้นมานำเสนอ เพราะเป็นห่วงไม่อยากให้มีใครพบเจอกับปัญหาทางการเงิน หลายคนหยิบยกเอาสัญญาณเตือนเหล่านี้มาจากประสบการณ์ของตัวเอง ของคนรู้จัก หรือสรุปมาจากบทความต่างๆของคนที่เล่าเรื่องปัญหาการเงินของตัวเอง ซึ่งก็ช่วยเตือนให้เราเห็นถึงสัญญาณอันตรายก่อนที่เราจะมีปัญหาทางการเงิน การรู้ถึงสัญญาณอันตรายเหล่านี้ก็จะช่วยให้เราป้องกันสถานะทางการเงินของเราไว้แต่เนิ่นๆ ก่อนที่จะมันจะสายเกินแก้ครับ ในบทความนี้ผมรวบรวมเอาสัญญาณเตือนที่เกิดขึ้นกับเราได้ง่ายๆ เป็นสัญญาณเตือนที่เกิดขึ้นได้กับแทบทุกคนครับ หรือที่เรียกได้ว่าเป็นปัญหาใกล้ตัวของเรา มาให้ดูว่ามีอะไรบ้างและเราจะป้องกันได้ยังไง
ใช้เงินแบบเดือนชนเดือน
เรื่องนี้เป็นข้อแรกๆเลยครับที่ถูกยกขึ้นมาเมื่อมีการพูดถึงสัญญาณอันตรายทางการเงิน แล้วก็เป็นข้อที่หลายคนเอาไปขยายความต่อ แตกย่อยออกไปเป็นข้อๆเพื่ออธิบายให้เห็นถึงปัญหาและวิธีแก้ไข แต่จริงๆแล้วผมคิดว่าสภาพแบบเงินเดือนชนเดือนนี้เป็นเรื่องปกติในช่วงแรกๆของการทำงานครับ เพราะตอนเริ่มต้นทำงานเรายังจะไม่มีเงินเก็บ เงินเดือนสตาร์ทก็น้อย และของจำเป็นที่เราจำเป็นต้องซื้อมาใช้ก็เยอะแยะ จึงทำให้สภาพทางการเงินเราไม่คล่องตัวมากนัก แต่สัญญาณอันตรายจะเริ่มมีเมื่อเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่ง สภาพการณ์ของแต่ละคนก็แตกต่างกันออกไปดังนั้นจึงไม่มีมาตรฐานที่ระบุได้ชัดเจนว่าตอนนี้เริ่มอันตรายแล้วนะ แต่เราสามารถวิเคราะห์ได้ด้วยตัวเองครับ เมื่อผ่านไปสักครึ่งปีหรือ 1 ปีแล้ว ก็เป็นช่วงที่สภาพรายรับรายจ่ายของเราน่าจะทำให้เรามีเงินเก็บได้ แต่ถ้าผ่านไป 1 ปีแล้วแต่เรายังไม่สามารถมีเงินเก็บได้ เงินพอใช้แค่ช่วงกลางเดือน ปลายเดือนมาต้องเริ่มประหยัดแบบสุดๆแล้วเนี่ย ก็ควรจะเริ่มตระหนักถึงสัญญาณเตือนได้แล้วแล้วล่ะครับ
ทำไมเรื่องนี้ถือว่าเป็นอันตราย อย่างแรกเลยคือสภาพทางการเงินของเราจะไม่คล่องตัว ซึ่งจะส่งผลให้เห็นชัดในช่วงปลายเดือนก่อนที่เงินเดือนใหม่จะออก เป็นช่วงที่เงินเดือนเริ่มใกล้จะหมด ตอนนี้ล่ะครับเริ่มใช้จ่ายอะไรได้ยาก แล้วที่น่าเป็นห่วงมากกว่าก็คือในช่วงที่มีสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่นเกิดป่วยขึ้นมากะทันหัน อุบัติเหตุ หรือของใช้จำเป็นเกิดชำรุด การที่เราไม่มีเงินสำรองเก็บไว้ใช้ในยามฉุกเฉินก็จะทำให้เราพบกับปัญหาแน่นอนครับ ทางออกง่ายๆของปัญหานี้ก็คือ หลังจากผ่านช่วงเวลาหนึ่งของอายุการทำงานไปแล้ว ในช่วงที่รายจ่ายสำหรับข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นอยู่ตัวแล้ว ก็จำเป็นที่เราจะต้องระวังในการใช้เงินให้ถูกช่วง เท่าไหร่คนจะเริ่มระวังการใช้เงินในช่วงไปปลายๆเดือน ที่เงินเดือนแทบจะร่อยหรอแล้ว ดังนั้นเราควรเปลี่ยนมาใช้เงินอย่างระมัดระวังในช่วงต้นเดือนเลยจะดีกว่า รายการทำบัญชีรายรับรายจ่ายอย่างละเอียด และให้คิดอย่างรอบคอบเสมอเมื่อจะซื้อของแต่ล่ะอย่าง และที่สำคัญคือการเงินส่วนหนึ่งไว้เป็นเงินเก็บและถ้าไม่จำเป็นจริงๆต้องไม่ยุ่งกับมันเลย
