หลายคนอาจจะไม่รู้จักการรีไฟแนนซ์บ้าน ดังนั้นเราจะมาดูก่อนว่าการรีไฟแนนซ์บ้านคืออะไร รีไฟแนนซ์บ้าน หมายถึง การกู้ยืมสินเชื่อก้อนใหม่จากธนาคารที่เราเป็นหนี้ผ่อนชำระอยู่เดิม หรือจะทำเรื่องกู้เงินจากธนาคารใหม่มาโปะหนี้ธนาคารเดิมก็ได้ ส่วนใหญ่จะใช้กับการผ่อนบ้าน คอนโดฯ เช่น กู้บ้าน 5 ล้าน จะผ่อน 10 ปี ผ่อนไปได้ 3 ปีแรก เกิดปัญหา หมุนเงินมาผ่อนไม่ทัน เลยยื่นเรื่อง ขอรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารเดิม (หรือธนาคารใหม่ก็ได้) เพื่อให้ช่วยขยายระยะเวลาผ่อนที่เหลืออยู่ให้ยาวนานขึ้น จะได้ผ่อนค่างวดน้อยลง พูดง่ายๆ คือทำเรื่องกู้ใหม่อีกรอบเพื่อให้ได้ค่างวดและดอกเบี้ยที่ถูกลงนั่นเอง ดังนั้นเราจะมาดูกันว่ามีขั้นตอนอะไรบ้างเพื่อที่จะทำการรีไฟแนนซ์
PTstock/shutterstock.com
ตรวจสอบสัญญาเงินกู้ฉบับเดิมที่มีอยู่
ขั้นตอนแรกในการรีไฟแนนซ์บ้านก็คือ การตรวจสอบสินเชื่อเดิมก่อนว่า สินเชื่อเดิมถึงกำหนดเวลาที่สามารถยื่นรีไฟแนนซ์บ้านหรือยัง ซึ่งโดยทั่วไปธนาคารจะอนุญาตให้รีไฟแนนซ์หรือไถ่ถอนสินเชื่อเดิมได้เมื่อผ่อนชำระครบ 3 ปี แต่ทั้งนี้ คุณสามารถเตรียมตัว หาสถาบันการเงินอื่นๆ และยื่นเรื่องรีไฟแนนซ์ได้ก่อน เพราะกระบวนการรีไฟแนนซ์อาจใช้เวลา 1 – 2 เดือนได้ ทั้งนี้ นอกจากการตรวจสอบสัญญากู้เดิมแล้ว คุณควรสอบถามสถาบันที่คุณทำสินเชื่ออยู่แล้วว่าสามารถปรับอัตราดอกเบี้ยใหม่ (Retention) ได้หรือไม่ และถ้าได้ สามารถปรับลดลงได้เท่าไร เพื่อที่คุณจะได้นำมาพิจารณาตัดสินใจร่วมกับการหาธนาคารแห่งใหม่รีไฟแนนซ์เพื่อความคุ้มค่าของคุณเอง
พิจารณาธนาคารที่จะขอรีไฟแนนซ์
มี 3 ธนาคารด้วยกัน ที่มีสินเชื่อดีๆ สำหรับผู้ที่ต้องการรีไฟแนนซ์บ้าน
สินเชื่อบ้าน TISCO Mortgage Saver
ข้อมูลผลิตภัณฑ์ ทำเรื่องบ้านให้เป็นเรื่องง่าย สินเชื่อบ้านสำหรับรีไฟแนนซ์ ลดค่างวด ให้ผ่อนเบากว่าเดิม หรือเลือกผ่อนใกล้เคียงค่างวดเดิม และสามารถกู้เพิ่มได้ วงเงินกู้สินเชื่อบ้านขั้นต่ำ 700,000 บาท วงเงินสินเชื่อสูงสุด 95% ของราคาประเมิน มีวงเงินเหลือสามารถกู้สินเชื่ออเนกประสงค์เพิ่มได้
สบายๆกับการผ่อนชำระนานสูงสุด 30 ปี (ระยะเวลาการผ่อนชำระเมื่อรวมกับอายุผู้กู้แล้วต้องไม่เกิน 70 ปี) เลือกผ่อนค่างวดแบบเท่ากันตลอดระยะเวลาการกู้ หรือผ่อนแบบขั้นบันได ให้อิสระในการชำระเงินกู้ สามารถจ่ายเกินค่างวดได้ไม่จำกัด และปิดบัญชีด้วยเงินสดได้ตามความต้องการ สิทธิประโยชน์สำหรับลูกค้าสินเชื่อบ้านธนาคารทิสโก้ บริการมอร์เกจ เซฟเวอร์ ที่ให้คุณโปะได้ และถอนเงินที่โปะออกมาใช้ได้ คุณสมบัติผู้ขอสินเชื่อและเงื่อนไขการรับหลักประกัน บุคคลธรรมดา สัญชาติไทย อายุ 21 – 60 ปี (พนักงานประจำอายุสูงสุดไม่เกิน 55 ปี, เจ้าของกิจการอายุสูงสุดไม่เกิน 60 