ในชีวิตคนเรามีเรื่องมากมายที่อยู่ใกล้ตัวเรา ซึ่งเรื่องใกล้ตัวนี่แหละที่เรามักมองข้ามและไม่เห็นความสำคัญถึงกับไม่ใส่ใจด้วยซ้ำ อย่างเช่นอะไรบ้าง? เราอาจจะลืมเอาใจใส่คนในครอบครัว หรือเราอาจจะลืมเอาใจใส่กับงานอาชีพที่เราทำ เพื่อนๆเคยละเลยเรื่องเหล่านี้บ้างไหม? ไม่ว่าเพื่อนๆจะตอบว่ายังไงคนเราก็ต้องเคยมีกันบ้างที่หลงลืมและละเลยสิ่งสำคัญใกล้ตัวที่พบเจอพบเห็นอยู่ทุกวัน คงอาจจะเป็นเพราะว่าเวลามันหมุนเร็วขึ้นหลายคนเร่งรีบรีบร้อนและเหนื่อยหล้ากับปัญหาการทำงานหาเลี้ยงชีพ แม้กระทั่งสุขภาพคนตัวเองหลายคนก็ละเลยที่จะเอาใจใส่ด้วยซ้ำไป บางคนทำงานจนป่วย บางคนทำจนไม่ได้ให้เวลากับลูกๆ สุดท้ายแล้วการละเลยสิ่งใกล้ตัวบางเรื่องก็ส่งผลเสียหายนะ

ที่พูดถึงสิ่งใกล้ตัวขึ้นมาแบบนี้ก็เพราะว่าบทความนี้จะพูดถึงสิ่งใกล้ตัวอย่างหนึ่งที่หลายคนละเลยไม่ใส่ใจเท่าที่ควรนั่นก็คือ พ.ร.บ. รถทุกคันต้องมีพ.ร.บ.ตามที่กฎหมายกำหนด ทุกคนที่มีรถต้องไปต่อพ.ร.บ.ทุกๆปีจึงพูดได้ว่าพ.ร.บ.เป็นเรื่องใกล้ตัวของคนเราจริงๆ แต่หลายคนกลับไม่คุ้นเคยกับพ.ร.บ.เท่าที่ควรทั้งๆที่เป็นเอกสารสำคัญๆอย่างหนึ่งเลยแถมมีประโยชน์มากๆด้วยเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา นั่นก็เป็นเพราะว่าหลายคนละเลยและไม่ใส่ใจเรียนรู้จักเจ้าพ.ร.บ.ตัวนี้นี่เอง เพื่อนๆล่ะรู้จักความหมายและประโยชน์ของเจ้าพ.ร.บ.ตัวนี้มากน้อยแค่ไหนกัน? บทความนี้จะพาเพื่อนๆมารู้จักคุณสมบัติและความสำคัญของเจ้าพ.ร.บ.ให้มากขึ้นกันค่ะ คุ้นหูแล้วต้องคุ้นเคยด้วยนะ

พ.ร.บ. คืออะไร?

พ.ร.บ. คืออะไร?

พ.ร.บ. คือ ประกันรถยนต์ภาคบังคับตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถปี 2535 เป็นประกันรถยนต์ที่มีบังคับตามกฎหมายว่ารถทุกประเภทต้องมีไม่ว่าจะเป็น รถจักรยานยนต์ รถยนต์ทุกประเภท รถโดยสาร รถบรรทุก รถพ่วง ส่วนรถที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องมีพ.ร.บ. คือ รถยนต์พระที่นั่งพระมหากษัตริย์ รถทหาร รถในส่วนราชการต่างๆ  พ.ร.บ.มีหน้าที่คุ้มครองความเสียต่อตัวบุคคลผู้ขับขี่เมื่อเกิดอุบัติเหตุโดยตรงไม่ว่าจะเป็นในกรณีใดก็ตาม แต่ไม่คุ้มครองค่าใช้จ่ายในส่วนของความเสียที่มีต่อรถ ดังนั้นเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาค่าใช่จ่ายส่วนแรกที่ผู้บาดเจ็บจะได้รับจะมาจากพ.ร.บ.นั่นเอง แล้วค่าจ่ายในส่วนอื่นๆก็ตามทีหลังไม่ว่าจะเป็นสิทธิ์ประกันสังคม ประกันอุบัติเหตุอื่นๆที่ผู้ขับขี่ได้ทำไว้ หรือประกันรถยนต์ เป็นต้น ดังนั้น พ.ร.บ.จึงจำเป็นและสำคัญมากที่คนมีรถต้องมีและต้องต่ออายุอยู่เสมออย่าให้ขาดเพื่อเป็นการทำให้ถูกต้องตามกฎหมายการใช้รถใช้ถนนค่ะ

ไม่มีพ.ร.บ. ส่งผลเสียอย่างไร?

