ภาษีเงินได้ ต้องจ่ายที่ไหน มีวิธีคำนวณยังไงบ้าง

E-Payment คือระบบรองรับระบบภาษี และเอกสารธุรกรรมทางการอิเล็กทรอนิกส์ ตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการนำส่งเงินภาษี การยื่นรายการ หรือเอกสารที่เกี่ยวข้องกับภาษีอากร และกฎหมายอีเพย์เมนต์มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2562 เป็นต้นไปคะ

ภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า แวต เป็นภาษีทางอ้อมประเภทหนึ่งที่เรียกเก็บจากบุคคลที่ซื้อสินค้าหรือรับบริการ โดยจัดเก็บเฉพาะจากมูลค่าส่วนที่เพิ่มขึ้นในแต่ละขั้นผลิต การจำหน่ายหรือการให้บริการสำหรับประเทศไทยบ้านเรานั้น ประเทศไทยได้กำหนดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มไว้ที่ 10% แต่ทั้งนี้ ตั้งแต่ พ.ศ. 2540

เหมือนกับการที่เรามีร้านค้าและอยากจะติดป้ายหน้าร้านหรือติดป้ายบอกเส้นทางของร้านนั่นแหละครับ เคยสังเกตไหมครับว่าห้างสรรพสินค้าดังๆอย่างโลตัส โฮมโปร บิ๊กซี จะมีป้ายไฟใหญ่ๆที่หน้าห้าง นั่นแหละครับจำเป็นต้องมีการเสียภาษีป้ายปีละเป็นหมื่นทีเดียว โดยภาษีป้ายจะมีการคิดตามขนาด และจำนวนตัวอักษรที่อยู่บนป้ายนั่นแหละครับเป็นเกณฑ์

ก็คือใครก็ตามครับ ที่ทำงานและได้รับเงินเดือน และเงินเดือนที่ได้รับก็อยู่ในเกณฑ์ที่ให้เสียภาษี ซึ่งเกณฑ์หรือจำนวนเงินที่ให้เสียภาษีก็จะมีการกำหนดจากรายรับที่เรามี และนำไปคำนวณกับการ รวมยอดเงินรายรับเป็นรายปี รายจ่ายของเราหักลบกันแล้วเหลือเท่าไหร่ มีเงินเก็บตามเกณฑ์ที่ได้กำหนดไว้ก็สามารถยื่นเรื่องในการเสียภาษีรายปีได้เลยครับ

เราทุกคนต้องเสียภาษี ดังนั้นนี่เป็นเรื่องปกติค่ะโดยเฉพาะเรื่องของภาษีมูลค่าเพิ่มไม่ว่าเราจะกินจะดื่มจะใช้จ่ายอะไร โดยเฉพาะ ตามร้านค้าที่มีสลิป หรือบินให้เราก็มักจะมีระบุเอาไว้อยู่แล้วว่ามีเสียภาษีนู่นนี่นั่นถ้าสังเกตให้ดีนะคะ ตัวอย่างเช่นถ้าคุณไปรับประทานอาหารที่ Sizzler ทุกครั้งที่จ่ายค่าอาหารไม่ได้รับบิลมาลองสังเกตดูนะคะ ว่าคุณก็ต้องเสียภาษีเหมือนกัน

อันนี้คุณต้องลองสอบถามที่กรมศุลกากรดูนะครับ เพราะเขาเป็นคนกำหนดกฎเกณฑ์ภาษีเกี่ยวกับเรื่องเครื่องอุปกรณ์การแพทย์ แต่คือเคยได้ยินมาแว่วๆว่าช่วง covid เนี่ยเขาจะลดภาษีนำเข้าเครื่องมือแพทย์อยู่นะ แต่ไม่แน่ใจว่าจะถึงปีหน้าเลยหรือเปล่านะครับ ถ้าคุณทำงานเกี่ยวกับด้านนำเข้าแบบนี้ก็ลองติดต่อสอบถามกับกรมศุลกากรดีที่สุดครับ