ปี) พนักงานประจำ อายุงานปัจจุบันไม่ต่ำกว่า 1 ปี ผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัว ประกอบธุรกิจมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ปี ผู้กู้ร่วมต้องมีความสัมพันธ์ทางเครือญาติกับผู้กู้ (ยกเว้นกรณีคู่สมรสไม่จดทะเบียน) หลักประกันประเภทบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ บ้านแฝด อาคารพาณิชย์ และห้องชุดพักอาศัย รับหลักประกันเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ, นนทบุรี, ปทุมธานี, สมุทรปราการ, สมุทรสาคร และนครปฐม
เอกสารประกอบการสมัครสินเชื่อ
เอกสารทางด้านข้อมูลบุคคล พนักงานเงินเดือน สำเนาบัตรประชาชน (รับรองสำเนาถูกต้อง) สำเนาทะเบียนบ้าน (รับรองสำเนาถูกต้อง) สำเนาใบทะเบียนสมรส / ใบเปลี่ยนชื่อสกุล ใบรับรองเงินเดือน และ สลิปเงินเดือน ย้อนหลัง 3-6 เดือน สำเนาหนังสือรับรองการหักภาษี (50 ทวิ / ภ.ง.ด.90) Bank Statement ย้อนหลัง 6 เดือน (บัญชีส่วนตัว) เอกสารที่แสดงถึงฐานะทางการเงิน เช่น บัญชีเงินออม, กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน (ถ้ามี)
สำหรับธุรกิจส่วนตัว
สำเนาบัตรประชาชน (รับรองสำเนาถูกต้อง) สำเนาทะเบียนบ้าน (รับรองสำเนาถูกต้อง) สำเนาใบทะเบียนสมรส / ใบเปลี่ยนชื่อสกุล ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนนิติบุคคล / ใบจดทะเบียนการค้า / ใบทะเบียนพาณิชย์ สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีชื่อผู้กู้ / ผู้กู้ร่วม งบการเงินย้อนหลัง 3 ปีของกิจการ สำเนาใบแสดงการหักภาษี ณ ที่จ่าย / ใบ ภ.ง.ด / ใบ ภ.พ.30 ย้อนหลัง 6 เดือน Bank Statement ย้อนหลัง 6 เดือน (บัญชีส่วนตัว) Bank Statement ย้อนหลัง 6 เดือน (บัญชีกิจการ) เอกสารที่แสดงถึงฐานะทางการเงิน เช่น บัญชีเงินออม, กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน (ถ้ามี)
เอกสารทางด้านข้อมูลหลักประกัน
สำหรับรีไฟแนนซ์บ้าน สำเนาเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์หลักประกัน เช่น โฉนดที่ดิน อ.ช.2 สำเนาใบอนุญาตปลูกสร้าง เช่น ท.ด.13, ท.ด.14 สำเนาสัญญาเงินกู้กับสถาบันเดิม สำเนาหนังสือสัญญาจำนองที่ดิน สำเนาใบเสร็จเงินกู้ เดือนล่าสุด
ค่าธรรมเนียมและค่าบริการต่างๆ
ค่าธรรมเนียมสำหรับสินเชื่อบ้านเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อบ้านสำหรับรีไฟแนนซ์ 1.ค่าอากรแสตมป์ : 0.05% ของวงเงินกู้หรือสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท 2.ค่าธรรมเนียมจดจำนอง : ไม่เกิน 1% ของมูลค่าจำนอง หรือสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท 3.ค่าสำรวจ และประเมินหลักประกัน : ตามที่บริษัทประเมินนอกกำหนด 4.ค่าธรรมเนียมการจัดการสินเชื่อ : ฟรี 5.