ไม่มีพ.ร.บ. ส่งผลเสียอย่างไร?

อย่างที่บอกไปว่าพ.ร.บ.เป็นประกันรถยนต์ภาคบังคับตามกฎหมายถ้าไม่มีพ.ร.บ.ก็แสดงว่าผู้ใช้รถใช้ถนนได้ทำผิดกฎหมายยังไงล่ะ เพื่อนๆมีโอกาสที่จะต้องเสียค่าปรับแน่นอนเมื่อเจอตำรวจจราจรตรวจเช็ครถบนท้องถนนซึ่งต้องเสียค่าปรับไม่เกิน 10,000 บาท บวกกับการไม่มีการต่อทะเบียนรถอีกประมาณ 400 – 1,000 บาทเลยทีเดียว เสียหายมากอยู่เหมือนกันนะ แล้วอีกกรณีหนึ่งที่เสียหายเมื่อไม่มีพ.ร.บ.ก็คือ ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุเพื่อนๆจะไม่ได้รับสิทธิ์ค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้นแต่ต้องจ่ายเองทั้งหมดเมื่อเป็นอย่างนั้นก็ทำให้เดือดร้อนไม่น้อยเลยนะคะ ใครมีรถขับขี่ควรต่อพ.ร.บ.อยู่เสมออย่าให้ขาดนะ

มีพ.ร.บ. ส่งผลดีอย่างไร?

มีพ.ร.บ. ส่งผลดีอย่างไร?

เมื่อได้ทราบถึงผลเสียจากการไม่ต่อพ.ร.บ.ไปแล้ว เมื่อมองกลับกันก็จะเห็นผลดีของการมีพ.ร.บ.อย่างชัดเจนเลยค่ะ เพื่อนๆที่มีพ.ร.บ.คุณได้ทำตามกฎหมายจราจรอย่างถูกต้องไม่ต้องกลัวเสียค่าปรับแน่นอน และในกรณีเกิดอุบัติเหตุเพื่อนๆจะได้รับการดูแลค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้นทันทีไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผิดหรือเป็นฝ่ายถูกก็ตาม นอกจากนั้นยังได้รับเงินชดเชยตลอดการรักษาตัวที่โรงพยาบาลด้วย พ.ร.บ.เป็นเหมือนตัวช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายที่ดีแม้เพื่อนๆจะมีประกันอุบัติเหตุอยู่แล้วก็ตามค่ะ มีทั้งประกันที่ซื้อเองและประกันตามกฎหมายก็สบายใจกว่าจริงไหม? ซึ่งค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้นที่จะได้รับคือ 30,000 บาท แต่ถ้าในกรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพจะได้รับเงินชดเชย 35,000 บาทค่ะ แล้วถ้าหากว่ามีการพิสูจน์ว่าเพื่อนๆเป็นฝ่ายถูกก็จะได้รับค่ารักษาพยาบาลและเงินชดเชยมากกว่านั้นอีก คือ ค่ารักษาพยาบาล 80,000 บาท เงินชดเชยเมื่อต้องนอนโรงพยาบาลวันละ 200 บาท แต่ถ้าในกรณีเสียชีวิตได้รับเงินชดเชย 500,000 บาท หรือในกรณีทุพพลภาพจะได้รับเงินชดเชย 200,000 – 500,000 บาทค่ะ

เพื่อนๆเห็นความสำคัญของทำพ.ร.บ.แล้วหรือยัง? นี่แหละคือเรื่องใกล้ตัวที่เพื่อนๆหลายคนยังไม่รู้จักหน้าที่ของมันดีพอจึงไม่ใส่ใจนัก ตอนนี้คงจะเริ่มสนใจเจ้าพ.ร.บ.กันมากขึ้นแล้วล่ะสิ ยังไงก็อย่าสับสนด้วยนะพ.ร.บ.กับป้ายภาษีต่างกันนะคะ พ.ร.บ.เป็นเอกสารที่ไม่จำเป็นต้องติดไว้แต่ต้องเก็บให้ดีกับตัวรถ ส่วนป้ายภาษีคือแผ่นเล็กที่มีการระบุปีพ.ศ.อย่างชัดเจนที่กฎหมายบังคับให้ติดกับรถเพื่อแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนค่ะ แยกให้ออกแล้วเก็บให้ดีนะคะเพื่อนๆ

ต่อพ.ร.บ.ได้ที่ไหนบ้าง?

ต่อพ.ร.บ.ได้ที่ไหนบ้าง?