ยืมเงินจากที่หนึ่งไปใช้อีกที่หนึ่ง
เป็นเรื่องธรรมดาครับที่เราจะมีการกู้ยืมเงินเพื่อมาใช้จ่ายในส่วนที่ขาดไปเมื่อรายจ่ายของเรามีมากกว่ารายรับ โดยเฉพาะช่วงแรกๆที่เราเริ่มต้นทำงาน ก็อย่างที่บอกครับในช่วงนี้เป็นช่วงที่เรามี รายรับหรือเงินเดือนที่น้อยอยู่ แต่กลับมีค่าใช้จ่ายจำเป็นหลายอย่าง แต่เมื่อเวลาผ่านไปเราก็จำเป็นจะต้องคืนเงินที่เรายืม หรือก็คือการชำระหนี้ ซึ่งโดยปกติแล้วการชำระหนี้ก็คือหักจากส่วนหนึ่งของเงินเดือนหรือรายรับของเดือน ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ก็ไม่เป็นปัญหาอะไรหรอกครับ แต่บางครั้งเราก็อาจจะยังใช้เงินเกินตัวอยู่จนทำให้เงินส่วนที่เราต้องใช้ชำระหนี้มีไม่พอหรือไม่เหลือให้ชำระหนี้ได้ หลายคนเลยใช้ทางออกหรือการไปยืมเงินจากอีกที่หนึ่ง เพื่อมาชำระหนี้ก้อนเดิม ซึ่งอาจจะมองว่าไม่ได้เป็นอันตรายอะไร แค่หาทางออกแบบแก้ไขเฉพาะหน้าไปก่อนเท่านั้น แต่ปัญหาก็คือ การทำแบบนี้ หนี้ของเราก็ยังไม่ได้หมดไปนะครับ แล้วถ้าทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ก็มีโอกาสที่หนี้ของเราจะก้อนใหญ่ขึ้น เพราะโอกาสที่เราจะใช้เงินเกินตัวกับเรื่องฉุกเฉินก็มีโอกาสเป็นไปได้
ดังนั้นทางออกที่ดีคือ เมื่อเราเป็นหนี้อยู่ ก็พยายามจ่ายชำระหนี้ให้ครบด้วยเงินส่วนแบ่งที่เรากันไว้สำหรับใช้หนี้ ไม่ให้เราใช้เงินเกินเข้าไปในส่วนของเงินที่จะใช้สำหรับชำระหนี้สิน ถ้าไม่ถึงขั้นคอขาดบาดตาย เงินที่เราจะใช้สำหรับชำระหนี้สินจะต้องกันไว้เพื่อจ่ายชำระหนี้สินเท่านั้นและไม่นำไปใช้กับอะไรอย่างอื่นทั้งสิ้น และในกรณีที่ฉุกเฉินจริงๆ ที่จำเป็นที่จะต้องเอาเงินในส่วนที่เราจะต้องเอาเงินส่วนที่กันไว้สำหรับชำระหนี้สินมาใช้ ก็ให้เราจดบันทึก อาจจะเลือกใช้วิธีขอผ่อนผันกับเจ้าหนี้ แล้วในเดือนต่อมาก็อาจจะหาทางพยายามกันเงินในส่วนนั้นเพิ่มเติมด้วย
ใช้เงินเดือนไม่ชนเดือน