ค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย : 0.11 ถึง 8% ของทุนประกันภัย 6.ค่าเบี้ยปรับกรณีปิดภาระหนี้ก่อนกำหนด (ภายใน 3 ปีแรก นับจากวันทำสัญญาเนื่องจากการรีไฟแนนซ์) : คิด 3% ของยอดหนี้คงค้างตามสัญญา ค่าธรรมเนียม สำหรับบริการ ทิสโก้ มอร์เกจเซฟเวอร์ 1.ค่าธรรมเนียมออกบัตร ATM : 100 บาท 2.ค่าธรรมเนียมบัตร ATM รายปี :200 บาท 3.ค่าบริการถอนเงินสด/โอนเงินระหว่างบัญชีธนาคารภายในบัตร/สอบถามยอดเงินในบัญชีจาก ATM ต่าง ธนาคารทั่วประเทศ : ฟรี 4.ค่าบริการโอนเงินระหว่างธนาคาร (ORFT) ผ่านตู้ ATM : วงเงิน 0 - 10,000 บาท อัตรา 25 บาท วงเงิน มากกว่า 10,000 อัตรา 35 บาท ผ่าน TISCO Mobile Banking : ฟรี 5.ค่าบริการโอนเงินพร้อมเพย์ (PromptPay) ผ่านตู้ ATM วงเงิน 0 - 5,000 บาท ฟรี วงเงิน มากกว่า 5,000 ถึง 30,000 บาท อัตรา 2 บาท วงเงิน มากกว่า 30,000 ถึง 100,000 บาท อัตรา 5 บาท วงเงิน มากกว่า 100,000 บาท ถึงวงเงินสูงสุดที่กำหนด 10 บาท 6.ผ่าน TISCO Mobile Banking : ฟรี ค่าธรรมเนียมซื้อสมุดเช็ค : 15 บาท / ฉบับ 7.ค่าบริการเกี่ยวกับเช็ค : ตามประกาศตารางอัตราค่าบริการต่างๆ เบี้ยปรับที่เกี่ยวเนื่องกับเงินฝาก เงินให้สินเชื่อ และค่าบริการอื่นๆ
สินเชื่อบ้านกสิกรไทย
รายละเอียดสินเชื่อ
ดอกเบี้ยพิเศษ ปีที่ 1-3 : MRR-3.22% ปีที่ 4 จนตลอดอายุสัญญา : MRR – 1.50% ฟรีค่าจดจำนองสูงสุด 200,000 บาท
ระยะเวลาผ่อน
สูงสุด 30 ปี
วงเงิน
วงเงินให้กู้สินเชื่อบ้านกสิกรไทยและสินเชื่อตกแต่งบ้านกสิกรไทย รวมกันสูงสุดไม่เกิน 95% ของราคาประเมินหลักประกัน
ระยะเวลาพิจารณาการขอกู้
ประมาณ 3 วันทำการ (เฉพาะการอนุมัติเบื้องต้นและยื่นเอกสารครบถ้วนเท่านั้น)
ค่าธรรมเนียม / ค่าใช้จ่าย
ค่าประเมินราคาหลักประกันโดยบริษัท โพรเกรส แอพไพรซัล หรือบริษัทประเมินที่ธนาคารรับรอง หรือสาขา เป็นผู้ดำเนินการประเมิน คิด 3,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) สำหรับค่าประเมินราคาหลักประกันที่มีทำเลที่ตั้งอยู่บนเกาะสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ธนาคาร
รายละเอียดการสมัคร
คุณสมบัติ สัญชาติ ไทย อายุ 20 ปีขึ้นไป อายุของผู้กู้เมื่อรวมกับระยะเวลาผ่อนชำระแล้วต้องไม่เกิน 70 ปี รายได้ กรณีกู้เดี่ยว ต้องมีรายได้ตั้งแต่ 15,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป กรณีกู้ร่วม ผู้กู้หลักและผู้กู้ร่วม ต้องมีรายได้ 15,000 ต่อเดือนขึ้นไป อายุงาน กรณีเป็นผู้มีรายได้ประจำ ต้องมีอายุงานไม่น้อยกว่า 1 ปี ทั้งนี้ อายุงานสามารถรวมที่ทำงานเก่าได้ โดยต้องผ่านการทดลองงาน ณ ที่ทำงานปัจจุบัน หรือที่ปัจจุบันต้องมีระยะเวลาทำงานไม่ต่ำกว่า 6 เดือน กรณีเป็นผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัว ต้องประกอบธุรกิจปัจจุบันมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี
อื่น ๆ
มีผู้กู้ร่วมได้ไม่เกิน 3 คน และต้องเป็นเครือญาติตามกฎหมาย (ยกเว้นคู่สมรสไม่จดทะเบียน) ผู้กู้ต้องมีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในหลักประกัน
เอกสารทั่วไป
แบบฟอร์มใบสมัครสินเชื่อ และหนังสือให้ความยินยอม ที่ผู้กู้และผู้กู้ร่วมกรอกรายละเอียดครบถ้วน สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาบัตรข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ(ทั้งผู้กู้และคู่สมรสของผู้กู้หลัก/ร่วม) สำเนาทะเบียนบ้าน (ทุกหน้า) ใบเปลี่ยนชื่อ-ชื่อสกุล (ถ้ามีทั้งผู้กู้และคู่สมรสของผู้กู้หลัก / ร่วม) กรณีสมรสจดทะเบียน - สำเนาทะเบียนสมรส กรณีสมรสไม่จดทะเบียน-หนังสือยืนยันสถานภาพสมรสจากลูกค้าหรือสำเนาทะเบียนบ้าน/สูติบัตรของบุตร กรณีหม้าย - ใบสำคัญการหย่าหรือใบแจ้งความเลิกร้างกับคู่สมรส หรือใบมรณะบัตรสำเนาใบเปลี่ยนชื่อ / นามสกุล (ถ้าเปลี่ยน)
เอกสารการเงิน
ผู้มีรายได้ประจำ สลิปเงินเดือนล่าสุด 1 เดือน หรือ หนังสือรับรองเงินเดือน (อายุไม่เกิน 3 เดือน) / สลิปโบนัส เอกสารแสดงการเดินบัญชี (Statement) อย่างน้อย 6 เดือนย้อนหลัง
ข้าราชการบำนาญ
ใบแนบหนังสือสั่งจ่าย และ เอกสารแสดงการเดินบัญชี (Statement) อย่างน้อย 6 เดือนย้อนหลัง ถ้าผู้สมัครมีรายได้ไม่สม่ำเสมออื่น ๆ กรุณาแนบเอกสารเพิ่มเติม ดังนี้ เอกสารแสดงการเดินบัญชี (Statement) อย่างน้อย 6 เดือนย้อนหลัง หรือ 50 ทวิ แสดงรายได้ในช่วง 6 เดือนย้อนหลังเป็นอย่างน้อย
ผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัว หรือ ผู้ที่อ้างอิงรายได้จากกิจการ
เอกสารแสดงการเดินบัญชี (Statement) อย่างน้อย 6 เดือนย้อนหลัง ในนามส่วนบุคคลหรือกิจการ เอกสารแสดงรายรับทางการเงินอื่น ๆ
ผู้ประกอบอาชีพอิสระ
เอกสารแสดงการเดินบัญชี (Statement) อย่างน้อย 6 เดือนย้อนหลัง หรือ 50 ทวิ แสดงรายได้ในช่วง 6 เดือนย้อนหลังเป็นอย่างน้อย เอกสารหลักทรัพย์ (รีไฟแนนซ์) ใบเสร็จการผ่อนค่างวดเดือนล่าสุด สำเนาสัญญากู้เงินสถาบันการเงินเดิม
KK Home Refinance
ให้วงเงินสูง ดอกเบี้ยต่ำ วงเงินอนุมัติสูงสุด 50 ล้านบาท รับวงเงินกู้สูงสุด 100% ของราคาซื้อขายหรือราคาประเมินแล้วแต่อย่างใดจะต่ำกว่า
ผ่อนนานสูงสุดถึง 30 ปี กู้ร่วมได้สูงสุด 4 คน โดยเป็นบุคคลในครอบครัวเดียวกัน
เอกสารครบ รู้ผลอนุมัติทันที ภายใน 3 วัน ฟรี ค่าจดจำนอง ฟรี ค่าประเมินหลักประกัน
วงเงินอนุมัติสูงสุด 50 ล้านบาท วงเงินกู้สูงสุด 100% ของราคาซื้อขายหรือราคาประเมินแล้วแต่อย่างใดจะต่ำกว่า
ประเภทหลักประกันที่ให้บริการสินเชื่อ
บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม ทาวน์เฮ้าส์ อาคารพาณิชย์เพื่อการอยู่อาศัย คอนโดมิเนียม
วงเงินกู้และระยะเวลาอนุมัติ
กรณีรีไฟแนนซ์บ้านใหม่ และคอนโดมีเนียม วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 100% ของราคาซื้อขายหรือราคาประเมินแล้วแต่อย่างใดจะต่ำกว่า กรณีทำประกันคุ้มครองวงเงินกู้ (MRTA) กำหนดให้ทุนประกันภัย 100% ของวงเงินกู้ และระยะเวลาความคุ้มครองขั้นต่ำ 10 ปี ผ่อนชำระค่างวดกับสถาบันการเงินเดิม มาแล้วไม่ต่ำกว่า 12 เดือน
ระยะเวลาผ่อนชำระ
ผ่อนชำระนานสูงสุดถึง 30 ปี
วงเงินกู้ และระยะเวลาอนุมัติ
วงเงินกู้อนุมัติสูงสุด 50 ล้านบาท หลังจากที่ธนาคารได้รับเอกสารประกอบการขอสินเชื่อครบถ้วน เจ้าหน้าที่จะติดต่อกลับเพื่อแจ้งผลการอนุมัติเบื้องต้นภายใน 3 วัน ในช่วงวันและเวลาทำการ
คุณสมบัติและเอกสารการขอบริการ
ผู้มีรายได้ประจำ สัญชาติไทย อายุ 20 ปีขึ้นไป อายุงานปัจจุบันรวมอายุงานเดิมไม่ต่ำกว่า 1 ปี รายได้หลักต้องไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท/เดือน และรายได้รวมทั้งหมดต้องไม่ต่ำกว่า 15,000 บาท/เดือน (ต่อผู้กู้ 1 คน) ไม่มีประวัติหนี้ค้างชำระ และไม่มีประวัติถูกดำเนินคดีแพ่งและอาญา
เจ้าของธุรกิจ
สัญชาติไทย อายุ 25 ปีขึ้นไป ประกอบธุรกิจมาไม่ต่ำกว่า 2 ปี มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือน ไม่มีประวัติหนี้ค้างชำระ และไม่มีประวัติถูกดำเนินคดีแพ่งและอาญา ต้องไม่เป็นบุคคลล้มละลายหรือไร้ความสามารถ เอกสารประกอบการพิจารณาสินเชื่อ
เอกสารแสดงตัว
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน / Passport (2 ชุด) สำเนาทะเบียนบ้าน หน้าแรกที่มีที่อยู่และหน้าที่มีชื่อของผู้ขอเอกสาร (1 ชุด) ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี) สำเนาทะเบียนสมรส / ใบหย่า / ใบมรณบัตรของคู่สมรส (ถ้ามี)
เอกสารสำหรับผู้มีรายได้ประจำ
สลิปเงินเดือน / หนังสือรับรองเงินเดือน (อายุไม่เกิน 2 เดือน) Bank Statement บัญชีเงินเดือน (6 เดือนล่าสุด)
เอกสารสำหรับผู้มีอาชีพอิสระ / เจ้าของธุรกิจ
สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล สำเนาหนังสือบริคณห์สนธิ และสำเนาหนังสือบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (อายุไม่เกิน 3 เดือน) Bank Statement บัญชีเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจ (6 เดือนล่าสุด) Bank Statement บัญชีหมุนเวียนส่วนของผู้กู้ (6 เดือนล่าสุด) แผนที่สถานที่ประกอบธุรกิจ
เอกสารแสดงหลักประกัน
สำเนาโฉนดหลักประกัน / สำเนาหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด สำเนาสัญญาจะซื้อจะขาย / สำเนาใบจอง แผนที่ที่ตั้งหลักประกัน สัญญาเงินกู้ สัญญาจำนอง
คำนวณค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น