พ.ร.บ. เป็นประกันรถยนต์ภาคบังคับตามกฎหมาย ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็ต้องเดินทางไปต่อพ.ร.บ.ที่กรมการขนส่งทางบกเท่านั้น ซึ่งถ้าใครยังสะดวกที่จะเดินทางไปต่อพ.ร.บ.ที่กรมการขนส่งก็ทำได้นะ แต่ปัจจุบันนี้มีทางเลือกในการต่อพ.ร.บ.ให้มากกว่านั้น คือ เพื่อนๆสามารถต่อพ.ร.บ.ออนไลน์ได้แล้วที่เว็บไซต์ของบริษัทประกันรถยนต์ต่างๆตามที่เพื่อนๆสะดวกได้เลย แล้วหลังจากที่ต่อพ.ร.บ.ออนไลน์เสร็จสิ้นก็ไม่ต้องไปที่กรมขนส่งนะเพื่อนๆสามารถใช้เอกสารพ.ร.บ.ที่ได้มาแจ้งต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ได้เลยที่เว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบกค่ะ ไม่ว่าจะต่อพ.ร.บ.หรือภาษีรถยนต์ก็ไม่ต้องเดินทางไปไกลหรือรอคิวนานๆแล้วนะ สามารถทำผ่านช่องทางออนไลน์ได้ทั้งหมดเลยเพียงแต่เพื่อนๆต้องกรอกข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับรถของเพื่อนๆให้ถูกต้องก็เท่านั้นเองค่ะ ง่ายและสะดวกมากๆเลยนะ และไม่ต้องห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายนะ ค่าใช้จ่ายในการต่อพ.ร.บ.ของทุกๆที่เท่ากันทั้งหมดเลยค่ะ ยกตัวอย่าง สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลค่าใช้จ่ายสำหรับการต่อพ.ร.บ.ออนไลน์อยู่ที่ 645 บาทค่ะ เอกสารที่ใช้ในการต่อพ.ร.บ.ก็คือ เล่มทะเบียนตัวจริงรถนั่นเอง ไม่มีอะไรยุ่งยากเลยจริงๆ

พ.ร.บ. ความคุ้มครองภาคบังคับตามกฎหมายไม่มีไม่ได้นะ

พ.ร.บ. ความคุ้มครองภาคบังคับตามกฎหมายไม่มีไม่ได้นะ

อะไรก็ตามที่เราจำเป็นต้องทำตามที่กฎหมายกำหนดก็ควรทำนะ เพื่อผลดีต่อตัวเองและคนรอบข้าง พ.ร.บ.คือหนึ่งในเรื่องใกล้ตัวที่สำคัญควรเอาใจใส่โดยเฉพาะคนที่มีรถไม่ว่าจะเป็นรถประเภทอะไรก็ตาม นอกจากเอาใจใส่ไม่ให้หมดอายุแล้ว การเรียนรู้จักถึงหน้าที่และประโยชน์ของพ.ร.บ.จะทำให้เพื่อนๆคุ้นเคยกับเจ้าพ.ร.บ.มากขึ้น เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจะได้รับประโยชน์จากพ.ร.บ.อย่างเต็มที่ยังไงล่ะ ไม่ใช่คนมีรถทุกคนจะสามารถซื้อประกันอุบัติเหตุได้จริงไหม? ดังนั้นพ.ร.บ.คือตัวช่วยที่ดีเรื่องค่ารักษาพยาบาลให้กับผู้บาดเจ็บตั้งแต่ค่ารักษาเบื้องต้นไปจนถึงเงินชดเชยในกรณีต่างๆเลยทีเดียว เมื่อมีพ.ร.บ.เพื่อนๆจะได้ประโยชน์หลายอย่างแต่ถ้าไม่มีพ.ร.บ.เพื่อนจะได้รับผลเสียหลายอย่างเหมือนกัน ยังไงก็ตามผู้เขียนก็เชื่อว่าเพื่อนๆหลายคนคงคุ้นหูและรู้จักดีอยู่แล้วกับพ.ร.บ.แต่การอ่านบทความนี้จะต้องทำให้เพื่อนๆคุ้นเคยและเข้าใจบทบาทหน้าที่ของพ.ร.บ.มากกว่าเมื่อก่อนแน่นอนค่ะ ใช้รถใช้ถนนควรปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัดและอย่าละเลยเรื่องสำคัญใกล้ตัวด้วยนะ ไม่ใช่แค่เรื่องพ.ร.บ.เท่านั้น เรื่องใกล้ตัวเรื่องอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการขับขี่ก็เป็นเรื่องที่ต้องเอาใจใส่เหมือนกันค่ะ