มีเงินใช้แค่เดือนชนเดือนก็ว่าแย่แล้วนะครับ แต่ถ้าพูดถึงเงินเดือนไม่ชนเดือนก็ยิ่งแย่หนักเข้าไปใหญ่ อย่างที่บอกครับในช่วงต้นของการทำงานอาจจะดูไม่ได้แย่อะไรมากมาย อาจจะต้องมีการกู้ยืมบ้างเพื่อที่จะใช้ในการซื้อของจำเป็น แต่เมื่อผ่านการทำงานมาได้สักพักหนึ่งแล้วแต่สภาพการณ์แบบนี้ยังเป็นอยู่ ก็ถือว่าเริ่มเป็นอันตรายสำหรับสภาพทางการเงินของเราแล้วนะครับ เพราะสภาพการณ์แบบนี้ยิ่งทำให้เรามีสภาพฝืดทางการเงินมากขึ้นเรื่อยๆ มีโอกาสที่เราจะเป็นหนี้สินมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็จะมีปัญหาทางการเงินอีกหลายอย่างตามมา ดังนั้นเมื่อเราเริ่มมีปัญหามีเงินใช้เดือนไม่ชนเดือน ก็จำเป็นที่เราจะต้องเริ่มวิเคราะห์ครับว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้างที่เราไม่จำเป็นต้องใช้และสามารถตัดออกไปได้บ้าง วิธีที่ดีที่สุดก็คือเราจำเป็นที่ต้องทำบัญชีรายรับรายจ่าย เพื่อดูว่าเราจะสามารถลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นให้ได้มากที่สุดได้ยังไง และหาวิธีทำยังไงก็ได้ที่เราจะมีรายได้เพิ่มมากขึ้น
สัญญาณเตือน เตือนเพื่อให้รีบหาทางแก้ไข
สัญญาณเตือนต่างๆที่ผมได้หยิบยกขึ้นมาพูดคุยในบทความนี้ เป็นสัญญาณเตือนที่อยากจะบอกให้เพื่อนๆลองตรวจดูว่ามีอะไรบ้างที่กำลังเจออยู่ ไม่ได้อยากต่อว่าเพื่อนๆนะครับ เพียงแต่ว่าถ้าเกิดมีสัญญาณเหล่านั้นก็ควรที่จะรีบหาทางแก้ไข เพราะโดยปกติแล้วคนเราก็จะมีความต้องการอยากได้นู่นได้นี่ มีที่ตัวเองชอบ ทำให้เราไม่ได้ระวังในเรื่องของการใช้จ่ายเงิน แล้วสัญญาณเตือนเหล่านี้ล่ะครับกำลังเตือนว่าเรากำลังจะมีปัญหาทางการเงินเข้ามาแล้ว ดังนั้นเพื่อนๆอย่ามองว่าบทความนี้กำลังต่อว่าเพื่อนๆนะครับ ก็อยากให้ลองมองดูว่าเริ่มมีสัญญาณเตือนอะไรแล้วบ้างไหม แล้วรีบแก้ไขมันทันที ก่อนที่มันจะสายเกินไป
โอลิ
เรื่องการใช้เงินชนเดือนเราเป็นคนที่ประสบกับปัญหานี้บ่อยมาก จนวันหนึ่งเรามองมันว่าเราต้องปรับปรุงตรงนี้แล้ว เราจึงปรับวิธีการใช้เงินใหม่ วางแผนการเงินที่ดีกว่าเดิม จนเวลาผ่านมาสักพักเราก็สามารถทำได้ มีเงินเก็บ ไม่เป็นปัญหาอีกต่อไปเลย หากใครที่กำลังท้อแท้ก็พยายามต่อไปค่ะ เราสามารถทำได้อยู่แล้ว สู้ๆนะคะสำหรับคนที่กำลังประสบปัญหาอยู่
คมสัน
มีสัญญาณเตือนเหมือนกันนะครับสำหรับในกรณีที่เราใช้เงิน เพื่อช่วยให้เราสามารถสังเกตเกี่ยวกับว่าเราจะ มีหนี้เพิ่มมากขึ้น อย่างเช่นวิธีการใช้เงินแบบเดือนชนเดือน โดยที่เราไม่รู้พอสำหรับเงินที่เอามาบริหารจัดการในแต่ละเดือน ก็เป็นตัวชี้วัดอีกอย่างหนึ่งที่จะทำให้เรารู้ว่า เรากำลังจะเป็นหนี้ได้ แล้วก็ยังมีสิ่งที่เราต้องสังเกตอื่นๆอีกในบทความนี้ด้วยนะครับ
*ออมสิน*
เรื่องเงินเดือนไม่พอใช้ในบางครั้งบางคราวก็อาจจะมีกันบ้างแต่ถ้าเป็นบ่อยนี่น่าห่วงแล้วครับ แสดงว่าไม่ได้มีการจดบันทึกรายรับ-รายจ่ายเลย จึงไม่รู้ว่าใช้เงินไปกับอะไรบ้าง พอหาสาเหตุไม่ได้ก็ยิ่งใช้ไปเรื่อยๆ เป็นแบบนี้วนไป อีกไม่นานต้องไปยืมเงินคนอื่นแน่ๆแล้วก็เป็นปัญหาอีก การจดบันทึกรายรับ-รายจ่ายทุกวัน ช่วยได้ครับ