คำนวณโดยเปรียบเทียบ 3 แบบ ไม่รีไฟแนนซ์ ดอกเบี้ย 7% รีไฟแนนซ์ด้วยดอกเบี้ยเฉลี่ยจากธนาคารส่วนใหญ่ (เฉลี่ย 3 ปีแรก 4.28% หลังจากนั้น 5.9%) รีไฟแนนซ์ด้วยดอกเบี้ยที่ถูกที่สุด (ดอกเบี้ยที่ถูกที่สุดคือ 3 ปีแรก 3.09% ปีที่ 4-5 4.99% หลังจากนั้น 5.5%) ตัวอย่าง ยอดหนี้ 3,000,000 บาท ผ่อนอีก 25 ปี ไม่รีไฟแนนซ์เลย จะประหยัดได้ 0 บาท (เสียดอกเบี้ย 3,361,014 บาท) รีไฟแนนซ์ไปธนาคารใดสักแห่งที่ดอกเบี้ยกลางๆ จะประหยัดเงินจากดอกเบี้ยได้ 447,505 บาท รีไฟแนนซ์ไปธนาคารที่ดอกเบี้ยถูกที่สุด จะประหยัดเงินจากดอกเบี้ยได้ 801,557 บาท ถ้ารีไฟแนนซ์ไปธนาคารที่ถูกที่สุด จะมีเงินเก็บเพิ่มขึ้นถึง 801,557 - 447,505 = 354,052 บาท
ถ้าสมมุติไม่ได้รีไฟแนนซ์ครั้งเดียว แต่รีไฟแนนซ์ทุก 3 ปีเพื่อประหยัดดอกเบี้ยอย่างเต็มประสิทธิภาพที่สุด ตัวเลขเดิม ยอดหนี้ 3,000,000 ผ่อนอีก 25 ปี แต่คราวนี้รีไฟแนนซ์ทุก 3 ปี ด้วยโปรโมชั่นที่ดีที่สุด จะประหยัดเงินจากดอกเบี้ยได้ถึง 2,050,863 บาท (จ่ายดอกเบี้ยเพียง 1,310,151 บาท)
เอกสาร
1. เอกสารแสดงข้อมูลส่วนบุคคล
เอกสารประเภทนี้จะเป็นเอกสารเกี่ยวกับผู้กู้ เพื่อให้ธนาคารสามารถยืนยันตัวตนได้ว่า เป็นตัวผู้กู้จริงๆ ไม่ใช่บุคคลอื่นมาแอบอ้าง โดยส่วนใหญ่เอกสารประเภทนี้จะประกอบด้วย สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี) สำเนาบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน ของคู่สมรส (ถ้ามี) สำเนาทะเบียนสมรส (ถ้ามี) / หย่า (ถ้ามี) สำเนาใบมรณบัตร และทะเบียนสมรสของคู่สมรส (กรณีคู่สมรสเสียชีวิต) *ถ้ามีผู้กู้ร่วม ต้องให้ผู้กู้ร่วมเตรียมเอกสารแสดงข้อมูลส่วนบุคคล
2. เอกสารแสดงรายได้
ในส่วนนี้จะเป็นส่วนหลักที่ธนาคารใช้พิจารณาว่าเราเข้าเงื่อนไขของธนาคารหรือไม่ เพราะสามารถแสดงสถานะการเงิน รายได้ และประวัติการเดินบัญชี ซึ่งเอกสารประเภทนี้จะถูกแบ่งเป็น 2 กลุ่ม 2.1 กรณีบุคคลมีรายได้ประจำ สลิปเงินเดือน ย้อนหลัง 3 เดือน หรือหนังสือรับรองการทำงาน สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน หนังสือผ่านสิทธิสวัสดิการ (ถ้ามี) สำเนารับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ) (สำหรับบางธนาคารเท่านั้น) 2.2 กรณีบุคคลที่ประกอบธุรกิจส่วนตัว สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียน/ใบทะเบียนการค้า สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีชื่อผู้กู้/ผู้กู้ร่วม สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 12 เดือน (ทั้งในนามบุคคล และกิจการ) สำเนา ภ.พ. 30 (ถ้ามี) หรือ ภงด. 50/51 ย้อนหลัง 5 เดือน (ถ้ามี) สำหรับเอกสารประเภทนี้ บางธนาคารอาจจะขอไม่เท่ากัน เช่น สำเนาบัญชีย้อนหลังอาจจะขอนานถึง 12 เดือน
3. เอกสารด้านหลักประกัน
จะเป็นเอกสารที่ยืนยันความเป็นเจ้าของหลักประกันที่จะนำมารีไฟแนนซ์ ซึ่งมีทั้งเอกสารจากธนาคารเดิม และเอกสารจากกรมที่ดิน ประกอบด้วย สำเนาเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์หลักประกัน (เช่น โฉนดที่ดิน หรือ หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด อช.2) สำเนาหนังสือสัญญาขายที่ดิน ทด.13 หรือ สัญญาให้ที่ดิน ทด.14 หรือ สัญญาซื้อขายห้องชุด สำเนาหนังสือสัญญาจำนองที่ดิน หรือ สำเนาสัญญาจำนองห้องชุด สำเนาสัญญาเงินกู้กับสถาบันการเงินเดิม สำเนาใบเสร็จผ่อนชำระค่างวดบ้าน หรือ ถ้าผ่อนชำระแบบตัดค่างวดอัตโนมัติ ให้ใช้ รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 12 เดือน
ยื่นขออนุมัติรีไฟแนนซ์
ขั้นตอนในการยื่นรีไฟแนนซ์ มีดังนี้
- ทราบผลการอนุมัติรีไฟแนนซ์จากธนาคารแห่งใหม่
- ติดต่อธนาคารเดิมเพื่อขอไถ่ถอนที่ดินและปิดบัญชีสินเชื่อเดิม
- นัดธนาคารเดิมและธนาคารแห่งใหม่มาทำนิติกรรม
- จดจำนองสินทรัพย์
ดังนั้นก่อนการรีไฟแนนซ์บ้านเราควรหาข้อมูลของแต่ละธนาคารรวมถึงขอรายละเอียด และคิดให้ดีก่อนการตัดสินใจนะครับและหวังว่าข้อมูลเกี่ยวกับการรีไฟแนนซ์บ้านรวมถึงข้อมูลจากทางธนาคารจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังคิดจะทำเรื่องรีไฟแนนซ์บ้านนะครับ
สุภา
ขอบคุณมากครับสำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพราะว่าในอนาคตผมอาจจะต้องใช้ข้อมูลนี้ในการหาความรู้อีกครั้ง ตอนนี้ผ่อนบ้านมาได้ระยะนึงแล้วแต่เจอพิษโควิดค่อนข้างจะหาเงินมาผ่อนไม่ทัน เลยคิดว่าต่อไปอาจจะต้องรีไฟแนนซ์บ้านครับ แต่ผมก็ยังไม่ได้เข้าใจข้อมูลมากเท่าไหร่เกี่ยวกับการรีไฟแนนซ์ ตอนนี้พอมาอ่านเข้าใจมากขึ้นครับ
ton
ขอบคุณครับสำหรับข้อมูลที่เขียนมาให้ ผมคิดว่าดีมากเลยนะครับสำหรับคนที่กำลังทำการผ่อนบ้าน คอนโด เป็นตัวเลือกอีกทางหนึ่งที่จะช่วยให้การผ่อนชำระบ้านได้สะดวกสบายมากขึ้นโดยที่ไม่ต้องเครียดเกินไปถ้ายังผ่อนไม่หมด สามารถทำการรีไฟแนนซ์ในการช่วยเหลือตัวเองในการผ่อนชำระ ทำให้ได้รับการผ่อนชำระที่สบายมากขึ้นดอกเบี้ยถูกขึ้นครับ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้คนที่กำลังทำการผ่อนชำระนะครับ
น้ำหวาน
วิธีหนึ่งที่เราจำเป็นจะต้องทำให้การผ่อนบ้านของเรามีดอกเบี้ยถูกลงก็คือการรีไฟแนนซ์ ซึ่งเราจำเป็นต้องสังเกตเกี่ยวกับการรีไฟแนนซ์ด้วยว่าภาระการจ่ายจะนานขึ้นและดอกเบี้ยถูกขึ้นจริงไหม บทความนี้ได้อธิบายเกี่ยวกับการรีไฟแนนซ์ด้วยตัวเราเองว่าจำเป็นต้องใช้หลักฐานและเอกสารอะไรบ้าง เธอช่วยเราสามารถเตรียมตัวได้อย่างถูกต้องสำหรับการรีไฟแนนซ์ค่ะ
Pornwalai