ขิม
เรานะ บ่อยเลยยืมจากที่หนึ่งไปใช้อีกที่หนึ่ง อันนี้เราเลย คือ เราทำบัตรเครดิตไว้ สามใบ แล้วใช้แบบนี้แหละเอาจาก ที่หนึ่งไปจ่ายอีกที่หนึ่ง แต่ ก็จ่ายทันนะ แต่ สิ้นเดือนทีก็แทบหมดเลยละ เห็นทีว่า อ่านบทความนี้แล้วต้องปรับปรุงตัวเรื่องการใช้เงินขนานใหญ่เลยละ ขืนเราทำตัวแบบนี้ต่อไปอาจจะจบไม่สวยแบบที่บทความนี้บอกแน่ๆเลย
พัลลพ
เป็นคนที่ใช้เงินเก่งครับ เงินเข้ามาก็ใช้ออกไปทันที ไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไรเกี่ยวกับการใช้เงินหรือเงินที่มีอยู่ แต่พอช่วงโคโรน่านี่แหละครับปัญหาเกิดขึ้นเลย ต้องไปกู้ยืมคนอื่นมาใช้เพราะเงินไม่พอใช้ พอได้อ่านบทความแล้วก็ทำให้ผมรู้ว่าสถานการณ์ของตัวเองในตอนนี้ เสี่ยงมากครับที่จะมีหนี้ท่วมหัวถ้ายังไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เงินของตัวเอง
คิมหันต์
เข้าท่าดีนะ ที่บทความนี้ทำให้เราสามารถเชคตัวเองได้ว่า การเงินเป็นอย่างไรบ้าง นี่ อ่านไปเราก็คิดตามไปนะ ว่า เราเป็นตรงจุดไหนบ้าง ช่วงนี้ ของเราน่าจะเป็นแบบเดือนไม่ชนเดือนมากกว่า เพราะว่าตอนนี้ เวลางานถูกลดลง รายได้เลยน้อยลงไปด้วย แต่ค่าใช้จ่ายยังเท่าเดิม แบบนี้ เราต้องดูแล้วละว่าต้องปรับการใช้จ่ายตรงไหนบ้าง
พลอย
ก็เป็นสัญญาณเตือนที่ดีอยู่หรอกค่ะสำหรับเมื่อมีเงินเดือนพอแค่เดือนชนเดือนหรือไม่พอ จริงๆแล้วมีสัญญาณเตือนอีกหลายอย่างค่ะสำหรับการใช้บัตรเครดิตเขาสามารถเป็นสัญญาณเตือนได้ถ้ารู้ตัวเองว่า ไม่มีเงินที่จะเอาไปผ่อนชำระหรือว่าเริ่ม หาเงินไม่ทันสำหรับเดือนใหม่แล้ว เราต้องคิดให้ดีนะคะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตเลยทีเดียวเพื่อเราจะมีสภาพคล่องในการเงินที่ดีได้ต้องหลีกเลี่ยงค่ะ
ปัถย์ชวนันท์
ถ้าเราเจอ สัญญาณเตือน แบบนี้ เราต้องปรับปรุงแก้ไขนะไม่ใช่มีสัญญาณเตือน แล้วก็ไม่แก้ไข ปล่อยมันไปแบบนี้ไม่ได้นะ มันเหมือนกับปัญหาสุขภาพเลยนะ บางครั้งก็จะมีสัญญาณเตือนความเจ็บป่วยมาให้เราก่อน ถ้ารักษาทันก็หายไว แต่ถ้าปล่อยให้เตือนไปเรื่อยๆ ผลสุดท้ายกายเป็นโรคร้ายแรง รักษาอาจไม่หาย อาจเป็นแบบนั้นด้วยกับการใช้เงินของเรา อาจหมดทางรักษาในที่สุด
Bento
@โอลิ ประสบการณ์ของคุณคงเป็นกำลังใจให้หลายๆคนเลยนะครับ ผมเองเข้าใจดี เพราะเคยมีสภาวะเดือนชนเดือนหมุนไม่ทันมาก่อน แทบจะไม่มีเงินเก็บ ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนจริงจังเหมือนกัน คือเลิกซื้อของที่ไม่จำเป็นเลย สุดท้ายก็เหลือเงินเก็บบ้าง ทำยากแต่ทำได้ครับ พยายามนะครับ ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น อย่าพยายามเสียเปล่านะ