เพิ่งดูข่าวเมื่อไม่นานมานี้ เจ้าของบ้านหลังนึงประกาศให้คนมาผ่อนบ้านต่อจากตัวเองได้เลย ที่เคยจ่ายมาแล้วยกให้ฟรีแค่มาผ่อนต่อเท่านั้น เพราะพิษโควิด-19 เนี่ยแหละ น่าเห็นใจมากเลยค่ะมันทำใจยากมากเลยนะบ้านของตัวเองแท้ๆ แต่ก็ต้องยอมเพราะเลือกที่จะดูแลครอบครัวมากกว่า เขาคงคิดแล้วว่าจะกู้เงินเพิ่มหรือรีไฟแนนซ์ก็คงไม่ไหวละ
เบื้องญวณ
เข้าท่า ดีนะ เอาบ้านไปรีไฟแนนซ์ อยากทำอยู่นะ แต่ติดปัญหา ว่าบ้าน เราตอนนี้ ผ่อนมาได้ไม่นานเอง กำลังลังเลว่าจะไปต่อหรือจะพอเท่านั้น ตอนที่ซื้อเราว่าสามารถส่งได้ แต่ตอนนี้ไปไม่ไหวแล้ว พอซื้อบ้าน ช่วงแรกๆก็ส่งได้สบายๆ แต่ พอมา หลังๆมันมีเรื่องใช้เงินมากเลย เอาไงดี เพื่อนๆ คิดว่าเราจะกัดฟันส่งต่อดี่ไหม หรือว่า จะพอดีกว่า
รูน
เราเองเป็นฟรีแลนซ์ที่กำลังผ่อนบ้านตอนนี้ต้องการรีไฟแนนซ์บ้าน แต่ว่ายังไม่ได้แต่งงานไม่รู้จะไปหาคนค้ำประกันที่ไหนจะยากก็ไม่ได้อยู่ในจังหวัดเดียวกัน สงสัยต้องขอให้ลุงกับป้าที่อยู่จังหวัดข้างๆมาช่วยค้ำ แล้วก็เรื่องเอกสารนี้เราก็กำลังเตรียมอยู่เหมือนกัน พอเห็นแบบนี้ก็รู้สึกว่าถ้าใช้เอกสารแค่นี้เราก็มีเอกสารครบแล้วถ้าเป็นฟรีแลนซ์อยากจะรีไฟแนนซ์บ้าง
sandee_mama
เป็นบทความที่ดีมากๆเลยค่ะ มีประโยชน์กับคนที่จะต้องผ่อนบ้านมากเลย แต่ฉันอ่านแล้วก็มีความสงสัยค่ะว่าการทำรีไฟแนนซ์บ้านกับการรีไฟแนนซ์รถนี้เราต้องทำเหมือนกันเลยหรือเปล่าค่ะ ฉันสงสัยมากๆเลยค่ะ ฉันเคยแต่รีไฟแนนซ์บ้านไม่เคยรีไฟแนนซ์รถสักครั้งแต่เคยได้ยินมาว่าธนาคารก็ให้มีการรีไฟแนนซ์รถได้เหมือนกันค่ะ ใครรู้ช่วยตอบกันหน่อยนะคะ
แอนนา
@คุณเบื้องญวณ ถ้าผ่อนไม่ไหวแนะนำให้รีไฟแนนซ์ค่ะ เพราะจะช่วยให้ดอกเบี้ย ที่คุณต้องจ่ายในแต่ละเดือนลดลง และทำให้มีระยะเวลาการผ่อนชำระที่ยาวนานขึ้น.....ไม่ทราบว่าผ่อนมาแล้วกี่ปีคะ? ถ้าคุณต้องการรีไฟแนนซ์บ้านก่อนครบกำหนด 3 ปี ก็สามารถทำได้นะคะ แต่อาจจะต้องเสียค่าปรับเฉลี่ย 0-3% ของวงเงินที่ขอกู้ ต้องลองคิดคำนวณดูว่าจะคุ้มไหม
หวาน
พอได้อ่านบทความนี้ปวดหัวแทนเลยค่ะสำหรับคนที่อยากจะรีไฟแนนท์บ้านให้สามารถผ่อนชำระได้หมดเร็วๆ เพราะเห็นแล้วว่าจำเป็นต้องมีการเตรียมเอกสารเยอะแยะเต็มไปหมดเลย แล้วยังมีค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ่ายอีกตามมาด้วยถ้าไม่มีเงินเก็บหรือเงินออมสักก้อนหนึ่งที่จะช่วยในการดำเนินการเหล่านี้แล้ว รับรองว่าต้องหาเงินยุ่งเลยค่ะ
ชนกกมล
เราก็นึกว่าสามารถ รีไฟแนนซ์ ได้เพียงครั้งเดียว ที่ไหนได้ เราสามารถรีไฟแนนซ์ได้ทุกๆสามปีเลย ดีจัง แล้วเมื่อคำนวนดอกเบี้ยแล้วก็ลดลงด้วย ถือว่าเป็นเทคนิคของการรีไฟแนนซ์จริงๆ ใครที่อยากประหยัดเรื่องของดอกเบี้ยก็ลองๆเอาวิธีการการขอรีไฟแนนซ์แบบนี้ไปใช้ได้นะ ยิ่งช่วงนี้ด้วย ถ้าไปขอรีไฟแนนซ์ น่าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้อยู่คะ